คุ้มไหม ? สแกนม่านตาแลกเงิน | ชัวร์ก่อนแชร์ in FOCUS
ปัจจุบันที่โลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทในทุกแง่มุมของชีวิต รวมถึงการยืนยันตัวตนของเราในรูปแบบดิจิทัล ด้วย Digital ID กลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หนึ่งในกระแสที่มีการพูดถึงอย่างกว้างขวางเมื่อไม่นานมานี้ นั่นคือ World App แอปพลิเคชันที่ใช้ระบบยืนยันตัวตนที่เรียกว่า World ID ด้วยการ “สแกนม่านตา” เพื่อยืนยันตัวตนว่าเป็นมนุษย์จริง ๆ โดยมีผลตอบแทนเป็นสกุลเงินดิจิทัล ทำให้หลายคนเกิดความสนใจและตั้งคำถามว่า การแลกสแกนม่านตาซึ่งเป็นหนึ่งในข้อมูลชีวภาพของเราเพื่อแลกมา คุ้มค่าและปลอดภัยจริงหรือไม่
World ID คืออะไร ?
อาจารย์ปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยไซเบอร์ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอซิส โปรเฟสชั่นนัล เซ็นเตอร์ จำกัด ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยี “World ID” ในรายการชัวร์ก่อนแชร์ PODCAST | THE CYBER MINDSET เอาไว้ว่า
เทคโนโลยี “World ID” พัฒนาโดย Sam Altman CEO ของ OpenAI เจ้าของผู้พัฒนาแชทจีพีที (ChatGPT) โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบยืนยันตัวตนที่เรียกว่า World ID เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้งานเป็นมนุษย์จริง ผู้ที่เข้าร่วมจะต้องสแกนม่านตาผ่านอุปกรณ์ที่ใช้ในการยืนยันตัวตน ที่เรียกว่าโออาร์บี (Orb) เพื่อรับโทเคน Worldcoin (WLD) เป็นผลตอบแทน ซึ่งผู้ให้บริการจะแปลงม่านตาให้เป็นโค้ดเข้ารหัส (Iris Code) ที่มีความแตกต่าง เพื่อยืนยันว่าผู้ใช้เป็นมนุษย์จริง ๆ และไม่ต้องเปิดเผยตัวตน โดยข้อมูลจะถูกลบจากโออาร์บี (Orb) ทันทีหลังยืนยัน
“ม่านตา” ทรัพย์สินดิจิทัลที่มีมูลค่าสูง
คุณสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวถึงมุมมองในกรณีการสแกนม่านตาเพื่อรับโทเคนดังกล่าวกับชัวร์ก่อนแชร์ ว่า
แม้ปัจจุบัน การสแกนม่านตาในลักษณะดังกล่าว ยังไม่ถือเป็นความผิดตามกฎหมายในประเทศไทย เนื่องจากผู้ยินยอมสแกนม่านตา แสดงความยินยอมด้วยตนเอง แต่ม่านตาเป็นทรัพย์สินดิจิทัลที่มีมูลค่าสูง แต่คนส่วนใหญ่ไม่ทราบและยอมแลกในราคาที่ถูกมาก หากเปรียบ 1,000 โทเคน เท่ากับประมาณ 1,000 บาท
ทั้งนี้ ม่านตาจัดเป็นข้อมูลส่วนบุคคลชั้นสูงสุด ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบได้หลากหลาย โดยเฉพาะในด้านอาชญากรรมไซเบอร์ เช่น การสร้าง Deepfake ในหลายประเทศ เช่น สเปน บราซิล อินเดีย เยอรมนี โปรตุเกส เคนยา โคลอมเบีย และอินโดนีเซีย ยังไม่อนุญาตให้มีการสแกนม่านตาเพื่อเก็บข้อมูลบุคคล
สแกนม่านตาไปแล้ว ทำอะไรได้บ้าง ?
หากเข้าร่วมโครงการ World App และได้สแกนม่านตาไปแล้ว แต่เกิดความกังวลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัว สามารถตรวจสอบเงื่อนไขการจัดเก็บข้อมูลและติดตามความเคลื่อนไหวของเว็บไซต์ดังกล่าวได้
ตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Worldcoin อีกครั้ง เพื่อดูว่ามีเงื่อนไขหรือกระบวนการใดที่อนุญาตให้ผู้ใช้ ขอให้ลบข้อมูล ม่านตาของตนเองออกจากระบบได้หรือไม่ โดยปกติแล้วเว็บไซต์จะมีส่วน “Privacy Policy” หรือ “Terms of Service” ที่อธิบายเรื่องนี้ไว้
ติดตามความเคลื่อนไหวของเว็บไซต์ Worldcoin อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ทราบว่าทางโครงการมีการนำข้อมูลไปใช้ในรูปแบบใด และมีมาตรการป้องกันข้อมูลอย่างไรบ้างในอนาคต
ทั้งนี้ คุณสารี อ๋องสมหวัง ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการให้ความยินยอมแก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้ประกอบการ สามารถรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูล รวมถึงระงับการใช้ข้อมูลได้ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เช่น
มาตรา 33 เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินการลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลได้ เมื่อ
– ข้อมูลหมดความจำเป็นต่อวัตถุประสงค์ที่เก็บ ใช้ หรือเปิดเผย
– เจ้าของข้อมูลถอนความยินยอม และผู้ควบคุมข้อมูลไม่มีสิทธิทางกฎหมายที่จะเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยต่อไป
– เจ้าของข้อมูลคัดค้านการเก็บ ใช้ หรือเปิดเผย และผู้ควบคุมข้อมูลไม่สามารถปฏิเสธคำขอได้ตามที่กฎหมายกำหนด
– ข้อมูลถูกเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
หากผู้บริโภคมีข้อสงสัย หรือเจอปัญหา สามารถติดต่อสภาองค์กรของผู้บริโภคเพื่อปรึกษาและร้องเรียนได้ที่ สายด่วน 1502 หรือติดตามข่าวเตือนภัยผู้บริโภค รวมถึงข่าวอื่น ๆ เกี่ยวกับผู้บริโภคได้ที่ เว็บไซต์ https://www.tcc.or.th/ สภาองค์กรของผู้บริโภค
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบได้ที่ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
15 สิงหาคม 2568
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
รวบรวมและเรียบเรียง โดย นัฐภรณ์ ผลพฤกษา
ข้อมูลจาก
Digtal ID ในยุค AI | ชัวร์ก่อนแชร์ PODCAST | THE CYBER MINDSET
https://youtu.be/Eu5ATHRWS7w?si=WZlSX23LV4E85d0H
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/A/069/T_0052.PDF