SAFE โชว์กำไร Q2/68 โต 5.9% รับแรงหนุนแผนมีบุตรปีม้า ลุ้นกฎหมายอุ้มบุญหนุนโตระยะยาว
บมจ.เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป (SAFE) รายงานกำไรไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.91% จากไตรมาสก่อน บนรายได้ 173.48 ล้านบาท รับสัญญาณบวกครึ่งปีหลังจากความต้องการวางแผนมีบุตรในปีม้า (2569) ตามปฏิทินจีน ซึ่งเริ่มตั้งแต่เมษายน 2568 ถึงมีนาคม 2569 หนุนความต้องการใช้บริการแพทย์เฉพาะทางเพิ่มขึ้น พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์การตลาดด้วยแพ็กเกจตรวจสุขภาพและเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์หลากหลายรูปแบบ มุ่งดึงลูกค้าทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันคาดว่าปี 2568 รายได้และกำไรจะเติบโตต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจากเทรนด์การมีบุตรในปีมงคล และความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.อุ้มบุญ ซึ่งหากผ่านบังคับใช้จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการเติบโตระยะยาวของบริษัท
นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SAFE เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 2/68 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568) มีกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.91% เทียบไตรมาส 1/68 ส่วนรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 173.48 ล้านบาท
แรงหนุนครึ่งปีหลัง SAFE รับกระแสวางแผนมีบุตรปีม้า ดันความต้องการใช้บริการพุ่ง
ส่วนแนวโน้มครึ่งหลังปี ได้รับสัญญาณบวกจากกลุ่มผู้ใช้บริการที่ต้องการวางแผนมีบุตรให้เกิดในปีมะเมีย หรือปีม้า (ปี 2569) ตามปฏิทินจีน ซึ่งจะเริ่มวางแผนการตั้งครรภ์ในช่วงเมษายน 2568 ถึงมีนาคม 2569 เพื่อปรึกษาแพทย์เฉพาะทางในการวางแผนการตั้งครรภ์และคลอดบุตรตามช่วงเวลาที่เหมาะสม ทั้งความพร้อมทางสุขภาพของคุณแม่ที่ต้องแข็งแรง ในช่วงการเก็บไข่และใส่ตัวอ่อน รวมถึงระหว่างการตั้งครรภ์อย่างใกล้ชิด เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์และคลอดบุตรในปีมะเมียตามที่ตั้งใจ ซึ่งจะเป็นแรงหนุนและช่วยผลักดันผลงานครึ่งปีหลังให้เติบโตเพิ่มมากขึ้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAFE กล่าวอีกว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2568 ของบริษัทฯ คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน จากการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดดึงดูดลูกค้าด้วยเทคโนโลยีใหม่ พร้อมจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายกระตุ้นให้ลูกค้าให้มาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้จากความต้องการมีบุตรในปีมงคล หรือปีม้า ยังจะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันสำคัญให้มาใช้บริการแพทย์เฉพาะทางเพื่อการมีบุตรแบบครบวงจรของ SAFE และหากผ่านกฎหมาย หรือ พ.ร.บ.อุ้มบุญสำเร็จ เชื่อว่าจะยิ่งช่วยสนับสนุนรายได้และกำไรของบริษัทฯ ให้แข็งแกร่ง และมีโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดด