โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

หนี้เสียพุ่ง! ธุรกิจทุกขนาดเสี่ยงล้ม ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชงรัฐรีเทิร์น “พักทรัพย์ พักหนี้”

Thairath Money

อัพเดต 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพไฮไลต์

น.ส.ธัญญลักษณ์ วัชระชัยสุรพล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ได้วิเคราะห์คุณภาพหนี้ธุรกิจของไทยในอนาคต โดยใช้ข้อมูลบัญชีลูกหนี้ธุรกิจจากฐานข้อมูลของบริษัท เครดิตแห่งชาติ จำกัด (NCB) หรือเครดิตบูโร ไตรมาส 1 ปีนี้ พบว่า แม้ภาพรวมหนี้ของธนาคารพาณิชย์ 9 แห่ง มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ขยับสูงขึ้นเล็กน้อย แต่มีปัญหาซ่อนอยู่ โดยฐานของข้อมูลของเครดิตบูโรจะกว้างกว่าธนาคารพาณิชย์ เพราะนับรวมหนี้แบงก์รัฐ และบริษัทปล่อยสินเชื่อที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์) พบว่า หนี้ที่เริ่มมีปัญหา (เอ็นพีแอล+หนี้ที่จับตาเป็นพิเศษค้างหนี้ 31-90 วัน) ล่าสุดไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 5.03% ซึ่งสูงกว่าช่วงโควิด 19 ที่อยู่ที่ 4.39% และยังเห็นหนี้ที่เริ่มค้างชำระ 31 วันถึง 90 วันเพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนั้น พบว่าลูกค้าธุรกิจยิ่งมีขนาดเล็ก จะยิ่งมีปัญหาหนี้เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นชัดกว่ากลุ่มอื่น ๆ โดยในกลุ่ม Super Micro หรือธุรกิจเล็กจิ๋ว เอ็นพีแอลมีสัดส่วน 14.81% ของสินเชื่อรวม กลุ่ม Micro หรือกลุ่มจิ๋วที่มีสัดส่วน 12.11% กลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก 9.75% กลุ่มธุรกิจขนาดกลาง 6.51% และขนาดใหญ่ 1.37% อย่างไรก็ตาม สัดส่วนหนี้ค้างชำระ 1-30 วัน มีทิศทางที่ปรับตัวลดลง จากการเร่งรัดมาตรการปรับโครงสร้างหนี้

นายกฤษฏิ์ แก้วหิรัญ นักวิจัยอาวุโส บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจที่เชื่อมโยงกับกำลังซื้อของตลาดในและต่างประเทศ เช่น ภาคการผลิต เห็นสัดส่วนหนี้ค้างชำระ 30 วันขึ้นไป ในกลุ่มขนาดกลางเล็กเพิ่มขึ้นสูง ขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่ของกลุ่มที่พักแรม มีสัดส่วนหนี้ค้างชำระเกิน 30 วันขึ้นไปอยู่ในระดับสูงที่สุด ส่วนธุรกิจที่เชื่อมโยงกับกำลังซื้อของตลาดในประเทศ เช่น ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ที่คุณภาพหนี้ด้อยลงในกลุ่มรายเล็ก-ย่อยในช่วงก่อนหน้าได้ขยายสู่ธุรกิจขนาดกลางมากขึ้น และธุรกิจก่อสร้าง-อสังหาริมทรัพย์ ภาพลบขยายมาถึงธุรกิจขนาดใหญ่

น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ได้จัดกลุ่มบัญชีสินเชื่อธุรกิจใหม่ตามลักษณะพฤติกรรมการชำระหนี้ของลูกหนี้ในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา เป็น 4 กลุ่ม คือ สถานะปกติ เริ่มไม่ปกติ ดีสลับแย่ และมีปัญหารุนแรง พบว่า แม้ 95% ของบัญชีจัดอยู่ในกลุ่มสถานะปกติ แต่จำนวนบัญชีที่จัดอยู่ในกลุ่มสถานะปกติเริ่มทยอยลดลงในช่วงหลังโควิด ขณะที่กลุ่มดีสลับแย่และกลุ่มที่มีปัญหารุนแรงเพิ่มสูงขึ้น โดยธุรกิจยิ่งเล็ก ยิ่งมีสัดส่วนของบัญชีสินเชื่อกลุ่มสถานะปกติลดลงมากกว่ากลุ่มอื่น ส่วนการปรับโครงสร้างหนี้จะมีประสิทธิผลที่สุดก็ต่อเมื่อทำตั้งแต่ธุรกิจเริ่มมีสัญญาณการค้างชำระ ไม่ใช่เข้าไปดูแลหลังจากที่เป็นเอ็นพีแอลไปแล้ว เพราะโอกาสการฟื้นตัวมีไม่ถึง 10%

น.ส.ธัญญลักษณ์ กล่าวต่อว่า หากไม่มีมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ที่ตรงกับความต้องการของลูกหนี้เพิ่มเติมจากที่มีอยู่ โอกาสที่เราจะเห็นลูกหนี้ธุรกิจกลุ่มเล็กจิ๋วไปจนถึงกลุ่มกลางเล็ก กลายเป็นหนี้เสียมากขึ้นในอนาคต และมีโอกาสล้มหายตายจากไปเพิ่มขึ้น รวมทั้งอาจจะเห็นลูกหนี้รายกลางและรายใหญ่ มีความสามารถชำระหนี้ลดลง แม้ยังไม่เป็นหนี้เสีย แต่อาจจะไปป่องอยู่ในกลุ่มหนี้ที่ขาดส่ง 31-90 วันมากขึ้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา การส่งออกที่ยังดีช่วยกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่อยู่ แต่ในครึ่งหลังของปี การส่งออกจะขยายตัวติดลบ

จึงมีเสนอแนะว่า รัฐบาลควรจัดมาตรการดูแลหนี้ให้เหมาะสมกับลักษณะการชำระหนี้ของกลุ่มลูกค้า อาจปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ชั่วคราวให้กับลูกค้าปกติที่ยังไม่ผิดนัดชำระหนี้ รวมถึงการนำโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ มาใช้อีกครั้ง ส่วนหนี้เอ็นพีแอล ควรส่งเสริมกระบวนการนอกศาล เช่น ตีโอนทรัพย์จบหนี้ โดยรัฐช่วยสนับสนุนค่าธรรมเนียม ขณะที่การปรับกฎเกณฑ์การตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เพื่อให้เกิดการตัดหนี้เสียออกไปขายจะช่วยได้อีกทาง อย่างไรก็ตาม การแก้วังวนของปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพที่ถาวร ต้องมีการปรับโครงสร้างยกระดับเศรษฐกิจอย่างจริงจัง เพื่อช่วยให้ธุรกิจไทยแข่งขันได้ มีความสามารถในการทำกำไรในระยะยาว

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : หนี้เสียพุ่ง! ธุรกิจทุกขนาดเสี่ยงล้ม ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชงรัฐรีเทิร์น “พักทรัพย์ พักหนี้”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thairath Money

ราคาทองวันนี้ล่าสุด 16 สิงหาคม 2568 ปรับเพิ่ม 50 บาท ราคาทองรูปพรรณ บาทละ 52,150 บาท

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หวยเกษียณถ้าซื้อทุกงวด แต่ "ไม่ถูกรางวัล" เลยจะคุ้มไหม? เริ่มซื้อตอนอายุเท่านี้จะมีเงินสะสมเท่าไร

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

"พลังงาน-อุตฯ" ผนึกกำลังเร่งออก กม.ให้ทุกบ้านติดตั้งโซลาร์เซลล์ได้เอง หนุนใช้พลังงานสะอาด

สยามรัฐ

"KBANK" ให้กรอบเงินบาทสัปดาห์หน้าที่ 32.10-32.80 บาท จับตา GDP-ส่งออกไทย-ถ้อยแถลงเฟด

สยามรัฐ

ยื้อ อยู่ แย่

สยามรัฐ

เงินทุนน้อย เล่นหุ้นกี่ชาติก็ไม่รวย เปิดมุมมองลงทุนฉบับ มด มนสิช "แมงเม่าคลับ"

TNN ช่อง16

รัฐบาลย้ำ เกษตรกร เร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทะเบียนปีการผลิต 2568/69

การเงินธนาคาร

ราคาทองวันนี้ (16 ส.ค.) เปิดตลาด ปรับขึ้น 50 บาท/บาททองคำ ราคาทองรูปพรรณ ขายออกบาทละ 52,200

การเงินธนาคาร

“ลุงติดเกาะ” วิดีโอ AI สุดไวรัลจาก TikTok สู่แคมเปญการตลาด แบรนด์ดังแห่ร่วมเทรนด์

The Better

"กสิกรฯ" มองวีคหน้ากรอบดัชนี SET ที่ 1,215-1,300 จุด เกาะติด GDP ไทย-ถ้อยแถลงเฟด-Fund Flow

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

หนี้เสียพุ่ง! ธุรกิจทุกขนาดเสี่ยงล้ม ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชงรัฐรีเทิร์น “พักทรัพย์ พักหนี้”

Thairath Money

หลายแบงก์ยังนิ่งไม่ลดดอกเบี้ย เริ่มกังวล NIM ผลกำไรอาจถูกบีบหนักไตรมาสหน้า

Thairath Money
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...