กองทัพภาค 2 อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันที่ 12 ส.ค.68
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ประจำวันที่ 12 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 14.00 น. โดยมีรายละเอียด ดังนี้
สถานการณ์โดยรวม
- เมื่อเวลา 09.10 น. กำลังพลหน่วยเฉพาะกิจกองร้อยทหารพรานที่ 2610 ได้จัดกำลังพลลาดตระเวนเส้นทางบริเวณจุบตะโมก พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อเฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัยของพื้นที่และป้องกันมิให้เกิดการรุกล้ำอธิปไตย ระหว่างลาดตระเวนตรวจสอบเส้นทาง กำลังพลได้ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิด ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ในอาณาเขตอธิปไตยของไทย สันนิษฐานเบื้องต้นจากเศษชิ้นส่วนที่พบในที่เกิดเหตุ คาดว่าจะเป็นทุ่นระเบิดชนิด PMN 2 โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ มีจำนวน 1 นาย คือ สิบเอก ธีรพล เพียขันที ได้รับบาดเจ็บ ขาซ้ายขาด ปัจจุบันได้นำกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว
การดำเนินงานด้านจิตอาสา
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม ให้ นายภพ ภูสมปอง รอง ผวจ.อุบลราชธานี เชิญดอกไม้ และตะกร้าสิ่งของพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่กำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ณ รพ.ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ยังความซาบซึ้ง และสำนึกใน พระมหากรุณาธิคุณแก่กำลังพล หาที่สุดมิได้
- ศอ.จอส.พระราชทาน จว.ศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จิตอาสา 904 จิตอาสาพระราชทาน ประชาชนจิตอาสา ร่วมอำนวยความสะดวกประชาชน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิด ได้มาให้ความรู้กับประชาชนในการสังเกตถึงความผิดปกติ ของบ้านเรือนพื้นที่ ที่ได้รับความเสียหาย และร่องรอยวัตถุอันตราย โดยให้ประชาชนสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตลอด
กองทัพภาคที่ 2 ยังคงขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน หากมีการพบเห็นวัตถุคล้ายระเบิด หรือวัตถุต้องสงสัย ให้ดำเนินการแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในทันที เพื่อประสานหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าดำเนินการตรวจสอบ เก็บกู้ หรือทำลาย และขอให้หลีกเลี่ยงการเข้าพื้นที่ดังกล่าวจนกว่าจะมีประกาศยืนยันความปลอดภัยโดยชัดเจน
อนึ่ง กองทัพบก ได้เปิดเผยเพิ่มเติมกรณีที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดบริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยพลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า จากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 09.10 น. สิบเอก ธีรพล เพียขันที สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2610 พร้อมกำลังพลรวม 7 นาย ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย บนเส้นทางประจำ ห่างจากปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างปฏิบัติภารกิจ สิบเอก ธีรพลฯ ได้เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางไว้ ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณข้อเท้าซ้าย ปัจจุบันได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และไม่เคารพต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งห้ามใช้และวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทุกชนิด นับเป็นการลอบโจมตีที่มีเป้าหมายต่อกำลังพลฝ่ายไทยโดยตรง และเกิดขึ้นในเขตแดนไทย
ยิ่งไปกว่านั้น เหตุลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งในพื้นที่ชายแดน สะท้อนถึงเจตนาร้ายและพฤติกรรมต่อเนื่องของฝ่ายกัมพูชาในการคุกคามฝ่ายไทย และละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนไทย สวนทางกับข้อตกลงหยุดยิงระหว่างประเทศในการประชุม GBC ที่ผ่านมา จึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า การใช้อาวุธโดยฝั่งกัมพูชายังคงมีอยู่ตลอดเวลาในช่วงมีข้อตกลงหยุดยิง
ยอมรับว่าพฤติกรรมและการกระทำลักษณะเช่นนี้ย่อมเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการในมาตรการหยุดยิงอย่างแน่นอน รวมถึงเป็นท่าทีที่ชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาต้องการจะคุกคามฝ่ายไทย ด้วยการใช้อาวุธทางทหารในรูปแบบซ้อนเร้นไม่เปิดเผย ทำให้เชื่อได้ว่ากัมพูชายังคงดำรงความมุ่งหมายที่จะทำร้ายฝ่ายไทยด้วยรูปแบบลอบทำร้ายอยู่เช่นนี้ตลอดเวลา ถึงแม้ว่า ณ ช่วงเวลานี้จะอยู่ในช่วงการตกลงที่จะหยุดยิง ซึ่งต้องไม่มีการใช้อาวุธต่อกันในทุกรูปแบบ
นอกจากนี้สิ่งที่เกิดขึ้นยังสอดรับกันอย่างเป็นระบบโดยเฉพาะจากการที่กัมพูชาไม่ยอมตอบรับข้อเสนอฝ่ายไทย ในเรื่องของทุ่นระเบิดจากการประชุม GBC ในครั้งที่ผ่านมา จึงเชื่อว่าเรื่องทุ่นระเบิดนี้น่าจะมีการวางแผนใช้กันมาอย่างเป็นระบบเพื่อเจตนานำมาใช้คุกคามทำร้ายฝ่ายไทย
ซึ่งที่ผ่านมากองทัพบกได้ยึดมั่นในแนวทางสันติวิธีมาโดยตลอด และไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่หากสถานการณ์บีบบังคับก็อาจจำเป็นต้องใช้สิทธิ์ในป้องกันตนเองภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศในการคลี่คลายสถานการณ์ที่ทำให้ฝ่ายไทยต้องสูญเสียกำลังพลอย่างต่อเนื่อง จากการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและรุกล้ำอธิปไตยของทหารกัมพูชา