ปศุสัตว์ไทย ฝ่าวิกฤตโลก มั่นใจส่งออกทะลุ 3.3 แสนล้าน นิวไฮสองปีติด
อย่างไรก็ดีในส่วนของภาคปศุสัตว์ ซึ่งเป็นความมั่นคงทางอาหารของประเทศและเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทยจะเป็นอย่างไรนั้น “ฐานเศรษฐกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ซึ่งกำกับดูแลภาคปศุสัตว์ของประเทศ ระบุยังมีความมั่นใจว่า ในปี 2568 การส่งออกสินค้าปศุสัตว์ของไทยจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง คาดจะมีมูลค่าถึง 3.33 แสนล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์
มั่นใจทำนิวไฮต่อเนื่อง
นายสัตวแพทย์สมชวน กล่าวว่า การส่งออกสินค้าปศุสัตว์ของไทย ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.-มิ.ย.) มีการส่งออกปริมาณรวม 1.78 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 8.36% จากช่วงเดียวกันของปี 2567 โดยมีมูลค่าการส่งออก 163,934 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.78% คาดทั้งปีนี้จะยังขยายตัวต่อเนื่อง และจะทำให้ภาพรวมทั้งปีเติบโตขึ้นไม่ตํ่ากว่า 4%จากปีก่อน หรือมีมูลค่าประมาณ 3.33 แสนล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ที่สำคัญมาจากนโยบายของรัฐบาลภายใต้การกำกับดูแลของนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีนโยบายในการยกระดับสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพมาตรฐาน มีความปลอดภัยตามหลักสากลและเป็นไปตามเงื่อนไขของประเทศคู่ค้า พร้อมทั้งมีการเจรจาเพื่อเปิดตลาดใหม่ให้สินค้าเกษตรไทยอย่างต่อเนื่อง
เปิดโผสินค้าปศุสัตว์ดาวเด่น
สำหรับสินค้าปศุสัตว์ ดาวเด่นที่ส่งออกมากที่สุดช่วง 6 เดือนแรก ได้แก่ เนื้อสัตว์แช่เย็น แช่แข็งและแปรรูป มูลค่ารวม 83,979 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน โดยสินค้าเนื้อสัตว์แช่แข็ง คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ50 ของการส่งออกในภาพรวม โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ปีกซึ่งมีปริมาณความต้องการบริโภคสูงอย่างต่อเนื่องของตลาดสำคัญ เช่น ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป จีน มาเลเซีย เกาหลีใต้ และสิงคโปร์
รองลงมาเป็น“กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง” ส่งออกมูลค่า 51,359 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.08% และสินค้าปศุสัตว์อื่นๆ (สินค้าแปรรูปสัตว์มีชีวิต ซากสัตว์ หนังสัตว์ ฯลฯ) รวมกว่า 28,596 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.23% โดยสินค้าในกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงที่เป็นที่ต้องการของตลาดประกอบด้วย อาหารกระป๋องสุนัขและแมว Pet Treats อาหารขบเคี้ยวสำหรับสุนัขและแมว อาหารเสริมสัตว์เลี้ยง และอาหารเม็ดสุนัขและแมว มีตลาดสำคัญ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ประเทศในกลุ่มอาเซียน สหภาพยุโรป และสหราชอาณาจักร
ควรใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส
นายสัตวแพทย์สมชวน กล่าวอีกว่า การส่งออกสินค้าปศุสัตว์ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากความต้องการแหล่งโปรตีนสำหรับการบริโภคยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นตามจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับปัญหาความเปลี่ยนแปลงของสภาวะภูมิอากาศ และการเกิดโรคระบาดสัตว์ที่สำคัญในภูมิภาคต่างๆ ของโลกส่งผลกระทบต่อผลผลิตสินค้าปศุสัตว์ทั่วโลก เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบให้เกิดการขยายตัวของสินค้าปศุสัตว์ไทยในตลาดโลกได้
“กรมปศุสัตว์ทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน และผู้ผลิตในการรักษามาตรฐานการผลิต ให้มีสถานะปลอดโรคที่สำคัญเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ และยังคงความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้สามารถรักษาตลาดเก่าได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนขยายตลาดใหม่เพิ่มขึ้นอีก ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้ เป็นผลมาจากการควบคุมดูแลความปลอดภัยอาหารด้านสินค้าปศุสัตว์ตลอดห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ โรงฆ่าสัตว์ โรงงานแปรรูป สถานที่จำหน่ายสินค้าปศุสัตว์ ให้มีระบบการตรวจสอบย้อนกลับและมีกระบวนการผลิตที่ถูกสุขลักษณะและมีคุณภาพมาตรฐาน ด้วยระบบ GHPs และระบบ HACCP ในสถานประกอบการเพื่อการส่งออกอย่างต่อเนื่อง”
ลุยขยายตลาดใหม่ ต่อเนื่อง
นอกจากนี้กรมปศุสัตว์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันเจรจาให้เกิดการส่งออก เปิดตลาดสินค้าปศุสัตว์ที่สำคัญทั้งเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็ง เนื้อสัตว์ แปรรูปไข่และผลิตภัณฑ์จากไข่ และอาหารสัตว์เลี้ยง โดยมีแนวโน้มที่จะได้รับการตอบรับจากประเทศคู่ค้าต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น อาทิ เปิดตลาดเนื้อสุกรแช่เย็นและแช่แข็งและไข่ไก่เลี้ยงปล่อยอิสระไปประเทศสิงคโปร์ เปิดตลาดเนื้อสุกรและเนื้อโคไปมาเลเซีย เนื้อสัตว์ปีกและเนื้อสัตว์ปีกปรุงสุกไปยังประเทศต่างๆ เช่น ฟิลิปปินส์และนิวซีแลนด์ เป็นต้น
หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 45 ฉบับที่ 4,124 วันที่ 21 - 23 สิงหาคม พ.ศ. 2568