หามหญิงส่งฉุกเฉินกลางดึก แพทย์เตือนช็อก 4 อาหารใกล้ตัว ปรุงไม่ดีพิษยิ่งกว่าสารหนู!
หญิงอาการสาหัสกลางดึก เป็นพิษจากอาหารค่ำ “เห็ดดำแช่นาน” หมอกล่าวว่าอันตรายยิ่งกว่า “ยาพิษ”
หญิงวัย 40 ปีเข้าห้องฉุกเฉินหลังกินมื้อเย็นเพียง 2 ชั่วโมง พบว่าเป็นพิษรุนแรงจาก “เห็ดแช่นาน” ที่ผลิตสารพิษทนความร้อน แม้ต้มนานก็ไม่หมด หมอเตือน 4 วัตถุดิบใกล้ตัวที่ปรุงไม่ระวังอาจทำอันตรายร้ายแรงกว่าที่คิด
เมื่อเร็วๆ นี้ ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในเซินเจิ้น ประเทศจีน ได้ต้อนรับผู้ป่วยหญิงวัย 40 ปีที่มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง อาเจียน ความดันโลหิตต่ำ และมีอาการสับสน สถานการณ์อันตรายจนต้องรีบนำตัวเข้ารักษา พบว่าเธอเข้าข่าย“ภาวะช็อกจากพิษอาหาร”
การตรวจสอบเบื้องต้นเปิดเผยว่า เธอกิน “เห็ดหูหนูผัดเนื้อ” ในมื้อเย็น โดยเห็ดนี้ถูกแช่น้ำทิ้งไว้ถึง 3 วันเต็ม การกระทำดังกล่าวทำให้เห็ดเปียกเสี่ยงต่อการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถสร้าง “บงค์ครีกิกแอซิด” สารพิษที่ทนความร้อนสูง แม้ผ่านการต้มยังไม่สลาย และหากไม่รับการรักษาทันทีอาจถึงขั้นเสียชีวิต
ทีมแพทย์สามารถรักษาผู้ป่วยจนพ้นขีดอันตราย แต่เธอยังคงเผชิญอาการแทรกซ้อนระยะยาว และต้องนอนรักษาตัวนานกว่าปกติ เหตุการณ์นี้จึงเป็นเสียงเตือนสำคัญว่า วิธีเตรียมวัตถุดิบแค่เล็กน้อยก็อาจทำให้ชีวิตเปลี่ยน
- ชายวัย 44 ไปตรวจกระดูกและข้อ แต่หมอเห็น "มือแบบนี้" ส่งตรวจมะเร็งปอด ช็อกเจอจริงๆ
- หมอย้ำเตือน "อาบน้ำ-ล้างหน้า-สระผม" ต้องเรียงลำดับยังไง รู้ไว้ไม่เสี่ยงโรคทางสมอง!
Dr. Shi Zhengli จากโรงพยาบาลมิตรภาพปักกิ่ง กล่าวว่า อันตรายจากอาหารไม่ได้อยู่แค่ที่วัตถุดิบเท่านั้น แต่ยังอยู่ที่ “วิธีแช่ เก็บ และปรุง” เธอได้รวบรวม 4 กลุ่มวัตถุดิบใกล้ตัวที่หากเตรียมไม่ถูกต้อง อันตรายร้ายแรงกว่าที่คิด
ธัญพืชตระกูลถั่วต้มไม่สุก – มีสารไฟโตฮีมากลูทิน (phytohemagglutinin) เป็นต้น หากต้มไม่เดือดพอ (≥100 องศาฯ) อาจทำให้คลื่นไส้ ชัก หรือพิษต่อระบบประสาท
มันฝรั่งงอกหรือเขียว – มีสารโซลานีน (solanine) และชาโคไนน์ (chaconine) ที่มีพิษ แม้ตัดจุดงอกแล้วแต่ยังอันตราย เพราะเลือกต้มก็ไม่หมด
เห็ดหูหนูแช่นานเกินพอดี – แช่เกิน 8 ชั่วโมง เสี่ยงต่อการผลิตบงค์ครีกิกแอซิด (Bongkrekic acid) หรืออาฟลาทอกซิน (Aflatoxin) ทนความร้อนสูง และทำให้ช็อกได้ รอดยากถึง 50%
นมถั่วเหลืองต้มไม่ถึงเดือดจริง – เกิด “ฟองหลอก” ที่อุณหภูมิ 80–90 องศาฯ แต่สารพิษยังไม่ถูกทำลาย ควรต้มจนเดือดจริง (>100 องศาฯ) และต้มต่อ 3–5 นาทีหลังฟองหาย
ด้วยความที่สารพิษอย่างโซลาไนน์และชาโคนีนพบได้ในผักผลไม้ที่เราคุ้นเคย การรู้จักและระมัดระวังในการเลือกซื้อและเก็บรักษาจึงสำคัญมาก เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพจากการบริโภคอาหารเป็นพิษ และรักษาความปลอดภัยให้กับตัวเองและครอบครัวอย่างแท้จริง