เครื่องบินขับไล่ Gripen บินตีคู่ เครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B Lancer เหนือเมืองริกา ประเทศลัตเวีย
กองทัพอากาศสหรัฐฯ ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์ B-1B Lancer ร่วมบินกับเครื่องบินขับไล่ Gripen JAS-39 ของฮังการีและสวีเดน เหนือกรุงริกา ประเทศลัตเวีย เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เพื่อแสดงพลังความเป็นเอกภาพและการปฏิบัติการร่วมกันของนาโต้ ภายใต้ภารกิจ Bomber Task Force Europe
ฝูงบินดังกล่าวบินผ่านเหนือ อนุสาวรีย์แห่งอิสรภาพของลัตเวีย ตอกย้ำถึงการประสานงานข้ามชาติของพันธมิตร โดยฮังการีเพิ่งเข้ารับหน้าที่ Baltic Air Policing รอบที่สี่เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่กองกำลังนาโต้ยืนยันว่าการซ้อมรบนี้สะท้อนถึงความพร้อมและความแข็งแกร่งของปีกตะวันออก
อันดริส สปรูดส์ รัฐมนตรีกลาโหมลัตเวีย ระบุว่า “ความมั่นคงของรัฐบอลติกและปีกตะวันออกของนาโต้คือรากฐานของเสถียรภาพยูโร-แอตแลนติก การบินร่วมของสหรัฐฯ และพันธมิตร นับเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความมุ่งมั่นต่อภูมิภาค”
สำหรับเครื่องบิน B-1B ที่เข้าร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ ถูกส่งจากฐานทัพอากาศ Dyess รัฐเท็กซัส และมาประจำการที่ฐาน Orland ประเทศนอร์เวย์ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม การประจำการในยุโรปเปิดโอกาสให้ลูกเรือของสหรัฐฯ และพันธมิตรได้ฝึกยุทธวิธี เพิ่มความยืดหยุ่น รวมไปถึงเสริมทักษะการทำสงครามร่วมกันในสถานการณ์สมจริง
เครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B Lancer
B-1B Lancer เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่ออกแบบมาเพื่อเจาะทะลวงการป้องกันทางอากาศและส่งมอบอาวุธในระยะไกล จุดเด่นสำคัญ คือ ความเร็วเหนือเสียง (Mach 1.25) ร่วมกับปีกแบบปรับมุมได้ (Variable-sweep wing) ทำให้บินได้ทั้งระยะต่ำความเร็วสูงและระยะไกลความเร็วปานกลาง
สำหรับพิสัยบินไกลกว่า 12,000 กิโลเมตร โดยไม่ต้องเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ และสามารถบรรทุกอาวุธได้มากถึง 34,000 กิโลกรัม ซึ่งถือว่ามากที่สุดในบรรดาเครื่องบินทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ
ในด้านภารกิจ B-1B มีความยืดหยุ่นสูง สามารถติดตั้งอาวุธได้ทั้งแบบดั้งเดิมและอาวุธนำวิถีสมัยใหม่ เช่น ระเบิดนำวิถี JDAM, ขีปนาวุธร่อน JASSM และอาวุธแม่นยำอื่น ๆ ระบบอิเล็กทรอนิกส์และเรดาร์สมัยใหม่ช่วยให้สามารถโจมตีเป้าหมายได้แม่นยำแม้ในสภาพอากาศเลวร้าย
เครื่องบินรุ่นนี้จึงถือเป็นกำลังหลักที่สหรัฐฯ ใช้ทั้งในการป้องปรามเชิงยุทธศาสตร์และสนับสนุนปฏิบัติการรบจริงทั่วโลก โดยยังคงเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของพลังทางอากาศที่มีทั้งความเร็ว แรงบรรทุก และความยืดหยุ่นสูงสุด
เครื่องบินขับไล่ Gripen JAS-39E/F
สำหรับเครื่องบินขับไล่ Gripen JAS-39E/F เครื่องบินขับไล่หลายบทบาท (Multirole Fighter) รุ่นใหม่ที่พัฒนาโดยบริษัท ซาบ (Saab) ของสวีเดน เพื่อต่อยอดจาก Gripen รุ่น C/D โดยรุ่น E เป็นแบบที่นั่งเดี่ยว และรุ่น F เป็นแบบสองที่นั่งสำหรับฝึกและภารกิจพิเศษ
เครื่องบินใช้เครื่องยนต์ General Electric F414G ที่ให้แรงขับมากขึ้น ทำให้มีพิสัยบินไกลขึ้น บรรทุกอาวุธได้มากขึ้น และสามารถปฏิบัติภารกิจได้หลากหลาย ทั้งโจมตีภาคพื้นดิน สกัดกั้นทางอากาศ และลาดตระเวนทางอิเล็กทรอนิกส์
จุดเด่นของเครื่องบินขับไล่ Gripen JAS-39E/F อยู่ที่ระบบอิเล็กทรอนิกส์และเรดาร์ AESA รุ่น Raven ES-05 ที่ตรวจจับเป้าหมายได้ไกลและแม่นยำ รวมถึงระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW) ที่ทันสมัย ทำให้สามารถรบในสภาพแวดล้อมที่มีการก่อกวนสัญญาณได้ดี
เครื่องบินขับไล่ Gripen JAS-39E/F ออกแบบให้รองรับอาวุธสมัยใหม่ เช่น ขีปนาวุธ Meteor, IRIS-T และอาวุธปล่อยนำวิถีโจมตีภาคพื้นดินต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการต่ำกว่านักล่ารุ่นใหญ่ แต่ยังคงประสิทธิภาพสูง เหมาะกับประเทศที่ต้องการเครื่องบินขับไล่ประสิทธิภาพสูงในงบประมาณที่คุ้มค่า
ภารกิจครั้งนี้ยังครอบคลุมการฝึกด้านการค้นหา ซ่อมแซม ติดตาม และกำหนดเป้าหมาย เพื่อยกระดับความเร็วและความแม่นยำในการตอบสนองต่อภัยคุกคามทันที แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีการสู้รบ
โดยการบินครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงกำลังทางอากาศของนาโต้ที่พร้อมรบ และเป็นกลไกสำคัญในการป้องกันประเทศสมาชิก รวมถึงการรักษาเสถียรภาพของภูมิภาคยูโร-แอตแลนติกโดยรวม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- บทสรุป Techsauce Global Summit 2025 ตอกย้ำภาพไทยสู่ ‘Tech Gateway’ แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- ครม. อนุมัติอาวุธรุ่นใหม่ให้กองทัพไทย เครื่องบินขับไล่ Gripen, เรือฟริเกต และเรือดำน้ำ
- คณะรัฐมนตรีอนุมัติการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ JAS 39 Gripen E/F จากประเทศสวีเดน
- ฟิลิปปินส์ปันใจไปเอาเครื่องบินขับไล่ Gripen แทน F-16 ? หลังเผยสเปกที่อยากได้คือใช้รันเวย์สั้น
- “Gripen E” ผสานปัญญาประดิษฐ์ AI ซ้อมต่อสู้อากาศนอกระยะสายตา หรือ BVR