ภาครัฐจับมือ ดันโรงไฟฟ้า SMR 600 เมกะวัตต์ ตอบโจทย์มั่นคงพลังงาน ค่าไฟเป็นธรรม
ถือเป็นอีกเวทีหนึ่งที่ได้เห็นการตื่นตัวหรือความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมพลังงานไทย เกี่ยวกับเทคโนโลยีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็กแบบโมดูลาร์ (Small Modular Reactor: SMR) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่มีศักยภาพในการสนับสนุนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านพลังงานและการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ของไทยในปี 2608
งานนี้มีนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน ได้ปาฐกพิเศษ “อนาคตของความมั่นคงทางพลังงาน” ได้ชี้ให้เห็นว่าในร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP2024 ) ที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นไปเมื่อช่วงกลางปี 2567 ได้มีการบรรจุโรงไฟฟ้า SMR ไว้ในแผนไว้จำนวน 2 โรง ขนาดกำลังการผลิตโรงละ 300 เมกะวัตต์ จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในช่วงปี 2579-2580 เพื่อตอบโจทย์ความมั่นคงทางพลังงาน ในราคาค่าไฟฟ้าที่เป็นธรรม และสนับสนุนประเทศสู่ Net Zero ซึ่งจากการรับฟังความคิดเห็น ก็ได้รับการตอบรับจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี แทบจะไม่มีเสียงคัดค้าน
อย่างไรก็ตาม ร่างแผนพีดีพีดังกล่าว ยังไม่มีการประกาศบังคับใช้ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ต้องการทบทวนหรือปรับปรุงร่างขึ้นมาใหม่ โดยมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินงาน เนื่องจากสถานการณ์ต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง รวมถึงมีปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ของโลกเข้ามาเกี่ยวข้อง
ปลัดกระทรวงพลังงาน ยังยืนยันว่า การจัดทำแผนพีดีพีใหม่ จะยังคงมีการบรรจุโรงไฟฟ้า SMR อยู่ในแผน เนื่องจากเป็นทิศทางของโลกตอบโจทย์การใช้พลังงานสะอาด และมีความมั่นคงหรือมีความเสถียรมากกว่าการพึ่งพลังงานหมุนเวียน
เห็นได้จากปัจจุบันโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั่วโลก ใน 31 ประเทศ ยังมีการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าอยู่ 417 แห่ง และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 61 แห่ง ทั้งในญี่ปุ่น จีน และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น และใน 31 ประเทศนี้ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า SMR นี้ให้เป็น 3 เท่า ภายในปี 2594
ในขณะที่ไทยเองจะต้องเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ ตามข้อกำหนดของ ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency : IAEA) ทั้ง 19 ข้อไว้ให้พร้อม รวมถึงแนวทางการส่งเสริมโรงไฟฟ้า SMR ไม่ว่าจะเป็นสร้างการตระหนักรับรู้ให้กับประชาชนมีความเข้าใจ
การปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องมารองรับการใช้ SMR สร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีการใช้ SMR แล้ว รวมถึงองค์กรพลังงานนิวเคลียร์ระหว่างประเทศ เพื่อผลักดันและสนับสนุนการดำเนินงานด้านพลังงาน ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรและการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา SMR
ปัจจุบันการดำเนินงาน SMR หน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพลังงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) เป็นต้น ได้ทำงานร่วมกันในลักษณะบูรณาการ
โดยกระทรวงพลังงานเป็นผู้กำหนดทิศทางนโยบายและแผน, กระทรวง อว. (โดย ปส.) เป็นผู้กำกับดูแลด้านความปลอดภัยและเทคนิค, กกพ. เป็นผู้ดูแลการอนุญาตและกิจการไฟฟ้า, และกระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงอุตสาหกรรมเข้ามาสนับสนุนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การบริหารจัดการพื้นที่ และการส่งเสริมการใช้ในภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
การร่วมมือของทุกองค์กร เพื่อจะผลักดันให้เทคโนโลยีโรงไฟฟ้า SMR เกิดขึ้นในไทย เป็นไปได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย เพราะมองเห็นร่วมกันว่า SMR จะทำให้ค่าไฟฟ้าของประเทศในอนาคตถูกลงมาได้ และตอบโจทย์ประเทศในการบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ และรักษาความเสถียรหรือความมั่นคงของระบบจากการพึ่งพาพลังงานหมุนเวียน