ไทยรักษาได้ 11 พื้นที่ หลังหยุดยิง ขอปชช.อดทนรออยู่ในศูนย์พักพิง
วันที่ 29 ก.ค. 68 เวลา 13.40 น. พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.ว่า จากข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทย-กัมพูชาในเวลา 24.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งไทยยืนยันปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หยุดยิงในทุกพื้นที่ ตามข้อตกลงที่ให้คำมั่นสัญญา แต่หลังจากเลยเวลากำหนดหยุดยิงไทยได้พิสูจน์ทราบว่า กัมพูชาได้ใช้อาวุธจริงเข้ามาในเขตแดน ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ในหลายจุดถือเป็นการกระทำที่จงใจละเมิดข้อตกลง และทำลายความเชื่อมั่นที่มีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ฝ่ายไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิการป้องกันตนเอง ตามหลักกฏหมายระหว่างประเทศ ฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่ใช้เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและความปลอดภัยของประชาชน
นอกจากนี้ยังปรากฏทราบว่าทางฝ่ายกัมพูชา ได้ใช้โบราณสถานเป็นโล่กำบัง ซึ่งเป็นการละเมิดพันธกรณีคุ้มครอง ทางวัฒนธรรม ของสหประชาชาติ ภายใต้อนุสัญญาของยูเนสโก สิ่งเหล่านี้ปรากฏชัดว่าการละเมิดไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงที่ให้กันไว้ ศบ.ทก. ขอประณาม การกระทำของทหารกัมพูชา
ส่วน การสรุปสถานการณ์ การปะทะในพื้นที่ ระหว่างไทยกัมพูชาที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันนี้ ไทยสามารถควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด 11 พื้นที่ ได้ ภูมะเขือ ช่องอานม้า ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย แนวเขตแดนช่องบก ปราสาทโดนตวล สัตตะโสม ช่องจอม ช่องสายตะกู พระวิหาร และ พลาญยาว
ส่วนยอดผู้อพยพ มีทั้งสิ้น 188,729 คน พลเรือนเสียชีวิต 15 คน บาดเจ็บสาหัส 12 คน ปานกลาง 13 คน เล็กน้อย 13 คน รวมยอดทั้งหมด 53 คน เพิ่มขึ้น 1 รายใน จ.สุรินทร์ ทั้งนี้ผู้บาดเจ็บรักษาตัวในโรงพยาบาล 14 ราย ขณะสถานพยาบาลที่ได้รับผลกระทบมีทั้งหมด 20 แห่ง ปิดบริการ 13 แห่ง ปิดบางส่วน 7 แห่ง รพ.สต. ได้ ผลกระทบ 175 แห่ง
สำหรับแนวทางการส่งกลับผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ตลอดจนผู้ถูกควบคุม ทั้งสองฝ่ายจะมีการหารือเพื่อหาข้อยุติ เพื่อให้ได้ข้อตกลงร่วมกัน และอยากให้มีการเฝ้าระวังการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการใช้ AI ข่าวปลอมข่าวลวงต่างๆ ขอประชาชนใช้วิจารณญาณในการติดตามและแชร์ข้อมูลข่าวสาร และอยากให้มีการแจ้งต่อเจ้าหน้าที่หากพบว่ามีการละเมิดทางไซเบอร์ โดยเฉพาะกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมที่จะเป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบเรื่องนี้
ด้านนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เรียกร้องให้ทางฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และโดยทันที และย้ำว่าการหยุดยิงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ กับการดำเนินการที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อลดความตึงเครียดระหว่างสองประเทศได้
อย่างไรก็ตามขอให้ทางกัมพูชา ดูแลคนไทยที่อาศัย อยู่ในกัมพูชา เช่นเดียวกับไทยที่จะดูแลคนกัมพูชาที่อยู่ในประเทศไทยเช่นกัน อย่างไรก็ตามขอให้ให้ประชาชนที่อยู่ใน ศูนย์พักพิงอดทนรอ จนกว่าสถานการณ์จะสามารถ ให้กลับบ้านได้อย่างปลอดภัย แต่สถานการณ์ขณะนี้ยังมีความเปราะบางอยู่ จากนี้ไทยต้องการเห็นความสุจริตใจของกัมพูชาในเรื่องของการหยุดยิงและการโจมตี โดยเฉพาะต่อพลเรือน และย้ำว่าการดำเนินการทุกอย่างของรัฐบาล ให้ความสำคัญกับการรักษาธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน บนผลประโยชน์ของชาติและความปลอดภัยของประชาชน.