รวบขบวนการปลอมเพจ “โอ้กะจู๋” หลอกลงทุน
บช.สอท. 29 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์รวบขบวนการปลอมเพจ “โอ้กะจู๋” หลอกลงทุน สูญเงินกว่า 5 แสนบาท อายัดทัน 3.5 แสน คืนผู้เสียหาย
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว “MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.21” ตำรวจไซเบอร์รวบเครือข่ายเพจปลอมอ้างชื่อ “โอ้กะจู๋” หลอกลงทุนเสียหายกว่า 5 แสนบาท อายัดทัน 3.5 แสนบาท นำคืนผู้เสียหาย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 68 ได้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ว่า เมื่อวันที่ 3 ก.พ.68 ผู้เสียหายได้พบกับเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อ “โอ้กะจู๋” มีการโฆษณาเปิดลงทุนมีผลตอบแทนดี ผู้เสียหายเกิดความสนใจเนื่องจากเป็นแฟนพันธุ์แท้และชื่อชอบในแคมเปญที่ว่า “ปลูกผักและรักแม่” จึงติดต่อเข้าไปซึ่งมีกลุ่มคนร้ายได้พูดคุยกะผู้เสียหายผ่านทางแมสเซนเจอร์ จากนั้นได้ให้แอดไลน์ซึ่งมีชื่อว่าฝ่ายบริการ AJK ซึ่งจะมีการส่งข้อมูลการลงทุนให้กับผู้เสียหายโดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำโดยจะมีไลน์ชื่อ นายธนเดช ที่อ้างตัวว่าเป็นโบรกเกอร์แนะนำให้ผู้เสียหายลงทุนซึ่งมีการส่งลิ้งของตลาดหลักทรัพย์ปลอมให้ผู้เสียหายลงทุน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงเริ่มโอน ซึ่งทางกลุ่มมิจฉาชีพมีการอัพเดทข้อมูลผลกำไรที่ได้อยู่ตลอดเวลาทำให้ผู้เสียหายเชื่อว่าได้ผลกำไรนั้นจริงจึงโอนเงินไปลงทุนเพิ่มอีก รวมจำนวน 6 ครั้ง เป็นเงินกว่า 567,980 บาท แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ โดยครั้งสุดท้ายคนร้ายอ้างว่าต้องโอนจ่ายค่าคอมมิชชันเพิ่มเติมเพื่อปลดล็อกระบบก่อน จึงจะถอนเงินได้ ผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าโดนหลอกลวง
จากกรณีดังกล่าว กก.2 บก.สอท.4 ได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับและสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าวได้แล้วบางส่วน โดยดำเนินคดีในข้อหา “’ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายสุพัฒน์ อายุ 23 ปี หนึ่งในขบวนการได้ที่บริเวณริมถนนภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งพื้นที่หมู่ 14 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมทั้งได้ประสานงานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของ นายสุพัฒน์ ที่ผู้เสียหายได้โอนเข้าบัญชีดังกล่าวเพื่อลงทุนตามที่ถูกหลอกลวง เป็นเงิน 350,000 บาท โดยหลังรับทราบข้อกล่าวหา นายสุพัฒน์ ได้ยอมรับว่า ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่อายัดไว้ และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหาย.- 414-สำนักข่าวไทย