เกาะประเด็นการเมืองวันนี้ จับตา เพื่อไทยจ่อดัน ‘ชัยเกษม’ นั่งนายกรัฐมนตรี
สถานการณ์ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เข้าขั้นวิกฤติจริงๆ ต้องเผชิญศึกหลายด้าน จนไม่รู้ว่าจะมีพละกำลังในการผลักดันสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประเทศหรือไม่ ยิ่งดูบรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันแรก 3 ก.ค. ก็เกิดปัญหาแล้ว แม้รัฐบาลจะอ้างว่า เป็นเรื่องรองประธานสภาสั่งปิดการประชุมไปก่อน แต่สภาพปัญหาที่เกิดขึ้น ใครที่ตามการเมืองก็รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ทั้งนี้ เหตุผลสำคัญที่ สส.ขาดประชุมจำนวนมาก เนื่องจาก สส.บางส่วนที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี ต้องไปร่วมถวายสัตย์ปฏิญาณตนกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขณะที่อีกส่วนได้ไปร่วมแสดงความยินดีกับรัฐมนตรีป้ายแดง แต่เมื่อทราบว่ามีการเสนอนับองค์ประชุม ต่างรีบกลับมาให้ทันนับองค์ประชุม แต่ "นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน" รองประธานสภาได้ชิงปิดประชุมไปเสียก่อน แต่ต้องยอมรับฝ่ายบริหารเผชิญมรสุมหรือวิบากกรรม ประกอบด้วย 1. น.ส.แพทองธาร ถูกพักการปฏิบัติหน้าที่ ตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) อันเนื่องมาจากคำร้องคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับ “สมเด็จฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา 2. เสียงของพรรคร่วมรัฐบาล เหลือเพียง 253 เสียงในสภา ซึ่งก็เผชิญบททดสอบไปแล้ว ในการเปิดประชุม อีกทั้งล่าสุดร่างพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ที่ยังไม่มีมติอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลว่าจะขอให้เลื่อน หรือถอนร่างออกจากการพิจารณาของสภา ที่จะมีการประชุมอีกครั้งวันที่ 9 ก.ค. นี้
ขณะที่ "นายชูศักดิ์ ศิรินิล" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า ยังคิดกันอยู่ว่าจะเลื่อนออกไป หรือถอนออกไป ซึ่งการถอนออกไปต้องขอมติที่ประชุม ครม. และขอมติของที่ประชุมสภา แต่ถ้าสภาไม่ติดใจอะไรก็ถอนออกไปได้เลย นั่นหมายความว่า นโยบายที่เป็นเรือธงของรัฐบาล ที่หมายมั่นว่าต้องการผลักดันเพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ต้องตัดสินใจยุติการเดินหน้า นั่นหมายความเสียงปริ่มน้ำกระทบกับการทำงานของรัฐบาลไปแล้ว ต่อไปต้องรอดูว่า จะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นอีกหรือไม่ 3. การเคลื่อนไหวภาคประชาชนภายใต้ชื่อกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย นัดชุมนุมในเดือนส.ค. ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันให้รัฐบาลเพิ่มขึ้นไปอีก แต่ในที่สุดบทสรุปท้ายคงขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาล รธน. ที่จะชี้ชะตาหัวหน้ารัฐบาล แต่ก่อนหน้านั้นต้องมารอดูว่า น.ส.แพทองธาร จะลาออกหรือจะตัดสินใจยุบสภา ดังนั้นการเมืองวันนี้คงต้องบอกว่า ดูกันวันต่อวันท่ามกลางความไม่แน่นอน
แต่ที่น่าสนใจคือ การออกมาให้ข้อมูลของ "นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์" รมช.คลัง ระหว่างกล่าวในงานเสวนา หัวข้อ "เชื่อมั่นประเทศไทย: โจทย์ใหญ่รัฐบาล?" จัดโดยสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ โดยตอนหนึ่งระบุถึงความคืบหน้าการเสนอร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า รัฐบาลอยู่ระหว่างพิจารณา 2 ทางเลือกว่าจะเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน หรือถอนวาระออกไป ภายในวันที่ 7 ก.ค.นี้ คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) จะสรุป หากถอนจะต้องนำกลับเข้า ครม.ก่อน แต่หากเลื่อนก็เป็นอำนาจของสภาที่สามารถทำได้เลย อย่างไรก็ตามยอมรับว่าหากเลื่อนก็เป็นเรื่องน่าเสียดายโอกาสของประเทศ เพราะจะขาดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานท่องเที่ยวของประเทศไป ส่วนปัญหาทางการเมือง ขอให้เชื่อมั่นว่า รัฐบาลมีอำนาจเต็ม กรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวนั้น ก็มีกลไกหาทางออกได้ตามหลักรัฐธรรมนูญ (รธน.) แต่หากเป็นไปในทางลบและหลุดจากตำแหน่ง พรรคเพื่อไทย (พท.) ก็พร้อมนำเสนอแคนดิเดต คือ นายชัยเกษม นิติสิริ ขึ้นมาเป็นนายกฯ ต่อไป และยืนยันว่าภายในพรรคร่วมยังมีเอกภาพ
ถือเป็นความชัดเจนของพรรค พท. ซึ่งคงไม่ยอมให้อำนาจรัฐเปลี่ยนมือไปอยู่กับพรรคการเมืองอื่น โดยการผลักดัน "นายชัยเกษม" เข้ามารับไม้ต่อในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เพราะคงการเป็นรัฐบาลรักษาการในช่วงมีการเลือกตั้ง
ส่วนปัญหาองค์ประชุมสภา ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ก.ค. นั้น “นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานสภา ให้ความเห็นว่า มีการประชุม ครม.นัดพิเศษ ซึ่งหลายคนที่เป็นรัฐมนตรีก็เป็น สส.ด้วย จึงไม่สามารถมาประชุมได้ ประกอบกับมีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญ และ กมธ.วิสามัญ อยู่ด้วย แต่ก็เป็นหน้าที่ของ สส.ทุกคนทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ที่ต้องมาประชุมให้ครบองค์ประชุม ดังนั้นการประชุมสภาครั้งถัดไป วิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาลควรคุยกันว่าจะทำอย่างไรให้องค์ประชุมสามารถเดินหน้าได้ หากต่อไปมีการนับองค์ประชุมแบบนี้ การประชุม กมธ. อาจต้องไปประชุมวันอื่นที่ไม่ใช่วันพุธและวันพฤหัสบดี เมื่อถามว่า จะทำให้การทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติสะดุดลงหรือไม่ ประธานสภา กล่าวว่า คงไม่มีปัญหา ทุกคนที่เป็นสมาชิกคงอยากให้การประชุมเดินไปด้วยดี และปัญหาที่เกิดขึ้นก็คงต้องแก้
ด้าน “น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล” สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชุมสภา เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา มองว่าจะทำให้การทำงานสะดุดหรือไม่ว่า นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ออกมาเตือน สส.ในพรรคตนเองแล้วว่าจำเป็นต้องให้พร้อม ห้ามขาด ห้ามลา ห้ามมาสาย แต่ในท้ายที่สุดสภาก็ล่ม คงเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีนักในการโหวตกฎหมายที่สำคัญๆ ในครั้งต่อไป คงต้องมีการเตรียมความพร้อมมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นการทำงานคงเดินหน้าไม่ได้ ในภาวะที่ง่อนแง่นเช่นนี้ คงมีการกำชับกันหลายรอบ แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อมีการทดสอบแล้วสภาล่มยิ่งแสดงถึงความไม่มีเสถียรภาพ ความง่อนแง่นของสถานะทางฝั่งรัฐบาล เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าอาจถูกมองว่าฝ่ายค้านเล่นเกมเกินไป น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่ได้มองว่าเป็นการเล่นเกมทางการเมือง เราทราบอยู่ว่าเสียงค่อนข้างที่จะปริ่มกัน ดังนั้นต้องมีการเช็กเสียงกันเป็นเรื่องธรรมดา
เชื่อว่า ท่ามกลางภาวะเสียงรัฐบาลที่ปริ่มน้ำ พรรคร่วมฝ่ายค้านคงใช้วิธีเสนอขอนับองค์ประชุมไปเรื่อยๆ เพื่อตอกย้ำให้สังคมเห็นว่า ฝ่ายบริหารขาดเสถียรภาพ ไม่สามารถผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประเทศไทยเพื่อไปสู่เป้าหมายการยุบสภาในที่สุด
ส่วนการตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ก็ยังก่อให้เกิดภาวะเลือดไหลออกต่อเนื่องล่า “ดร.เอ้” นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ยื่นไปลาออกพ้นการเป็นสมาชิกพรรค ปชป. โดยให้เหตุผลว่า ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้ง แต่เกิดจากอุดมการณ์ที่ยึดมั่นมาตลอดที่ต้องการทำการเมือง โดยต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งตนจะมุ่งมั่นเริ่มต้นแก้ปัญหาประเทศ ด้วยการพัฒนาคนในเรื่องการศึกษา โดยสถานการณ์ขณะนี้รอไม่ได้จริงๆ เมื่อถามว่าจะไปตั้งพรรคไทยก้าวใหม่ และจะเป็นหัวหน้าพรรคด้วยตนเองใช่หรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ครับ จะเดินทางไปพูดคุยกับทุกคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน อยากเปลี่ยนแปลงประเทศไทย โดยเริ่มต้นที่การศึกษา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ร่วมอุดมการณ์ที่จะไปพูดคุยด้วย คือคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. ใช่หรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า คุณหญิงกัลยาถือเป็นปูชนียบุคคลด้านการศึกษา และด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยกับคุณหญิงกัลยา ก็ขอให้ทุกคนรอติดตาม นอกจากนี้ยังจะมีอีกหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นใหม่ที่มีพลังความรู้ความสามารถ อยากเชิญชวนทุกคนให้ออกมาทำงานด้านการเมืองร่วมกับตน ต่อข้อถามถึงกระแสข่าวที่มีเสียงสนับสนุนต้องการให้นายสุชัชวีร์ ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในสมัยหน้า นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ขณะนี้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับการศึกษา โดยคนไทยในขณะนี้ไม่สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้จริงๆ การเมืองไทยในขณะนี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องการศึกษา ทั้งที่เรื่องการศึกษาถือเป็นจุดเป็นจุดตาย และเป็นทางรอดขอประเทศ
ส่วน “คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช” อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าจะไปร่วมตั้งพรรคการเมืองใหม่กับนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. ว่า ยอมรับว่ามีการพูดคุยกับนายสุชัชวีร์เรื่องการศึกษา เพราะสมัยที่เป็น รมช.ศึกษาธิการ ได้แต่งตั้งให้นายสุชัชวีร์เป็นที่ปรึกษาของรัฐมนตรี ส่วนการตั้งพรรคการเมือง ยังไปไม่ถึงจุดนั้น เพียงแค่คุยกัน และปัจจุบันยังเป็นสมาชิกพรรค ปชป. ไม่ได้ลาออกไปไหน เมื่อถามว่าในอนาคตจะลาออกเช่นเดียวกับนายสุชัชวีร์หรือไม่ คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่วันนี้ยังอยู่กับพรรค ปชป. และยังไม่ได้ตั้งพรรคการเมืองอื่น อีกทั้งเป็นเพียงการพูดคุยและคิดตรงกันมุ่งเน้นเรื่องการศึกษา หลังจากนี้ต้องคุยกับนายสุชัชวีร์อีกครั้ง
นอกจากนี้ยังมีข่าวว่า อาจมีแกนนำคนสำคัญของพรรค ปชป. โบกมือลาเพื่อไปเลือกเส้นทางใหม่ ต้องรอดูว่า พรรคการเมืองที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุด จะเผชิญวิบากกรรมอีกหนักหน่วงแค่ไหนกับการยังตัดสินใจร่วมรัฐบาลกับพรรค พท. ท่ามกลางวิกฤติศรัทธา หลังเกิดคลิปเสียงหัวหน้ารัฐบาลกับ “สมเด็จฮุน เซน"
"ทีมข่าวการเมือง"