ดร.ธรณ์ เตือนคนไทย ก่อนสายเกินไป พร้อมยกเคสน้ำท่วมใหญ่จีนเป็นบทเรียน
เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา ด้าน ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม ได้ยกเคสน้ำท่วมใหญ่ในจีน เตือนผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุว่า น้ำท่วมใหญ่ในจีนบอกอะไรเราได้บ้าง ? จะมาเล่าให้เพื่อนธรณ์ฟังครับ
พายุเข้า ฝนตกหนัก น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ในพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ เมืองใหญ่ เช่น หรงเจียง ฉงเจียง จมอยู่ใต้น้ำในพริบตา ไม่เคยพบเคยเห็น ชาวจีนเกือบแสนที่อพยพหนีน้ำบอกไว้ น้ำมาเร็วมากและสูงมาก
ถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย ทรัพย์สินเสียหายมหาศาล นั่นคือภัยพิบัติจาก extreme weather ที่เกิดฉับพลันทันใดในยุคที่โลกกำลังร้อนขึ้นทุกวัน และเป็นความเสี่ยงอันดับ 1 ของโลกจากวันนี้ต่อไปอีกยาวนาน ตามการจัดอันดับของ World Economic Forum
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า แม้เมืองอาจดูคล้ายกัน เต็มไปด้วยตึกและดูทันสมัย แต่โครงสร้างพื้นฐานในการรับมือกับภัยพิบัติแบบนี้แตกต่างกัน ความเสี่ยงของแต่ละพื้นที่ก็ไม่เท่ากัน เมื่อถึงจังหวะที่ฝนตกหนักผิดปรกติเพราะความแปรปรวนของโลก น้ำอาจมาทันใด และภาพที่เราไม่เคยเห็นในอดีตก็เกิดขึ้น น้ำบ่าลงจากเขา ท่วมชุมชนด้านล่าง น้ำเอ่อล้นตลิ่ง ท่วมเมืองใหญ่ริมแม่น้ำ ทั้ง 2 อย่างเกิดเร็วมากๆๆ
เมืองไทยก็กำลังถูกน้ำท่วมทั้งเชียงรายและน่าน เป็นจังหวัดเดิมๆ ที่เริ่มโดนบ่อยขึ้น เราเริ่มเรียนรู้ในการเตือนภัยและอพยพ แต่แค่นั้นคงไม่พอกับการรับมือโลกที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ ภัยพิบัติแบบนี้มาแรงขึ้นและถี่ขึ้น การอพยพแล้วอพยพอีกไม่ใช่คำตอบในระยะยาว
ผังเมืองที่ดี โครงสร้างพื้นฐานที่รองรับน้ำได้ แม้ไม่ทั้งหมดก็ผ่อนหนักเป็นเบา นั่นเป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้น สำคัญกว่านั้นคือการปกป้องป่าไม้บนภูเขา ใช้ธรรมชาติต้านภัยพิบัติที่นับวันจะแรงขึ้น ทุกคนทราบดีว่าป่าลดน้ำท่วมฉับพลันได้ ลดฝุ่นได้ แต่ถ้าเรายังปล่อยให้ป่าถูกทำลายไปเช่นนี้ ก็คงต้องถึงเวลาที่ตัวใครตัวมันอย่างแท้จริงแล้วครับ