24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 28 มิถุนายน 2568
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 28 มิถุนายน 2568
>> โจ๋วัยละอ่อนคึกคะนองแจ้งเหตุเท็จ กู้ภัยวิ่งวุ่นสุดท้ายรวบตัวพร้อมมีด 2 เล่มสารภาพทำไปเพราะนึกสนุก
01:30 น.วันที่ 28 มิ.ย.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รับแจ้งจากอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ว่าถูกกลุ่มวัยรุ่นล้อมรถพยาบาลโดยมีอาวุธมีดและแจ้งเหตุเท็จ จากนั้นตำรวจสายตรวจจึงเร่งเข้าตรวจสอบ เหตุเกิดปากซอยโรงเรียนสุเหร่าปากคลองลำรี ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
ที่เกิดเหตุตำรวจสายตรวจและกลุ่มกู้ภัยอยู่บริเวณหน้าปากซอยโดยพยายามเดินตามหากลุ่มวัยรุ่นโดยทราบว่ามีมากกว่า 6 คน ขณะเดียวกันยังพบมีดยาวและมีดสั้นจำนวน 2 เล่มอยู่ในจุดเกิดเหตุรวมถึงรองเท้าแตะที่ถูกถอดทิ้งไว้ จนกระทั่งพบวัยรุ่นต้องสงสัย 1 คนใส่เสื้อสีแดงเดินวนเวียนอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อและชายอีก 1 คนเดินออกมาจากท้ายซอยทางเจ้าหน้าที่พยายาม เค้นถามข้อมูลจนสารภาพว่ารู้จักผู้ก่อเหตุ จึงให้บุคคลดังกล่าวไปติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุมาจนรวมตัวได้ถึง 9 คนอายุตั้งแต่ 13-18 ปี ในขณะที่เจ้าหน้าสอบถามว่าใครเป็นคนแจ้งเหตุเท็จและทำไปเพื่ออะไรทำให้บุคคลในกลุ่มถึงขั้นทะเลาะกันเองต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ต่อมาได้นำตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดไปทำประวัติที่ สภ.บางบัวทอง ซึ่งขณะที่อยู่บนโรงพักตำรวจตรวจค้นตัวยังพบมีดพับอีก 1 เล่มอยู่ในกางเกงขาสั้นของวัยรุ่น อายุ 18 ปีอีกด้วยหลังจากนั้นทางผู้ปกครองของเด็กได้ให้เด็กทุกคนมาขอโทษเจ้าหน้าที่กู้ภัยในสิ่งที่ทำไปก่อนจะให้ผู้ปกครองรับตัวกลับบ้าน
นายตัง (นามสมมติ) อายุ 15 ปี กล่าวว่าตนเองได้โทรศัพท์ไปที่สายด่วน 1669 เพื่อแจ้งว่ามีชายวัยประมาณ 40 ปีหมดสติอยู่บริเวณปากซอยโรงเรียนสุเหร่าปากคลองลำรี หลังจากนั้นมีโทรศัพท์กู้ภัยโทรเข้ามาตนเองบอกเส้นทางเมื่อกู้ภัยมาถึงทุกคนต่างคนต่างวิ่งหนีกันไปหลบซ่อนตัว โดยสารภาพว่าที่ทำไปเพราะความสนุกเท่านั้น
>> ดินสไลด์ทับเส้นทาง! ใกล้พื้นที่บ้านผักเฮือก ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน เจ้าหน้าที่เร่งเคลียร์เส้นทาง
06.00 น. เจ้าหน้าที่จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัย จาก กรม ทพ.32 เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ หลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีเหตุดินสไลด์ปิดทับเส้นทางจราจร บริเวณทางหลวงหมายเลข 1081 ตอนบ่อเกลือ - เฉลิมพระเกียรติ ใกล้บ้านผักเฮือก หมู่ 4 ต.บ่อเกลือใต้ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน
จากการตรวจสอบพบว่า ดินสไลด์ได้ปิดกั้นถนนสายหลัก ทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรผ่านได้ชั่วคราว จึงได้ประสานงานกับหมวดทางหลวงบ่อเกลือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการเคลียร์เส้นทางโดยเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนในพื้นที่
>> ทีมสัตวแพทย์ช่วย "พลายหลง" สำเร็จ เร่งค้นหาช้างป่าบาดเจ็บอีก 2 ตัวที่ตราด
10.40 น. ความพยายามช่วยเหลือช้างป่าบาดเจ็บ 3 ตัว ในจังหวัดตราดมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง เมื่อทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงและรักษา "พลายหลง" ช้างป่าเพศผู้หนึ่งในสามตัวที่ได้รับบาดเจ็บได้สำเร็จ ขณะนี้ยังคงเร่งค้นหาช้างอีก 2 ตัวที่เหลือคือ "พังจักกะแหล่น" และ "พลายหงส์ทอง" เพื่อให้การรักษาต่อไป
นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา เปิดเผยว่า ช้างป่าสามตัวถูกพบโดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกคลองแก้ว เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2568 บริเวณบ้านหนองมาตร ตำบลช้างทูน อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครในพื้นที่ ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือช้างป่าที่ได้รับบาดเจ็บ
ซึ่งทีมงานได้พบ "พลายหลง" ช้างป่ามีงา 1 คู่ กำลังเดินกะเผลกอยู่ในป่ามังคุดและป่ายาง ก่อนจะลงไปแช่อยู่ในบ่อน้ำภายในไร่มังคุด ทีมสัตวแพทย์ไม่รอช้า ยิงยารักษาอาการบาดเจ็บได้สำเร็จ แม้พลายหลงจะวิ่งหนีเข้าป่าไปหลังได้รับยา หลังจากการรักษาพลายหลง ทีมงานได้ประชุมวางแผนต่อ โดยมีข้อสรุปที่สำคัญคือจะเร่งติดตามค้นหาช้างป่าที่ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ตัวที่เหลือ ได้แก่ "พังจักกะแหล่น" และ "พลายหงส์ทอง" และจะเข้าให้การรักษาทันทีที่พบและสามารถเข้าถึงตัวได้
>> ชายพกมีดพับในพื้นที่ชุมนุม ฉุนทำร้ายเจ้าหน้าที่เทศกิจ ตำรวจเข้าล็อกตัวทันควัน
12.55 น. วันที่ 28 มิ.ย.2568ที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เกิดเหตุชายรายหนึ่งก่อเหตุทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่เทศกิจ บริเวณพื้นที่ชุมนุม หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและพบว่าชายคนดังกล่าวพกพาอาวุธมีดพับติดตัวมาด้วย
โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าขอตรวจสอบชายคนหนึ่งซึ่งมีท่าทางมีพิรุธ และพบอาวุธมีดพับซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋า เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งให้ชายคนดังกล่าวส่งมอบอาวุธเพื่อความปลอดภัย ทำชายคนดังกล่าวกลับแสดงท่าทีและอาการไม่พอใจก่อนเข้าทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวชายรายนี้ไว้ได้และได้นำตัวไปยังจุดพัก เพื่อให้สงบสติอารมณ์ก่อนส่งสน.พญาไท เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> ไฟไหม้ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ลุกลามเผาบ้านใกล้เรือนเคียงวอด 5 หลังติด รถยนต์ 1 คันไหม้หมด คาดมูลค่าความเสียหายเกิน 1 ล้านบาท
15.40 น. ร.ต.อ.ครรชิต พินิจ รอง สว.(สอบสวน ) สภ.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้ง มีเหตุเพลิงไหม้ บ้านเลขที่ 264/1 บ้านหนองคู ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ริมถนนมิตรภาพ จึงได้ ประสานรถดับเพลิง
ก่อนรีบรุดไปตรวจสอบที่รับแจ้งเหตุ พร้อมด้วย นายไพรัตน์ อินทร์ปัญญา นายอำเภอปากช่อง จ.นครราชสีมา และหน่วยกู้ภัยสว่างวิชชาปากช่อง เร่งนำผู้ที่อยู่ภายในบ้านออกมาปลอดภัย ส่วนรถดับเพลิง 5 คัน ระดมฉีดน้ำสกัดเพลิง ที่กำลังโหมไหม้อย่างรุนแรง ลุกลามไปยังบ้านประชาชนใกล้เคียง ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวผสมเหล็ก ถูกไฟไหม้เผา 5 คูหา วอดไปพร้อมทรัพย์สิน โดยรถยนต์ 1 คันไหม้หมด
นายคมสัน จงสูงเนิน ผู้ใหญ่บ้านหนองคู เจ้าของบ้าน กล่าวว่า บ้านที่ถูกไฟไหม้ เป็นบ้านพักอาศัยและเป็นที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน และเป็นร้านขายสินค้าอะไหล่ตกแต่ง รถยนต์ รถบรรทุก คนในบ้านพบว่าเกิดเปลวไฟลุกไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุ และไฟได้โหมไหม้อย่างรวดเร็ว จึงไม่ทันที่จะขนของอะไรออกมาได้เลย คาดว่าค่าเสียหายมากกว่า 1 ล้านบาทเศษ
>> ลูกเรือประมงหมดสติในห้องเก็บปลา ดับ 3 เจ็บสาหัส 1 คาดสูดดมแก๊สไข่เน่า
16.00 น. ร.ต.อ.หญิงพรอุมา แก้วประดิษฐ์ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ปากน้ำชุมพร จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุมีลูกเรือประมง 4 คน หมดสติในห้องเก็บปลา ขณะเรือจอดอยู่ที่แพปลา ต.ปากน้ำชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย
ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่กู้ชีพ-กู้ภัย นำตัวลูกเรือประมงทั้ง 4 คน ส่งรพ.ปากน้ำชุมพร ออกมาจากห้องเก็บปลาแล้วช่วยกันทำซีพีอาร์ปั๊มหัวใจ ก่อนนำส่งรพ.อย่างเร่งด่วน ทราบชื่อต่อมาคือ นายปราโมทย์ อายุ 33 ปี นายน้อย อายุ 45 ปี นายวีรยุทธ อายุ 36 ปี และนายอาทิตย์ อายุ 28 ปี แต่นายปราโมทย์ นายน้อย และนายวีรยุทธ ขาดอากาศหายใจเสียชีวิตไปก่อนแล้ว ส่วนนายอาทิตย์ อาการยังสาหัสไม่ได้สติ
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า หลังเรือประมงเข้าจอดเทียบท่าที่แพปลา ลูกเรือทั้ง 4 คนช่วยกันขนปลาที่จับได้เข้าไปเก็บไว้ในห้องเก็บปลา คาดสูดดมแก๊สไข่เน่า เป็นเหตุให้ขาดอากาศหายใจ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> ปิดล้อม 'แก๊งศุกร์หรรษา' นัดแข่งจยย. รวบวัยรุ่น 22 คน ยึดรถ 18 คัน
18.30 น. พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รอง ผกก.ป.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อม พ.ต.ท.เอกวิทย์ เกิดศิริ รอง ผกก.จราจร นำกำลังตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เข้าซุ่มติดตามพฤติกรรม “แก๊งศุกร์หรรษา” กลุ่มวัยรุ่นนัดหมายแข่งรถ จยย.กันบนถนนในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นแก๊งที่ถูกเจ้าหน้าที่ออกไล่ล่าจับกุมมาแล้วหลายครั้ง แต่ยังไม่เข็ดหลาบ โดยนัดผ่านโซเชียลมีเดีย จะออกมาแข่งรถกันในคืนวันศุกร์
ล่าสุดได้มีการนัดหมายจับคู่แข่งขันอีกครั้ง ที่บริเวณแยกเบญจมะ-บ้านตาล ในพื้นที่ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง โดยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าติดตามพฤติกรรม จนพบว่าวัยรุ่นเริ่มรวมกลุ่ม และเริ่มมีการจับคู่แข่งขันเสียงท่อดังสนั่น สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่สองข้างทางเป็นอย่างมาก ก่อนเจ้าหน้าที่เข้าจู่โจมปิดล้อมกลุ่มวันรุ่นทั้งนักแข่งและกองเชียร์แตกฮือเข้าไปในซอยตัน ในที่สุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมกลุ่มวัยรุ่นได้รวม 22 คน ทำการยึดรถ จยย.รวม 18 คัน จากนั้นจึงคุมตัวทั้งหมดมายัง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช คัดแยกกลุ่มเยาวชน โดยกลุ่มที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี มีการดำเนินคดีกับผู้ปกครองด้วย โดยได้เรียกผู้ปกครองมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไปแล้ว
>> น.1 นำทีม รองนพศิลป์ รวบทันควันผู้ต้องหาวิ่งราวต่อหน้าขณะออกตรวจ ลั่นอยากเท่โชว์ตำรวจ
20.30 น. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี ลงพื้นที่ตรวจตราความเรียบร้อยบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยการชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่มีเหตุความรุนแรงใด ๆ มีผู้ชุมนุมซึ่งอยู่ในจำนวนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดการณ์ไว้
ในขณะเดินทางกลับจากการออกตรวจ บริเวณริมฟุตบาทหน้ากรมแพทย์ทหารบก มีชายสวมเสื้อสีน้ำเงิน (ผู้ก่อเหตุ) กระชากโทรศัพท์ของ นายณรงค์ (ผู้เสียหาย) ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนฟุตบาทเพื่อรอรถเมล์อยู่ และเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินผ่านมาพอดีจึงได้ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ผู้ก่อเหตุจึงได้โยนโทรศัพท์ทิ้งเข้าไปในพุ่มไม้ ทาง พล.ต.ต.นพศิลป์ เห็นเหตุการณ์ จึงได้เข้าระงับเหตุ ล็อคตัว ผู้ต้องหา ได้ทันท่วงที ก่อนจะทำการตรวจค้นตรวจของผู้ก่อเหตุคนดังกล่าว จากการซักถามผู้ก่อเหตุคือนายพัน (นามสมมุติ) สาเหตุที่วิ่งราวเป็นการทำเล่น ๆ เมื่อเห็นตำรวจเดินผ่านจึงอยากทำเท่
จากการสังเกตุพบว่าลักษณะของผู้ก่อเหตุ โกนผมและโกนคิ้วจึงได้สอบถามว่าเป็นพระหรือไม่ ทางผู้ก่อเหตุอ้างว่า โกนผมเตรียมจะไปบวชเข้าพรรษานี้ ซึ่งทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ นอกจากนี้ทางตำรวจได้ตรวจสอบภายในกระเป๋าเป้ของผู้ก่อเหตุพบว่ามีแหวนทอง 1 วงบรรจุอยู่ในถุงพลาสติก จึงได้สอบถามว่าเป็นแหวนของใครทางผู้ก่อเหตุอ้างว่าเป็นแหวนพระที่ได้มาจากวัดพระธรรมกาย ซึ่งจะได้มาก็ต้องเข้าไปบวชมาก่อนเท่านั้น
นอกจากนี้ทาง พล.ต.ต. นพศิลป์ ยังได้สอบถามว่าก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วกี่ครั้งทางผู้ก่อเหตุบอกว่าประมาณ 10 ครั้ง ส่วนมากจะเป็นการก่อเหตุขโมยเบียร์กระป๋องไม่เคยขโมยของมีค่า นอกจากนี้เมื่อถามว่าตัวผู้ก่อเหตุดื่มสุรามาหรือไม่เจ้าตัวยอมรับสารภาพว่าดื่มเบียร์มา 1 ขวด หลังจากนั้นทางตำรวจได้คุมตัวผู้ก่อเหตุไป สอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไท
>> แท็กซี่ชนสาวลาวเสียชีวิต ขณะอุ้มลูกวัย 5 เดือนข้ามถนนตรงทางม้าลาย ก่อนขับหลบหนีแต่ถูกพลเมืองดีไล่สกัดจับไว้
22.00 น. พ.ต.ต.รัชตะ รัตนจงจิตรกร สารวัตร(สอบสวน) สภ.คูคต จ.ปทุมธานี รับแจ้งอุบัติเหตุรถแท็กซี่ชนคนเดินเท้าเสียชีวิต บนถนนลำลูกกา ช่วงคลอง 4 ปากซอยลำลูกกา 69 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงประสานแพทย์นิติเวชรพ.ภูมิพลอดุลยเดช แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่มไทร และร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบศพหญิงสาว มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ชีพพยายามปั๊มหัวใจยื้อชีวิตแต่ไม่เป็นผล โดยมีทารกวัย 5 เดือนบาดเจ็บอีกรายร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด เจ้าหน้าที่ต้องรีบพาส่งรพ.อย่างเร่งด่วน ส่วนคู่กรณีเป็นรถแท็กซี่ สีเหลือง ทะเบียน กทม. พลเมืองดีไล่ตามสกัดไว้ได้บริเวณริมถนนคลอง 5 สภาพบังโคลนซ้ายแตก กระจกหน้าแตกร้าว มีนายอัมรินทร์ เป็นคนขับ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำศพส่งรพ. แล้วควบคุมตัวคนขับรถแท็กซี่ไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ และสอบสวนแจ้งข้อหาก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป