ททท. ออกคำแนะนำต่างชาติเที่ยว 7 จังหวัดพื้นที่ปะทะ - ย้ำ ไทยเที่ยวได้ปลอดภัย
ททท.ออกคำแนะนำนักท่องเที่ยวต่างชาติใน 7 จังหวัด ในพื้นที่สู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ยืนยันติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ไม่กระทบภาพรวมท่องเที่ยว ไม่มีการยกเลิกเที่ยวบิน-ห้องพัก ยืนยันไทยมีมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุด โดยเตรียมประเมินผลกระทบปลายเดือน ก.ค.นี้
น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ออกคำแนะนำการเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติว่า ขณะนี้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นมีผลบังคับใช้ใน 7 จังหวัดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในอุบลราชธานี, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, บุรีรัมย์, สระแก้ว, จันทบุรี และตราด เนื่องจากการรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง และการประกาศกฎอัยการศึกยังคงบังคับใช้ในเขตที่กำหนด
รวมทั้งมีมาตรการปรับปรุงใหม่ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง และปราสาทเมืองต่ำ จ.บุรีรัมย์ ได้ปิดตัวลงจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม ส่วนการบินไทยได้ปรับการเดินทางในเส้นทางกรุงเทพฯ–พนมเปญ ระหว่างวันที่ 27-31 ก.ค.2568 ได้แก่ TG586 และ TG587 ด้วยเครื่องบินขนาดใหญ่ ส่วน TG584 และ TG585 ถูกยกเลิก ในส่วนของบริการทางรถไฟระหว่างอรัญประเทศและสถานีชายแดนบ้านคลองลึกในสระแก้วถูกระงับอย่างไม่มีกำหนด
โดยทาง ททท. ขอแนะนำให้ผู้เดินทางที่มีแผนใกล้ชายแดนตรวจสอบตารางการขนส่งและแก้ไขแผนการเดินทางตามความจำเป็น พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ จุดผ่านแดนทั้งหมดในจังหวัดที่ระบุไว้ สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงและอุทยานแห่งชาติ ตลอดจนชุมชนโดยรอบและจุดชมวิว ห้ามเข้าและออกที่จุดตรวจที่กำหนดโดยเด็ดขาด ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปตามถนนชายแดนที่อยู่ติดกัน
นอกจากนี้ ขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวอย่าไปที่จุดชมวิวหรือพื้นที่สังเกตการณ์ใกล้ชายแดน ผู้เยี่ยมชมและผู้อยู่อาศัยทั้งหมดในเขตที่ได้รับผลกระทบได้รับการกระตุ้นให้ปฏิบัติตามหน่วยงานท้องถิ่นและบุคลากรทางทหารอย่างเต็มที่ สถานการณ์การเดินทางทั่วไปในประเทศไทย ส่วนที่เหลือของประเทศไทยยังคงดำเนินการตามปกติ บริการในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงทางอากาศ รถประจำทาง เรือข้ามฟาก และรถไฟ (ยกเว้นส่วนที่ระงับในสระแก้ว) ยังทำงานตามปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ฐาปนีย์ ได้ร่วมเปิดงาน “แอตต้า โรดโชว์ ทู ไชน่า” ที่นครฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมกล่าวยืนยันกับเอเยนต์ทัวร์ฝ่ายจีนว่า สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นนั้น มั่นใจประเทศไทยยังเดินทางเที่ยวได้ปกติ ทางการไทยให้ความสำคัญสูงสุดเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว จะมีการประสานงานให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดสร้างความร่วมมือให้ความมั่นใจความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยวทุกคน
น.ส.ฐปนีย์ กล่าวว่า ขณะนี้ ฝ่ายแผนงาน ททท. ซึ่งเป็นหน่วยที่มีหน้าที่วางแผนและพัฒนายุทธศาสตร์การท่องเที่ยว ยังได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันติดตามสถานการณ์ไม่ความสงบระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบในพื้นที่พิพาทหลายจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางภาคตะวันออกของไทย ว่าจะได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน คาดว่าจะได้ข้อสรุปช่วงปลายเดือนก.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม แม้กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ของ จ.จันทบุรี ประกอบด้วย อ.เมืองจันทบุรี อ.ท่าใหม่ อ.มะขาม อ.แหลมสิงห์ อ.แก่งหางแมว อ.นายายอาม และ อ.เขาคิชฌกูฏ ส่วน จ. ตราด ที่อ.เขาสมิง แต่เบื้องต้นยืนยันว่านักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่มีการยกเลิกเที่ยวบินมาไทย รวมถึงยังไม่มีการยกเลิกห้องพ้กที่จองไว้ก่อนหน้านี้ เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างอยู่ในวงจำกัด
“ยืนยันสถานการณ์สู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่เกิดขึ้น ในพื้นที่หลายจังหวัดทางฝั่งภาคตะวันออก ส่งผลกระทบในวงจำกัด ไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่อาจส่งผลทางด้านจิตวิทยาบ้างกับนักท่องเที่ยวบางประเทศ เช่น สหภาพยุโรป (อียู) ออกคำแนะนำให้จับตาดู สถานการณ์ และญี่ปุ่นมีการยกระดับเตือนนักท่องเที่ยวของตัวเองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ที่เกิดข้อพิพาท แต่ยังไม่ถึงขั้นยกเลิกเที่ยวบินและยกเลิกการจองห้องพักแต่อย่างใด โดยยืนยันประเทศไทยมีมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุดให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ททท. ออกคำแนะนำต่างชาติเที่ยว 7 จังหวัดพื้นที่ปะทะ - ย้ำ ไทยเที่ยวได้ปลอดภัย
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th