โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ยานยนต์

คุยเรื่องการคิดสรรพสามิตรถยนต์-เพื่อคนไทย แบบไหนเหมาะสม?

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพไฮไลต์

ในปีนี้มีข่าวเรื่องการจัดเก็บสรรพสามิตรถยนต์ไปแล้วสองครั้ง เมื่อเดือนเมษายน คือเรื่องของการปรับวิธีคิดภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์แบบ PHEV-Plug In Hybrid ที่เลิกเอาเรื่องขนาดถังน้ำมันมาคิดแต่ปรับไปโฟกัสที่ความสามารถในการวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ 80 กม. เป็นขั้นต่ำ จากนั้นเมื่อไม่นานมานี้ก็มีข่าวว่ารัฐบาลเรามีแนวคิดที่จะคิดสรรพสามิตโดยคำนวณจากชิ้นส่วนที่ผลิตจากผู้ประกอบการในประเทศ ยิ่งอุดหนุนของจากในประเทศเยอะยิ่งได้อัตราสรรพสามิตถูกลง แล้วเราในฐานะคนใช้รถอยากให้มีการปรับเรื่องใดอีกบ้าง

วันนี้อาจจะเขียนสั้นสักหน่อยเพราะเชื่อว่าใจของหลายท่านน่าจะจดจ่ออยู่กับข่าวการรบพุ่งกันระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งผมเองไม่ใช่บุคลากรทางการทหาร แล้วก็ไม่ใคร่นำประสบการณ์จากการเล่นเกมมาเชียร์ทหารของเรา ได้แต่หวังให้มีผู้เคราะห์ร้ายจากสงครามนี้น้อยที่สุด และอยากให้พวกเราแยกให้ออกระหว่างอารมณ์ร่วมกับการทำสิ่งที่มันมีประโยชน์จริงจังต่อประเทศชาติ การศึกครั้งนี้ไม่ใช่เด็กนักเลงผลัดกันต่อยครับ ถ้าคุณคิดได้แค่ว่ามันทำมาเราทำกลับ คุณก็แพ้ ไม่เช่นนั้นไอ้โง่ที่ไหนก็บัญชาการรบได้หมดสิครับ สิ่งที่พี่ทหารเขาเกิดมาเพื่อทำ เราปล่อยให้เขาทำ ส่วนเรามีหน้าที่สนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่พลเรือนทำได้คือสร้างความเข้าใจให้นานาชาติเห็นว่า เราคือคนที่อยาก “จบ” และไม่ใช่คนที่ “เริ่ม” ครับ ที่มันไม่จบเพราะไอ้พ่อลูกฮุนมันไม่อยากจบต่างหาก

วกมาเรื่องบ้านเรา จากที่จั่วหัวไว้ว่าจะมีการปรับสรรพสามิตนั่นนี่ ไม่แน่ใจว่าผมอ่านแปลความข่าวผิดหรือเปล่า เหมือนอ่านพาดหัวข่าวและย่อหน้าแรกๆ จากประชาชาติธุรกิจว่าจะเปลี่ยนจากการวัดคาร์บอน (CO2) เป็นเรื่องการประกอบรถโดยวัดจากปริมาณชิ้นส่วนที่ใช้อันเป็นชิ้นส่วนที่มาจากภายในประเทศ (Local Content)

ผมหวังว่าผมคงอ่านจับความผิดไปเองมากกว่า เพราะถึงแม้การออกแบบโครงสร้างสรรพสามิตที่เอื้อต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศมากขึ้น ก็เป็นเรื่องดีว่าเงินตรามันอยู่ในประเทศมากขึ้นนั่นล่ะ แต่อย่าละทิ้งประเด็นเรื่องคาร์บอนหรืออัตราการสิ้นเปลือง เพราะมันคือสิ่งที่สามารถทำควบคู่กันไปได้นี่ครับ แล้วคุณเห็นประเทศไหนบ้างที่มองเรื่อง CO2 เป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว ประเทศที่ตั้งใจจะพัฒนาเขาก็มีความพยายามในการลด CO2 จากรถยนต์และกระบวนการผลิตรถกันทั้งนั้น เราอย่าไปละทิ้งเรื่องนี้เลย เพียงแต่เรื่องการใช้ Local Content นั้น ใช้มากได้สิทธิในการลดสรรพสามิตเยอะ อันนี้ดี

อย่างไรก็ตามผมไม่แน่ใจว่าการเป็น Local Content นั้นหมายถึง ใช้ของที่ผลิตในไทยอย่างเดียว หรือต้องผลิตโดยบริษัทที่มีผู้ถือหุ้นส่วนมากเป็นคนไทย หรือไม่ก็เป็นบริษัทไทยด้วย เพราะถ้าลำพังแค่ผลิตที่ไทยอย่างเดียวแล้วโอเคเลย ผมอาจจะอยากตั้งบริษัทขึ้นมา เอาคนไทยมาถือหุ้นบ้าง ตั้งโรงงานในไทยแต่ใช้แรงงานไทยหรือเปล่า? รายได้ของบริษัทอยู่ในไทยเยอะแค่ไหน ผมว่าคนที่เขียนกฎน่าจะเตรียมคิดเรื่องนี้ไว้ดีแล้ว เราก็ไปว่ากันเรื่องอื่นต่อ

สิ่งที่ทิศทางสรรพสามิตกำลังจะเดินไปนั้นนอกเหนือจากเรื่องอยากให้โฟกัสที่คาร์บอนน้อยกับการส่งเสริมรถพวกไฮบริด, ปลั๊กอินไฮบริด และรถ EV แล้ว สิ่งที่ผมว่าน่าเสียดายอยู่อย่างคือ สิทธิพิเศษที่เราเคยมีต่อพวกรถอีโคคาร์ ซึ่งพอเรายกเลิกสิทธิตรงนี้ ญี่ปุ่นเจ้าเก่าอย่าง Suzuki ก็เลยต้องเลิกประกอบอีโคคาร์จากประเทศไทยไป จะประกอบอยู่ทำไมล่ะครับถ้าท้ายสุดรถที่มาขายนั้น พอไม่มีสิทธิภาษีช่วย ราคาก็แพงขึ้น คนที่ไม่รู้อะไรก็จะบอกว่าบริษัทรถเห็นแก่ตัวขึ้นราคาเอาไว้ก่อน ทั้งที่ความจริง ผมว่านอกจากการพยายามใช้แบตเตอรี่เข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนรถในดีกรีต่างๆแล้ว รถสันดาปภายในที่น้ำหนักเบาและมลพิษต่ำก็ควรได้เครดิตในการช่วยลดมลภาวะเช่นกัน รถที่เบา เผาน้ำมันน้อยกว่ารถตัวใหญ่และหนัก ดูแลรักษาง่าย และเมื่อมันตายลง มันก็ไม่ได้ทิ้งซากแบตเตอรี่ก้อนโตเอาไว้ให้เป็นที่กังขาว่าจะกำจัดอย่างไรต่อ จะเอาไปทำพาวเวอร์แบงก์บ้านดี หรือจะส่งไปมองโกเลียดี

รถเล็กๆพลังไม่สูงและมลภาวะต่ำ มันไม่ใช่เครื่องมืออวดรวยอยู่แล้ว มันคือพาหนะที่คนที่ใช้คือคนหาเช้ากินค่ำที่รายได้ไม่เยอะ บางคนกล้าใช้รถ EV จีนก็เซฟเงินจากการเปลี่ยนน้ำมันมาเป็นไฟ TOU ได้บ้าง แล้วถามว่าคนต่างจังหวัดที่ไม่ได้อยู่หัวเมืองใหญ่กับคนที่ต้องนอนคอนโดล่ะครับ เราจะไม่มีทางเลือกให้เขาหน่อยหรือ ผมเสียดายรถอย่าง Suzuki Swift, Mazda 2 หรือรถเล็กที่ไม่ค่อยกินที่จอด ไม่ค่อยเป็นตัวพังถนน คนซ่อมคนทำหาได้ ถ้าวันนี้รถพวกนี้แพงขึ้น คนที่ใช้ EV ไม่ได้ ก็ต้องไปหารถมือสอง รถมือสองทุกคันที่ซื้อ ไม่ได้ก่อให้เกิดยอดขายไว้คุยตอนปลายปี ไม่ได้ก่อให้เกิดการสร้างงานจากโรงงานผลิตรถหรืออะไหล่ บางที ขุดอีโคคาร์มาลองพิจารณาใหม่ก็ไม่เลวนะ

คุณลองเข้าไปที่ Car.go.th แล้วเทียบรถราคาประหยัดคันเล็กๆเหล่านี้กับรถไฮบริดดูครับ Toyota Yaris ATIV 1.2 ปล่อย CO2 และกินน้ำมันพอๆกับ Camry HEV แต่ ATIV 1.2 ได้เรทสรรพสามิต 12% Camry HEV ได้เรท 4% ส่วนรถ PHEV อย่าง BYD Sealion 6? 8% ครับ ถูกละ 12% ของรถหกเจ็ดแสนกับ 4% ของรถล้านกลางๆถึงปลายมันอาจไม่ได้ต่างกันมาก แต่ท้ายสุดคือมันตลกที่รถของคนหาเช้ากินค่ำที่ใช้น้ำมันและปล่อยมลภาวะใกล้เคียงกันกับรถผู้จัดการคันโตยาวเกือบห้าเมตรมันไม่ต่างกันเท่าที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ว่าโอ๋ไฮบริดหรือ PHEV แล้วไม่ดีนะครับ ถ้า Yaris ATIV HEV ออกมา ประหยัดขึ้นอีก CO2 น้อยลงกว่าตัวเบนซินอีกแล้วจะได้เรท 4% อันนี้ผมไม่ว่าครับ แต่รถขั้น Basic สุดของสังคม อย่าไปคิดเขาแพงได้ไหม?

วิธีการคิดภาษีรถทั่วโลก เราศึกษาได้ครับ บางที่ น้ำหนักเยอะ ทำลายถนนเยอะ ก็แพง บางที CO2 เยอะก็แพง บางทีวัดกันที่ขนาดรถ เพราะยิ่งใหญ่ ยิ่งเปลืองที่บนถนน มันมีวิธีคิดได้หลายทาง

บ้านเราชอบมีกฎแปลกๆ อย่างก่อนหน้านี้ที่รถ PHEV มีกฎว่าถ้าจะได้รับอัตราภาษีต่ำถังน้ำมันต้องไม่เกิน 45 ลิตร ตอนนั้น BYD ปรับตัวทัน ส่วน GWM Haval H6 ถังโตเกิน ซวยไป ตอนหลังก็ค่อยปรับเปลี่ยนบอกว่าถังน้ำมันก็ใช้เหมือนชาวโลกเขาก็ได้ ทำไมต้องมาทำถังไซส์พิเศษเฉพาะประเทศไทย กับกฎอีกข้อที่ผมว่ามันโบราณมากคือภาษีสรรพสามิตรถกระบะที่ใช้แหนบหลังเป็นตัวกำหนด

เล่าคร่าวๆว่าในปัจจุบันถ้าคุณเปิด Car.go.th ดูจะเห็นเรทสรรพสามิต รถกระบะถ้า CO2 ไม่เกิน 200 กรัม/กม. กระบะตอนเดียวจ่าย 2% กระบะแค็บจ่าย 3% อันนี้ผมว่าเราไม่ต้องไปปรับอะไรเพราะมันคือรถของคนที่ใช้ทำกิน..ถึงแม้ว่าผมจะงงหน่อยตรงที่รถกระบะเจ็ดแสนกับ Yaris 1.2 เจ็ดแสน อย่างหลัง CO2 น้อยกว่า ทำร้ายถนนน้อยกว่า รถเบากว่า ใช้น้ำมันน้อยกว่า แต่จ่ายสรรพสามิต 12% แถมจะขึ้นอีกด้วยหลังจากนี้..แต่เอาน่ะ กระบะสองแบบนั่นมันชัดเจนในความเป็นรถใช้งานพาณิชย์อยู่แล้ว ส่วนกระบะ 4 ประตู ไม่ว่าจะสูงหรือเตี้ยโดน 9% หมด ส่วนถ้า CO2 เกิน 200 กรัม/กม. อย่าง Hilux Revo GR Sport ตัวโป่งกว้างเท่ๆนั่น โดน 12% เพราะ CO2 ทะลุครับ

ทีนี้ถ้าคุณไปลองเปิดของ Ford Raptor เทียบจะเห็นว่า Raptor ทั้งเบนซินกับดีเซลต่างก็เสีย 17% ทั้งคู่ ซึ่งถามว่าทำไมต้องเสียแพงกว่า คำตอบคือ เพราะภาษีสรรพสามิตกระบะบ้านเรามันมีข้อกำหนดครับว่าช่วงล่างหลังต้องเป็นแหนบจ้า Raptor มาเป็นคอยล์สปริง จริงๆต้องเสียสรรพสามิต 20-25% แบบรถ SUV พื้นฐานกระบะ แต่ช่วง 7 ปีที่แล้ว Ford ก็เจรจาพยายามขอตัวเลข 10-13% เท่ารถกระบะรายอื่น สุดท้ายจบที่ทางสายกลางคือ 17%

แต่ผมสงสัยครับว่าการใช้ช่วงล่างหลังจะเป็นแหนบ เป็นคอยล์สปริง เป็นถุงลมหรือจะเป็นเยลลี่เบอร์ตี้บอทก็เหอะ สุดท้ายไม่ได้ส่งผลต่อมลภาวะตรงไหน ไม่ได้ส่งผลต่อน้ำหนักที่กดลงบนถนนด้วย อันที่จริงรถใช้แหนบน่ะดัดแปลงให้บรรทุกหนักขึ้นได้ง่ายกว่าจะสร้างน้ำหนักรวมกดลงบนถนนตอนวิ่งได้มากกว่าด้วยซ้ำ คอยล์สปริงผิดอะไรก่อนอันดับแรก ในกรณีที่รถกระบะเป็นตอนเดียวหรือแค็บ จะเป็นแหนบก็ไม่น่าเป็นอะไรเพราะรถมักทำมาเน้นการบรรทุกอยู่แล้ว แต่กับรถกระบะสี่ประตู ซึ่งคนที่ใช้ก็ไม่ได้กะจะบรรทุกหนักเป็นตัน ก็ให้ผู้ผลิตรถนั่นแหละเลือกดีกว่าไหม ว่าจะทำคอยล์สปริงใส่หรือทำแหนบใส่

ต่างประเทศเขาไม่มีกฎหมายบังคับตรงนี้ แต่ผู้ผลิตรถนั่นล่ะครับเลือกเองเลยว่าจะใส่คอยล์สปริงหรือแหนบ ขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าตลาดนั้นเขามองว่าจะเน้นบรรทุกหรือเน้นนั่งสบาย ซึ่งถามว่าถ้ายกเลิกกฎนี้รถกระบะไทยต้องไปทำอะไรใหม่ไหม คุณก็ลองไปก้มดูช่วงล่างหลังรถ SUV/PPV ดูสิครับหลายส่วนเอามาใช้ได้เลย กฎข้อนี้อาจไม่ได้ส่งผลเรื่องลดมลภาวะ แต่เป็นกฎที่ผมนึกไม่ออกว่าเราจะมีไว้ทำไม ให้ผู้ผลิตเลือกแบบให้เหมาะกับรูปแบบรถกับการใช้งานไปสิครับ

ที่สำคัญจะเลือกกฎอะไรมาก็ตามแต่ เราต้องทำให้มัน “พัฒนาเร็วพอที่จะดีต่อประเทศ แต่เสถียรพอที่บริษัทรถกับนักลงทุนจะจับทิศทางได้ครับ” ผมเพิ่งคุยกับผู้บริหารบริษัทรถชาวต่างชาติที่ไม่ยอมให้บอกชื่อ..เขาบอกแค่ว่าดีลกับบ้านเราปวดหัวที่สุดก็เรื่องกฎเกณฑ์นี่ล่ะครับ ตอนวิจัยรถมีกฎอย่างนึง พอทำรถเสร็จ เอ้า จะเปลี่ยนอีกละ แล้วใครมันจะกล้าลงทุนเยอะๆเล่าครับ

Pan Paitoonpong

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : คุยเรื่องการคิดสรรพสามิตรถยนต์-เพื่อคนไทย แบบไหนเหมาะสม?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

"สุริยะ" เปิด 5 มาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากชายแดน "ไทย-กัมพูชา"

19 นาทีที่แล้ว

ชายต้องสงสัย อ้างจะไปส่งพระเครื่องที่ปราสาทตาเมือนธม ญาติยันเป็นผู้ป่วยจิตเวช

40 นาทีที่แล้ว

แห่ส่งกำลังใจให้ พ่อรอง ปวดท้องทรมาน หามส่งโรงพยาบาล รอผลส่องกล้องและผ่าตัด

43 นาทีที่แล้ว

ทอ. ส่ง F-16 จำนวน 2 หมู่ ทิ้งบอมบ์พื้นที่ยุทธบริเวณ "ปราสาทตาเมือนธม-ตาควาย"

46 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความยานยนต์อื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

LEXUS ยกเลิกเครื่อง V6 ไฮบริด เสียบ V8 แทนที่ในสปอร์ต LC รุ่นปรับโฉม 2026

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

สัมผัสแรก ทดสอบ VOLVO EX30 CROSS COUNTRY TWIN MOTOR

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

สคบ.ตามติด NETA แวะไปหาที่บริษัททุกสัปดาห์ ดูวิธีการแก้ปัญหาให้ผู้บริโภค

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์
ดูเพิ่ม
Loading...