กลัวตายก่อนแล้วสังคมไม่รู้!อดีตครูเชียงรายขึ้นป้ายแฉทุจริตโรงเรียน ทั้งจัดซื้อครุภัณฑ์จากร้านซ่อมรถ-ใช้ชื่อ นร.ผี เบิกงบ
เชียงราย - อดีตครูวัยเกษียณป่วยเนื้องอกในสมอง ทนไม่ไหว..ขึ้นบ้านหราหน้าบ้าน แฉทุจริตโรงเรียนที่เคยสังกัดเป็นฉากๆ ทั้งจัดซื้อครุภัณฑ์กับร้านซ่อมรถ-เอกชนยื่นราคามีเบอร์โทรเดียวกันหมด 3 เจ้า-บรรจุนักเรียนผีโผล่เบิกงบฯ 300 คน-พวก ผอ.ได้ 2 ขั้นทุกปี ฯลฯ หลังร้องหลายหน่วยงานแต่ช้า กลัวตายก่อนสังคมไม่รู้
วันนี้ (4 ส.ค.) นายบุญธัน ธรรมปัญญา อายุ 62 ปี ได้นำป้ายไวนิลระบุข้อความต่างๆ ที่มีความหมายในทำนองว่ามีการทุจริตในวงการศึกษา พร้อมออกมาเปิดเผยให้สังคมรับทราบ ติดไว้ที่หน้ารั่วบ้านของตัวเองภายในซอย 5 ถนนศรีเวียง ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย
เมื่อสอบถามก็ทราบว่านายบุญธีนเป็นอดีตข้าราชการครูที่เกษียณอายุราชการมาได้ 2 ปี ส่วนป้ายเกิดจากตัวเองได้ป่วยเป็นโรคเนื้องอกใต้สมอง หลังรักษาจนอาการทุเลา ก็คิดถึงเรื่องทุจริตที่เกิดขึ้นในโรงเรียนที่ยังคาใจว่าหากไม่ออกมาเปิดเผยและตัวเองเกิดเสียชีวิตไปเสียก่อนจะมีผลเสียต่อสังคม
ดังนั้นจึงได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ แล้วร้องเรียนไปยัง ปปช.,ปปท.,และ รมว.มหาดไทย ให้ตรวจสอบผู้บริหารในอดีตโรงเรียนที่ตนเคยสังกัด แต่เรื่องล่าช้าและล่าสุดผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าวก็ได้ลาออกไปแล้ว ตนจึงทำป้ายนำมาติดไว้ที่หน้าบ้านเพื่อหวังให้สังคมได้รับรู้
นายบุญธัน กล่าวว่าเรื่องที่ตนอยากบอกสังคมคือมีการจัดซื้อครุภัณฑ์ของโรงเรียนดังกล่าวกับร้านที่รู้จักกับผู้บริหารโรงเรียน แต่เมื่อตนไปดูที่ร้านตามเอกสารจัดซื้อจัดจ้าง ปรากฎว่าเป็นเพียงร้านซ่อมรถที่เปิดมานานกว่า 10 ปี สอบถามผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ก็ได้รับคำยืนยันว่าไม่เคยมีร้านจำหน่ายครุภัณฑ์อยู่ตรงจุดนั้น
ขณะเดียวกันตนพบมีร้านที่ยื่นเสนอราคากับโรงเรียน 3 ร้านใช้หมายเลขโทรศัพท์เดียวกันหมด นอกจากนี้พบว่ามีการใช้รายชื่อนักเรียนที่ไม่ได้เข้าเรียนจริงหรือนักเรียนผี เพราะย้ายไปเรียนที่อื่นแล้วแต่กลับถูกนำรายชื่อมาเบิกงบประมาณรายหัวอย่างต่อเนื่องหลายปี เฉพาะปีงบประมาณ 2560 มีรายชื่อนักเรียนผี 215 รายชื่อ และปี 2564 มีจำนวน 173 รายชื่อ รวมจำนวน 388 ราย รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 1.5 ล้านบาท
นายบุญธัน กล่าวอีกว่าในปี 2564 ตอนเกิดวิกฤติไวรัสโควิด-19 รัฐจัดสรรงบประมาณช่วยนักเรียนรายหัวโดยให้นำหมายเลขประจำตัวของเด็กแจ้งในระบบ แต่เมื่อมีรายชื่อผีโรงเรียนจึงแก้ไขปัญหาด้วยการจำหน่ายรายชื่อออกไปจากระบบคราวเดียว 173 รายชื่อ ซึ่งส่อทุจริตเพราะเคยมีการใช้เบิกเงินไปก่อนหน้านี้แล้ว นอกจากนี้ปลายปีงบประมาณ 2567 มีงบประมาณคงเหลือและทางโรงเรียนไม่อยากส่งคืนคลังจึงออกเช็คสั่งจ่ายให้ครู 24 คน แล้วให้แต่ละคนนำไปขึ้นเงินเพื่อนำเงินสดมาส่งคืนให้กับทางโรงเรียน ซึ่งไม่ทราบว่ามีการนำเงินไปใช้อย่างไรและตนก็ไม่เคยเห็นที่ไหนหรือประเทศใดเคยทำอย่างนี้มาก่อน นอกจากนี้มีเรื่องนำเงินออมทรัพย์สหกรณ์นักเรียนไปใช้ ฯลฯ
อดีตครูชาวเชียงราย กล่าวด้วยว่าเรื่องราวต่างๆ เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นและยังมีอีกมากมาย ตนเกรงว่าเป็นการปล้นเงินภาษีของประชาชนซ้ำซาก ดังนั้นจึงนำหลักฐานที่เป็นของจริงไม่ได้ทำขึ้นมาเองและมีที่มาที่ไปที่ชัดเจน ซึ่งถือเป็นความสกปรกของวงการนี้ เดินทางไปยังกรุงเทพฯ ร้องเรียนต่อหน่วยงานต่างๆ ซึ่งหลังจากการร้องเรียนก็ได้มีครูหลายคนที่เคยเอาเงินออกไปนำมาคืนโรงเรียนหรือบางคนก็ขอย้ายออกไปที่อื่น แต่การตรวจสอบล่าช้า
นายบุญธัน กล่าวอีกว่า ข้าราชการครูในโรงเรียนมีอยู่ 2 กลุ่ม กลุ่มที่ร่วมทุจริตเขาได้รับผลประโยชน์ แต่มันไปริดรอนสิทธิของคนที่ไม่ได้ คือได้ 2 ขั้น มีสิทธิพิเศษคือได้ 2 ขั้น ทำงานบ้างไม่ได้ทำงานบ้างก็ได้ 2 ขั้นทุกปี ทำอย่างไรก็ได้ 2 ขั้น ปัญหาคือครูอีกกลุ่มหนึ่งที่เขาทำงาน บางคนมีผลงานระดับประเทศแต่เขาก็ไม่ได้ เพราะ ผอ.เอาเม็ดเงินจากครูที่ไม่ได้เอาไปให้กับพรรคพวกตัวเอง ผมถึงยอมไม่ได้
“มันถึงขนาดนี้เลยหรือ คุณก็ยังมาปล้นเม็ดเงินจากครูที่เขาน่าจะได้แต่เขาไม่ได้" นายบุญธัน กล่าวและว่าหลังการร้องเรียนมีคนเตือนตนให้ระมัดระวังตัวเพราะอาจไปขัดผลประโยชน์กับอดีตผู้บริหาร แต่ตนก็ยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อไป โดยได้ไปบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองเชียงราย ไว้แล้ว.
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO