โป๊ะแตก! 2 หนุ่มจีนปลอมตราวีซ่าหวังอยู่ไทยยาว อ่วมโทษหนัก! คุก 10 ปี ปรับ 2 แสน
เมื่อวันที่ 4 ส.ค. พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รอง ผบก.ตม.1 รับรายงานจาก พ.ต.อ.ธวัชชัย หนองบัว ผกก.3 บก.ตม.1 ว่าที่ พ.ต.อ.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 และ พ.ต.ท.ธงไทย ไพเราะ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 จับกุม MR.TSAI (ไซ) ชาวไต้หวัน อายุ 40 ปี และ MR.ZHANG (จาง) อายุ 39 ปี โดยทั้งสองสัญชาติจีน แจ้งข้อหา นายไซ “ปลอมขึ้นซึ่งดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปะตรวจลงตราอันใช้ในการตรวจลงตราสำหรับเดินทางต่างประเทศ” และ นายจาง ข้อหาว่า “ใช้ดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปะตรวจลงตราที่ทำปลอมขึ้น” โดยจับกุมได้ที่ศูนย์บริการของกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 บริเวณชั้น 6 ห้างสรรพสินค้า One Bangkok ถ.วิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.
สืบเนื่องจากนโยบายเน้นหนัก ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดย พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เกี่ยวกับการปราบปรามคนต่างด้าวที่กระทำความผิดกฎหมายอาญาในทุกรูปแบบอาชญากรรม โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายคนเข้าเมือง หนังสือเดินทาง และตราประทับของทางราชการต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบโดยตรงของ สตม.
ต่อมาเมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค.2568 ที่ผ่านมา ได้มีผู้ต้องทั้ง 2 ราย คือนายไซ ได้พานายจาง มายื่นคำขออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เพื่อปฏิบัติงานช่างฝีมือ ให้กับบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง ผ่านระบบสำหรับยื่นคำขอออนไลน์ จากการตรวจสอบคำขอเบื้องต้น พบว่า รอยตราประทับขาเข้าที่ปรากฏบนหนังสือเดินทางของนายจาง เป็นการผ่อนผันการตรวจลงตราให้เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อการท่องเที่ยว 60 วัน ซึ่งจะไม่สามารถขออยู่ในราชอาณาจักรต่อไปอีกได้ เนื่องจากขัดต่อระเบียบและหลักเกณฑ์ จึงแนะนำให้นายจางเดินทางออก หรือขอเปลี่ยนประเภทการตรวจ ลงตราก่อน และต้องมายื่นเอกสารด้วยตนเอง
ต่อมา วันที่ 24 ก.ค. นายไซ พานายจาง มาพบเจ้าหน้าที่ ที่ศูนย์บริการของกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 โดยนายจาง ได้ยื่นหนังสือเดินทางสัญชาติจีนของตน กระทั่งพบความผิดสังเกต เกี่ยวกับรอยตราประทับขาเข้าที่ปรากฏบนหนังสือเดินทางฉบับดังกล่าว มีร่องรอยการขีดฆ่าและแก้ไขตัดทอน โดยเติมข้อความ เปลี่ยนจากเดิมคำว่า “ผ.60-ม.17” เป็น “NON-IB” เพื่อให้สามารถยื่นคำร้องขออยู่ในราชอาณาจักรต่อไปได้ ก่อนแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ และประสานแจ้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.ตม. 1 เข้าจับกุม
จากการสอบสวนเบื้องต้นในชั้นจับกุม นายจางปฏิเสธว่า ตนมิได้เป็นผู้ขีดฆ่า และแก้ไขข้อความบนรอยตราประทับของหนังสือเดินทางของตน แต่ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่านายไซ ซึ่งพาตนมาต่อวีซ่า เป็นผู้ทำการขีดฆ่า และแก้ไขเติมข้อความลงในหนังสือเดินทางของตน ก่อนเข้ามายื่นเอกสารดังกล่าว
สอบสวนนายไซ ให้การรับสารภาพ จึงแจ้งข้อกล่าวหาทั้งสองราย ก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ สตม. ฝากเตือนประชาชนด้วยว่า การกระทำดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นด้วยเจตนาทุจริตก็ดี หรือด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย ความผิดต่อหนังสือเดินทางหรือรอยตราประทับที่ใช้ในการเดินทางระหว่างประเทศ ยังถือเป็นภัยต่อความมั่นคง ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่ชาติและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้กำชับและกวดขันในการปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างจริงจังมาโดยตลอด โดยความผิดดังกล่าวมีอัตราโทษสูง คือ จำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท นอกจากนี้ การใช้ดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปะตรวจลงตราที่ทำปลอมขึ้นก็มีโทษเช่นเดียวกัน หากพี่น้องประชาชน หรือผู้สื่อข่าว มีเบาะแส หรือพบการกระทำที่เป็นความผิดในลักษณะดังกล่าว กรุณาแจ้งสายด่วน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบทันทีที่ หมายเลข 1178