คลิปขอทานเขมรโอด “กลับไปก็อดตาย” อยู่ไทยโกยวัน 500-2000 บาท
กลุ่มขอทานกัมพูชาในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ยืนกรานไม่ขอกลับประเทศ กลับไปก็ลำบาก-อดตาย ยอมรับเคยถูกจับส่งตัวกลับประเทศ 1-2 เดือน แอบลักลอบเข้ามาใหม่ เผยอยู่ไทยหาเงินได้ต่อวัน 500-2,000 บาท
กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนัก กรณีแรงงานชาวกัมพูชาแห่แจ้งความประสงค์กับนายจ้างในประเทศไทย โดยส่วนหนึ่งมีการขอกลับไปยังบ้านเกิดที่กัมพูชา เนื่องจากมีคำสั่งของรัฐบาล ซึ่งผู้นำกัมพูชา ตีกรอบชัดเจนว่า ภายในวันที่ 10 ส.ค.นี้ แรงงานเขมรคนไหนยังไม่กลับประเทศ โดนตัดสัญชาติทันที ข้อมูลจากปากแรงงานต่างด้าว ถูกบังคับทุกช่องทางเพื่อให้กลับ มิเช่นนั้นที่ดินบ้านที่อยู่ในกัมพูชาจะโดนยึดหมด
กระแสดังกล่าวสอดคล้องกับที่เทพชัย หย่อง สื่อมวลชนอาวุโส บอกเล่าปรระสบการณ์ตรงผ่านบัญชีโซเชียลของตัวเองที่ระบุ หลังไปรับประทานอาหารร้านใหญ่แห่งหนึ่งย่านบางนาแล้วต่อมาทราบจากเจ้าของซึ่งเป็นผู้ประกอบการชาวไทยเผยว่า ที่ร้านมีพนักงานเขมรเกือบ 30 คน ขอกลับบ้านเกิด หลังญาติๆ เตือนรัฐบาลเขมรขู่จะถอนสัญชาติและยึดที่ดินถ้าไม่กลับ แถมอีกหลายร้านในละแวกดังกล่าวก็โดนแบบเดียวกัน
ไม่มีแค่แรงงานกัมพูชาที่ต้องกลับ เปิดคำสารภาพ ขอทานเขมร ทำไมไม่ยอมกลับประเทศ
นอกจากมุมของแรงงานต่างด้าวที่เป็นชาวเขมรซึ่งอาศัยมาอยู่กินและประกอบอาชีพในไทยนั้น ล่าสุดหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ของตัวเมืองพัทยา จังหวัดท่องเที่ยวชื่อดังของจ.ชลบุรี ก็ได้เริ่มออกปฏิบัติการตรวจสอบไปที่กลุ่มขอทานกัมพูชาที่ปัจจุบันมักจะมารวมตัว ก่อนกระจายกันนั่งขอเงินผู้คนที่เดินผ่านไปมา ซึ่งสด ๆ ร้อน ๆ มีการสอบถามถึง ขอทานเขมรกลุ่มนี้ว่าพวกเขาพร้อมแล้วหรือไม่ที่จะต้องกลับบ้านเกิดตามคำสั่งของรัฐบาลของพวกเขา
โดยวานนี้ (3 ส.ค.) การลงพื้นที่สำรวจกลุ่มขอทานชาวกัมพูชา ในเขตพื้นที่เมืองพัทยาของชลบุรี ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ไปพบเข้ากับกลุ่มขอทานซึ่งกระจายกันนั่งขอทานอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ หรือตามย่านสถานบันเทิงบาร์เบียร์ต่างๆ ที่มีผู้คนและนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน
อ้างอิงข้อมูลจากช่อง 3 แม่ลูกอ่อน อายุ 24 ปี อุ้มลูกสาววัยเพียง 2 เดือน กำลังให้นมในอ้อมอกนั่งขอทานอยู่ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อให้ข้อมูลว่าจากสถานการณ์ความไม่สงบในเขตชายแดน รู้เรื่องสถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา แถมบ้านของเธอยังติดอยู่กับพื้นที่ชายแดน ขณะที่เธอไม่อยากกลับบ้าน เพราะกลับไปคงลำบาก อีกทั้งเธอถูกสามีทิ้ง จึงมานั่งขอทาน เพิ่งจะได้เงินเพียง 200 บาท
ขณะที่แม่ลูกขาวกัมพูชาอีกคู่หนึ่งพอเห็นทีมข่าวก็วิ่งหนีเข้าซอยแล้วแกล้งเข้าไปในห้องน้ำของโรงแรม ทีมข่าวก็นั่งรอจนมีโอกาสพูดคุย ซึ่งเธอก็ยอมรับว่าเคยถูกจับกุมมาแล้วและถูกส่งตัวกลับไปที่ประเทศกัมพูชา
อย่างไรก็ดีพอถูกจับไม่นานเจ้าตัวก็จะแอบลักลอบเข้ามาในประเทศไทย โดยหนนี้อยู่ได้ไม่ถึง 1 เดือน ส่วนที่มาเนื่องจากที่ประเทศไม่มีงานทำ แถมป่วยเป็นโรคเบาหวานจึงต้องเข้ามาขอทานในไทย
เมื่อถามว่าอยากกลับประเทศหรือไม่ ตอบเพียงว่า “ อยากกลับแต่ไม่มีตังค์”
จากนั้นเมื่อมีการตระเวนไปตามจุดซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็พบมีกลุ่มขอทานกัมพูชาอีกหลายจุด ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและมีลูกน้อย 1-2 คน มาร่วมขอทานด้วย
เวลานักท่องเที่ยวผ่านมาเห็นก็จะสงสารหยิบยื่นเงินใส่กระป๋องให้ทันที ขณะที่ชาวบ้านและกลุ่มรถจักรยานยนต์รับจ้างเล่าว่า กลุ่มคนขอทานพวกนี้เป็นหน้าเดิม พอถูกตำรวจจับไปประมาณ 1-2 เดือน จะกลับมานั่งขอทานอีกเป็นเรื่องปกติ เลยไม่ค่อยมีใครสนใจ
ส่วนใหญ่กลุ่มขอทานชาวกัมพูชาไม่ค่อยสร้างความเดือดร้อนให้กับนักท่องเที่ยว โดยจะนั่งขอทานอยู่ริมทางเดินเท้าฟุตบาธ จะใช้เด็กน้อยในการดึงดูดเรียกร้องความสงสาร จนนักท่องเที่ยวยอมควักเงินให้ อีกทั้งยังรู้มาว่า กลุ่มชาวกัมพูชา ที่มานั่งขอทาน รายได้ดีมาก วันๆ ได้เงินขั้นต่ำต้องมีอย่างน้อย 400-500 บาท บางวันฟลุ๊คๆ ต้องมี 1,000-2,000 บาท โดยจะเริ่มนั่งขอทานตั้งช่วงหัวค่ำไปจนถึงดึก
ทั้งนี้เคสขอทานกัมพูชาในไทย นอกจากที่พัทยาแล้ว หากใครยังจำกันได้ ในบ้านเราเคยเจอปัญหาหนักของ “ป้าขอทานกัมพูชา” ที่พิการแขนด้วน ก่อปัญหาโวยวายลั่นด่าน คลองลึก จ.สระแก้ว เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา หนึ่งในชาวกัมพูชาที่เหมือนเป็นแกนนำหญิงแขนด้วนซึ่งภายหลังถูกจับกุมเนื่องจากพบว่าลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายมาทำอาชีพขอทาน ซึ่งหนดังกล่าวตำรวจได้ผลักดันกลับประเทศ หลังส่งดำเนินคดีในไทย
ตอนนั้นป้าขอทานเขมรเปิดใจว่า เธอนั้นไม่รู้ทำผิดกฎหมายไทย ส่วนที่ประท้วงหน้าด่านเพราะต้องการจะกลับบ้านเท่านั้น เรื่องขอทานอ้างว่าเป็นเรื่องนานมาแล้วเลิกไปตั้งนานแล้ว ก่อนจะวีนสื่อหลังลืมรองเท้าไว้ที่ห้องขังแล้วโดนจี้ถามอีกครั้งจึง้เอ่ยปากบอก “ขอโทษนะ อย่าถามเยอะ” พร้อมประกาศลั่นจะไม่กลับมาเมืองไทยอีกแล้วจะอยู่ที่กัมพูชาตลอดไป.
อ่านข่าวเพิ่มเติม