เกษตรกรถาม “พาณิชย์” ลำไยกิโลกรัมละ 13 บาท ขายได้ที่ไหน ยันทุกวันนี้ราคาต่ำติดดิน
เกษตรกรถามหาราคารับซื้อลำไย เกรด AA 13 บาท เกรด A 6 บาทอยู่ตรงไหน หลัง “พาณิชย์” ผนึกกำลังกับ “สมาคมโรงอบลำไยอบแห้งภาคเหนือ” ประกาศดีเดย์รับซื้อตั้งแต่วันที่ 1-20 ส.ค. 68 บอกวันนี้ มีแต่ราคา 8 4 2 และ 7 3 1 ต่ำสุด 6 2 0.5 สำหรับเกรด AA, A และ B ส่วนเกรด C ทิ้งอย่างเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย และพะเยา และน่าน ที่เป็นแหล่งเพาะปลูกลำไยของภาคเหนือ ได้ร้องเรียนปัญหาราคาลำไยตกต่ำ โดยล่าสุดเกรด AA เกรด A และเกรด B ราคารับซื้อต่ำสุดอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 6 บาท 2 บาท และ 0.50 บาทตามลำดับ แต่ก็มีบางพื้นที่ ราคา 7 บาท 3 บาท และ 1 บาท แต่ก็มีไม่มาก ซึ่งราคาสวนทางกับสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศออกสื่อตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. 2568 ว่า ได้ร่วมมือกับสมาคมโรงอบลำไยอบแห้งภาคเหนือ ทำการดูดซับผลผลิตลำไยออกจากตลาด โดยกำหนดราคารับซื้อที่โรงอบ เกรด AA กก.ละ 13 บาท เกรด A กก.ละ 6 บาท และที่จุดร่อน เกรด AA กก.ละ 12 บาท เกรด A กก.ละ 5 บาท โดยจะรับซื้อตั้งแต่วันที่ 1-20 ส.ค. 2568
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ซื้อขายจริงไม่ได้เป็นไปตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด เกษตรกรสามารถขายได้แค่ราคา 8 4 2 บาท 7 3 1 บาท และต่ำสุด 6 2 0.5 บาทเท่านั้น และไม่รู้ว่าจุดที่กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับสมาคมโรงอบลำไยอบแห้งภาคเหนือรับซื้ออยู่ตรงไหน ไม่มีใครพบ ไม่มีใครเห็นเลย และล่าสุดยังมีข่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ไม่ได้ยืนราคาที่ประกาศไว้ในตอนแรกแล้ว มีการปรับลดราคารับซื้อลงมาอีก ซึ่งเกษตรกรกำลังจับตาดูอยู่ว่าเกรด AA จะปรับลดเหลือกี่บาท เกรด A เหลือกี่บาท ส่วนเกรด C ตอนนี้ไม่มีใครซื้อ มีแต่ทิ้งอย่างเดียว
นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่ากระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งเป้ารับซื้อในโครงการที่ร่วมมือกับสมาคมโรงอบลำไยอบแห้งภาคเหนือ จำนวนสูงถึง 100,000 ตัน และกรมการค้าภายในให้การสนับสนุนค่าบริหารจัดการสูงถึง กก.ละ 2-3 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 200 ล้านบาท ที่จะให้ผู้ประกอบการ
ข้อมูลจากกรมการค้าภายในแจ้งว่า ปีการผลิต 2568 ผลผลิตลำไยภาคเหนือคาดว่าจะมีปริมาณ 1.06 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 21.36% โดยผลผลิตส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ลำพูน และเชียงราย ขณะนี้ผลผลิตออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 40% และกำลังออกสู่ตลาดมากในช่วงสัปดาห์แรกของเดือน ส.ค. 2568 จากนั้นผลผลิตจะเริ่มลดลงหลังวันที่ 15 ส.ค. 2568 เป็นต้นไป
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO