ทนายดัง ชี้ มือแทง เป๊ก-ผลิตโชค กระทืบซ้ำหลังล้ม เข้าข่ายผิด ม.68-69
ทนายเดชา วิเคราะห์ คดีเป๊ก ชี้ มือแทง เป๊ก-ผลิตโชค พุ่งเข้า กระทืบเป๊ก เตะหัวเป๊ก หลังล้มลง อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญา68-69
ข่าวโซเชียล ทนายดัง วิเคราะห์ มือแทง เป๊ก-ผลิตโชค สืบเนื่องจาก คดีเป๊กโดนแทง ในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งกลางดึกของวันที่ 2 ส.ค. 68 ที่ผ่านมา กลายเป็นกระแสดัง มีคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เนื่องจาก นายผลิตโชค อายนบุตร เป็นนักร้องชื่อดัง มีแฟนคลับทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ล่าสุด ทนายเดชา แสดงความคิดเห็นผ่านเพจ ทนายคลายทุกข์ กล่าวถึงเรื่องราวดังกล่าว พร้อมชี้ว่า ผู้ก่อเหตุอาจเข้าข่ายผิด อาญา68 และ อาญา69
มือแทง เป๊ก-ผลิตโชค เข้าข่ายผิด ป.อาญา 68-69
โดย ทนายเดชา กล่าวว่า “คดีนักร้องดัง กล้องวงจรปิดตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ สามารถอธิบายว่าใครผิดใครถูก
ถือเป็นพยานหลักฐานชั้นเยี่ยม #มีคุณค่าเชิงพิสูจน์” พร้อมระบุข้อมูลอีกว่า “กล้องวงจรปิดกล้องหน้ารถถือเป็นพยานหลักฐานที่มีคุณค่าเชิงพิสูจน์ ดีกว่าประจักษ์พยานอีกเพราะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้กล้องจะบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงตามลำดับ ก่อนหลังคดีนี้ไม่ใช่คดียุ่งยาก ผู้ใดหาเรื่องก่อนก็ไม่สามารถอ้างเหตุผลอะไรมาต่อสู้คดีได้
ส่วนผู้ที่อ้างว่าป้องกันตัวก็ต้องพิสูจน์ได้ว่า “สมัครใจทะเลาะวิวาทหรือไม่ ถ้าไม่สมัครใจก็เป็นเรื่องของการป้องกัน แต่หลังจากที่เค้าล้มลงแล้วภยันตรายไม่มีแล้ว ไปกระทืบเขาซ้ำ ถือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ศาลจะลงโทษน้อยเพียงใดก็ได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 68 และมาตรา 69”
ข่าวที่น่าสนใจ
- ด่วน!! เปิดคลิปนาที เป๊ก ผลิตโชค เกาะรถ โดนฟันคาง-เตะศีรษะอย่างแรง
- เปิดจดหมายสุกี้ดัง โพสต์ชี้แจงมือแทง เป๊ก ผลิตโชค ไม่ใช่พนักงานร้าน
- เป๊ก ผลิตโชค ติดเทรนด์ X อันดับ 1 หลังโดนแทงกลางปั๊ม จากโจ๋อ้างเป็นพลเมืองดี
สำหรับ
-ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 68 ระบุว่า : “ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่นให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด”
-ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 69 ระบุว่า : “ในกรณีที่บัญญัติไว้ในมาตรา 67 และมาตรา 68 นั้น ถ้าผู้กระทำได้กระทำไปเกินสมควรแก่เหตุ หรือเกินกว่ากรณีแห่งความจำเป็น หรือเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ แต่ถ้าการกระทำนั้นเกิดขึ้นจากความตื่นเต้น ความตกใจ หรือความกลัว ศาลจะไม่ลงโทษผู้กระทำก็ได้”