ดร.สามารถ ซัดโฆษก กห.กัมพูชา ลั่นพอกันทีเถอะนะ "มาลี"
วันที่ 3 ส.ค.68 ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า พอกันทีเถอะนะ “มาลี”
ในขณะที่คนไทยทั้งประเทศกำลังโศกเศร้าและโกรธแค้นจากเหตุการณ์ที่โรงพยาบาลและแหล่งชุมชนในพื้นที่ชายแดนไทยถูกโจมตี ทั้งที่เป็นเขตปลอดทหารตามหลักมนุษยธรรมสากล กลับมีแถลงการณ์ที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่ากระสุนปืนคือ คำโกหกหน้าตายที่ถูกยิงออกมาจากไมโครโฟนของ “โฆษกกลาโหมกัมพูชา”
ใช่ครับ…“มาลี” โฆษกกลาโหมกัมพูชาออกมาแถลงด้วยการตีหน้าซื่อ ปั้นเรื่องโกหกหน้าตาย ราวกับเป็นนักแสดงชั้นดีในละครน้ำเน่า แทนที่จะยอมรับความจริงหรือแสดงความเสียใจ กลับใช้เวทีแถลงข่าวเป็นโรงงานผลิต "ข้อมูลเท็จ" บิดเบือนเหตุการณ์ โยนความผิดให้ประเทศไทย พร้อมใส่สีตีไข่ สร้าง “Story” ชวนหัวเราะทั้งน้ำตา
ในโลกแห่งความจริง…หลังเที่ยงคืนวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ซึ่งเป็นเวลาที่ต้องเริ่ม “หยุดยิง” ตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลง
ฝ่ายไทยหยุดยิง แต่สิ่งที่ไทยได้รับคือ มีกระสุนจริง มีระเบิดจริงจากฝั่งกัมพูชาตกลงมาที่ฝั่งไทย
แต่ใน “โลกของมาลี” กลับลอยหน้าลอยตาแถลงว่า “กัมพูชาไม่ได้ยิง” “ฝ่ายไทยต่างหากที่ละเมิดข้อตกลง” “กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด” “ข้อกล่าวหาของฝ่ายไทย ไม่มีมูลความจริง”
นี่มัน "โลกของมาลี" ที่เต็มไปด้วยคำโกหก ปั้นน้ำเป็นตัว สร้างสตอรี่ให้คนหลงเชื่อ ทั้งๆ ที่ความจริงปรากฏชัดต่อหน้าต่อตา
ลองคิดดู…ยิงใส่โรงพยาบาล ยิงใส่ปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ แล้วบอกไม่ได้ยิง? ยิงใส่ไทยก่อน แล้วบอกว่าไทยเริ่มก่อน? หลักฐานเต็มพื้นที่ แต่บอกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น?
นี่ไม่ใช่แค่ “โฆษกพูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริง” แต่มันคือ การหลอกลวงคนทั้งโลก และการทำลายความเชื่อมั่นในข้อตกลงระหว่างประเทศอย่างรุนแรง
โลกของมาลีอาจเชื่อว่าการโกหกแล้วพูดซ้ำๆ จะกลายเป็นความจริง
แต่ในโลกของเรา คนไทยรู้ดีว่า ความจริงคือมีกระสุนตกลงใน รพ. ความจริงคือมีพลเรือนเสียชีวิต และบาดเจ็บ ความจริงคือกัมพูชายิงหลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้
การออกมาแถลงว่า “ไทยใส่ร้าย” ทั้งที่โลกมีภาพถ่ายดาวเทียม มีคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้ชัดว่าใครคือฝ่ายที่เปิดฉากยิง นี่คือการดูหมิ่นสติปัญญาของประชาชนโลก พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ได้ต่างจากเผด็จการที่กลัวความจริงมากกว่ากลัวระเบิด
โลกของมาลีอาจมีแต่เรื่องแต่ง แต่ในโลกของเรา ชีวิตจริงกำลังเจ็บจริง ตายจริง ไม่ใช่เรื่องสมมติ!
ประเทศไทยไม่ต้องการสงคราม แต่ก็ไม่ใช่ประเทศที่ยอมให้ใครมารังแก “เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่” หรือเหยียบย่ำศักดิ์ศรีไปเฉยๆ การยิงถล่มโรงพยาบาลและแหล่งชุมชนคืออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ แต่การปั้นคำโกหกออกมาแถลงในที่สาธารณะเพื่อกลบเกลื่อนความผิดนั้น เป็นอาชญากรรมต่อ “ความจริง” ที่เลวร้ายไม่แพ้กัน
เราขอประณามอย่างถึงที่สุดต่อคำโกหกของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา และขอเรียกร้องให้เขาหยุดใช้ “ไมโครโฟน” เป็นอาวุธฆ่าความจริง
“คุณอาจหลอกประชาชนในประเทศตัวเองได้ชั่วคราว แต่คุณไม่มีวันหลอกความจริง หลอกดาวเทียม และหลอกประชาคมโลกได้”
ขอบคุณ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์