ปธ.สภากษตรกรฯเพชรบูรณ์ หวั่นข้าวโพดจีเอ็มโอจากสหรัฐฯ กระทบเกษตรกร-ข้าวโพดไทยไร้ทางสู้
ปธ.สภากษตรกรฯเพชรบูรณ์ หวั่นข้าวโพดจีเอ็มโอจากสหรัฐฯ กระทบเกษตรกร-ข้าวโพดไทยไร้ทางสู้
วันที่ 1 สิงหาคม 2568 นายเทพ เพียมะลัง ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นรายละเอียดที่ใช้ในการเจรจาต่อรอง แต่จากการติดตามข่าวสารพอเข้าใจว่า มีข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ซึ่งรองนายกฯ พิชัย แจ้งว่าผลผลิตภายในประเทศมี 5 ล้านตัน แต่โรงงานอาหารสัตว์ต้องการ 10 ล้านตัน จึงต้องนำเข้า ยอมรับว่ายังไม่แน่ใจว่าจะกระทบในรูปแบบใด
นายเทพกล่าวว่า อันดับแรกคือต้องดูว่าการนำเข้าจะมาทดแทนข้าวโพดในประเทศเลยหรือไม่ หรือจะเป็นการเพิ่มปริมาณการผลิตอาหารเพื่อการส่งออก ตนเคยได้ยินว่ารัฐบาลจะขยายฐานการผลิตจาก 2% เป็น 10% ซึ่งจะต้องใช้วัตถุดิบจากภายนอกมาผลิตอาหารสัตว์ หากเป็นโมเดลนี้อาจจะกระทบน้อย แต่ถ้านำมาแทน 5 ล้านตันในประเทศ เป็น 10 ล้านตัน โดยไม่ขยายตลาดส่งออกอาหารสัตว์ อันนี้กระทบแน่นอน
ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดเพชรบูรณ์กล่าวว่า ข้าวโพดในประเทศมีอยู่แล้ว 5 ล้านตัน และนำเข้าอีก 5 ล้านตัน เดิมก็ไม่ได้ขาดแคลน เพราะมีการนำปลายข้าว รำข้าว และมันสำปะหลัง โดยเฉพาะวัตถุดิบที่มีโปรตีนสูงมาประกอบให้ครบองค์ประกอบผลิตอาหารสัตว์ เพื่อให้ครบปริมาณ 10 ล้านตันอยู่แล้ว
“แต่วันนี้ถ้าเรานำเข้าแล้วไม่ขยายตลาดเพิ่ม มีผลกระทบแน่นอน โดยเฉพาะเกษตรกรโดยตรงซึ่งพื้นที่เพาะปลูกคงลดลง เพราะต้นทุนการผลิตของเราสูงอยู่แล้ว ไม่มีทางจะลดราคาลงไปสู้กับอเมริกาได้ เพราะฉะนั้นเกษตรกรย่อมได้รับผลกระทบและขาดทุนต่อเนื่อง” นายเทพกล่าว
ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ยังมีผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตที่จะเสียหายทั้งหมด เช่น ปุ๋ย ยา สารเคมี เมล็ดพันธุ์ รถแทรกเตอร์ น้ำมัน แรงงาน ขบวนการห่วงโซ่ทั้งหมดจะได้รับผลกระทบ หากเกษตรกรลดพื้นที่เพาะปลูกในประเทศ
“ส่วนประเด็นที่กังวลที่สุดคือ การนำข้าวโพดเข้ามาเป็นข้าวโพดจีเอ็มโอ ซึ่งประเทศไทยไม่ส่งเสริมการเพาะปลูก และไม่มีข้าวโพดจีเอ็มโออยู่ภายในประเทศ ข้าวโพดไทยไม่เป็นจีเอ็มโอ หากนำมาผลิตอาหารสัตว์ สารจีเอ็มโออาจปนเปื้อนอาหาร ซึ่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค โดยเฉพาะในโซนยุโรป” และผู้บริโภคภายในประเทศจะเกิดความวิตกกังวล นายเทพกล่าว
ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดเพชรบูรณ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังไม่แน่ใจว่าเมล็ดข้าวโพดที่นำเข้ามาหากยังมีชีวิตอยู่และหลุดสู่ภายนอก อาจทำให้เกิดการปนเปื้อนกับสายพันธุ์ข้าวโพดในประเทศที่ไม่ใช่จีเอ็มโอ ฉะนั้นสิ่งที่แน่ๆเลยไม่ใช่แค่กระทบข้าวโพดอย่างเดียว ยังมีเรื่องข้าวทั้งประเทศด้วย เราปลูกอยู่ 35 ล้านตัน จะกระทบเป็นห่วงโซ่ทั้งหมด เช่น โรงสีข้าวไม่ได้กำไรจากการสีข้าวอย่างเดียว กำไรหลักอยู่ที่รำกับปลายข้าวที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์
“แต่ถ้านำเข้าข้าวโพดมามากๆ ก็อาจไม่ต้องใช้รำและปลายข้าว ทำให้กระทบต่อราคาข้าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ มันสำปะหลังก็ได้รับผลกระทบ เช่นกัน เพราะโครงสร้างอาหารสัตว์ กลุ่มคาร์โบไฮเดรตด้วยกัน จะได้รับผลกระทบทั้งหมดหากบริหารจัดการไม่ได้”นายเทพกล่าว
ต่อคำถามถึงช่วงนี้จะแนะนำเกษตรกรอย่างไร นายเทพกล่าวว่า ก่อนจะแนะนำเกษตรกรต้องแนะนำรัฐบาลก่อน อันดับแรกคือห้ามนำเข้า อันดับต่อไปหากจำเป็นต้องนำเข้า ต้องระบุให้ชัดว่านำเข้าเพื่ออะไร และกระทบส่วนไหน หากเกิดผลกระทบ รัฐบาลต้องซื้อผลผลิตภายในประเทศและประกันราคาที่เป็นธรรม พร้อมทั้งนำส่วนต่างจากการนำเข้าไปเยียวยาเกษตรกร และควรปรับโครงการภาคเกษตรให้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างแท้จริง
“อย่างเช่น วันนี้ข้าวล้นตลาด แต่ข้าวโพดในประเทศยังขาดอีก 5 ล้านตัน ทำไมไม่ปรับโครงสร้างการผลิตใหม่ เพื่อให้ภาคการผลิตเกิดความสมดุลกัน” ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดเพชรบูรณ์กล่าว
นายเทพกล่าวอีกว่า สำหรับเกษตรกรก็มีข้อแนะนำว่า เมื่อเสี่ยงขนาดนี้ ยังจะเอาชีวิตไปเสี่ยงอีกหรือ ยิ่งปลูกยิ่งขาดทุน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงเน้นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เราไม่จำเป็นต้องนำพื้นที่ทั้งหมดไปปลูกข้าวหรือข้าวโพด แต่ควรแบ่งมาทำพอกินพอใช้แบบเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ชีวิตตนเองและครอบครัวมั่นคง เพราะวันนี้เกษตรกรเรียกร้องอย่างไร ก็ไม่มีฟีดแบ็กกลับมาเลย จะประท้วงอย่างไรรัฐบาลก็ไม่สนใจ
นายอุกกฤษ ฉัตรศรีสุวรรณ กรรมการสมาคมการค้าและผลิตพืชไร่จังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังยังไม่เปิดเผยรายละเอียดว่า ประเทศไทยเอาอะไรไปแลก มีอะไรบ้าง ทุกวันนี้รู้เพียงแค่ว่าไทยเจอภาษีทรัมป์ 19% คงต้องรอความชัดเจนก่อน โดยเฉพาะเรื่องข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ยังไม่ทราบตัวเลขว่า ประเทศไทยต้องนำเข้าข้าวโพดจากอเมริกาเท่าไร และยังมีปัญหาข้าวโพดจีเอ็มโอที่รัฐบาลจะจัดการอย่างไร
นายอุกฤษกล่าวว่า ส่วนปัญหาเดิมก่อนปิดดีลภาษีทรัมป์ แม้ทางโรงงานอาหารสัตว์ไม่เปิดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ แต่เวลานี้โรงงานอาหารสัตว์ยังมีการนำวัตถุดิบทดแทนเข้าสู่กระบวนการผลิตตลอดเวลา ทำให้เกิดปัญหาราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศตกต่ำ