I-Motor เปิดตัวคันเร่งอัจฉริยะ
I-Motor (ไอ-มอเตอร์) ปรับเกมรุกตลาด EV Bike จับมือ Asahi Denso (อาซาฮี เดนโซ) ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศญี่ปุ่น เปิดตัวนวัตกรรม “คันเร่งอัจฉริยะ (Smart Throttle)” ครั้งแรกในประเทศไทย ปี 2568 ตั้งเป้ายอดขาย 2,400 คัน ทั่วประเทศ
ปรีชา ประเสริฐถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด กล่าวว่า I-Motor เชื่อมั่นว่า “ความปลอดภัย” คือ หัวใจสำคัญของการพัฒนายานยนต์ จึงร่วมกับ Asahi Denso บริษัทชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลกด้านการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนควบคุมสำหรับยานยนต์ โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยีระบบควบคุม (Control Systems) สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เปิดตัวนวัตกรรม “คันเร่งอัจฉริยะ (Smart Throttle)” ครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “New Era of Electric Motorcycle Technology” โดยความร่วมมือในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทั้ง 2 บริษัทในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย และผลักดันคุณภาพของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไทยให้ก้าวสู่ระดับสากลอย่างแท้จริง
นวัตกรรม "คันเร่งอัจฉริยะ (Smart Throttle)" เป็นแนวทางใหม่ในการออกแบบ HMI หรืออินเตอร์เฟศระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร โดยผสานเทคโนโลยี APS (เซนเซอร์ตำแหน่งของคันเร่ง) ช่วยลดความเมื่อยล้าของข้อมือ โดยนำระบบคันเร่งแบบคันโยกด้วยนิ้วโป้ง (Thumb Throttle) มาใช้แทนการบิดแฮนด์แบบดั้งเดิม ช่วยให้ผู้ขับควบคุมความเร็วได้ง่าย และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพียงใช้นิ้วโป้งกดคันโยกที่อยู่ใต้แฮนด์ขวา ซึ่งมี 2 แบบ คือ คันโยกแบบหมุน และคันโยกแบบสไลด์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในเมือง หรือการเดินทางระยะไกล โดยแฮนด์ฝั่งขวายังมาพร้อมฟังค์ชันควบคุมครบครัน เช่น ปุ่มสลับโหมดการขับขี่ระหว่าง ECO และ PWR, ปุ่มเปิด-ปิดระบบไฟฟ้า และสวิทช์ Reset เพื่อความสะดวก และปลอดภัยสูงสุดในการใช้งาน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ออกแบบแฮนด์จับรุ่นใหม่ให้กระชับมือยิ่งขึ้น เพื่อรองรับสรีระผู้ขับขี่ และลดความเหนื่อยล้าจากการขับขี่ระยะทางไกล ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งหมดนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ของ I-Motor ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่คือการยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานในทุกมิติ โดยจะมีการติดตั้งในรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ที่จะเปิดตัวในปีหน้า
ปัจจุบัน I-Motor มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 250 คัน/เดือน มีจำหน่าย 2 รุ่น คือ Thunder ราคา 59,000 บาท และ Vapor ราคาเริ่มต้นที่ 57,000 บาท โดยตั้งเป้ามียอดขาย 24,000 คัน สำหรับปีนี้จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 550 คัน/เดือน
อย่างไรก็ตาม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จากแรงสนับสนุนของนโยบายภาครัฐ การขยายตัวของสถานีชาร์จไฟฟ้า (EV Charging Station) และการใช้งานในภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Food Delivery บริษัทฯ ได้วางแผนกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก จะรุกเข้าตลาดมอเตอร์ไซค์น้ำมัน ซึ่งเป็นตลาดดั้งเดิม เพื่อตอบสนองกับนโยบายของภาครัฐที่มีการตั้งเป้า Carbon Neutrality ไว้ และจะมีความร่วมมือกับภาคเอกชนเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เกิดสังคมมอเตอร์ไซค์ EV โดย I-Motor จะมีการวางจุดบริการชาร์จไฟ I-Charger กระจายไปทั่วทุกภูมิภาค โดยเริ่มต้นจากร้านผู้แทนจำหน่าย และขยายออกไปตามสถานที่ยุทธศาสตร์เรื่อยไปจนครอบคลุมการใช้งานของผู้ใช้
สำหรับปัจจบัน I-Motor มีโชว์รูมทั้งสิ้น 36 แห่ง ซึ่งภายในปีหน้าจะขยายเพิ่มเป็น 100 แห่ง รวมถึงในไตรมาส 4 ของปีนี้มีแผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่อีกด้วย
ช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มีแผนกระตุ้นยอดขายผ่านการออกบูธในงานแสดงสินค้าขนาดใหญ่ อย่างต่อเนื่องรวม 5 งาน ได้แก่
1. Mini Motor Show 2025 ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม-3 สิงหาคม 2568
2. 2025 Krungsri Auto Ultimate Test Drive & Ride ระหว่างวันที่ 16-17 สิงหาคม 2568
3. Big Motor Sale 2025 ณ ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 22-31 สิงหาคม 2568
4. Thai-China Cooperation Expo 2025 ณ Challenger Hall เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม-5 สิงหาคม 2568
5. I-Motor’s Dealer Business Trip to Japan Mobility Show 2025 ณ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม-5 พฤศจิกายน 2568