ฮือฮากลางกัมพูชา! จับแม่ค้าโลชั่นชื่อดัง หลังวิจารณ์รัฐบาลฮุนเซน
เงาปริศนาใต้ร่มเงาผู้นำ: "เจ๊วันมรณา" เจอรวบตัวหลังวิจารณ์ "ฮุนเซน"?
กัมพูชา, เช้าตรู่วันที่ 14 สิงหาคม 2568 - ท่ามกลางความมืดมิดก่อนรุ่งสาง เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือเข้าปิดล้อมคฤหาสน์หรูในโครงการ Borey Ml เมืองตาเขมาเปรียบดั่งปฏิบัติการลับสุดยอด แต่เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย… หากแต่เป็น "เลิฟ ริยา" หรือ "เจ๊วันมรณา" เจ้าของอาณาจักรโลชั่นชื่อดังที่ทรงอิทธิพลในโลกโซเชียลมีเดีย
เสียงไซเรนดังสนั่นยามเช้าตรู่ สื่อมวลชนต่างรุมล้อมอยู่หน้าคฤหาสน์ ทุกสายตาจับจ้องไปที่ประตูรั้วเหล็กที่กำลังถูกเปิดออกอย่างช้า ๆ ขณะที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวหญิงสาวคนหนึ่งออกมาจากบ้านพักหรูนั้น เป็นภาพที่ไม่ต่างจากฉากในภาพยนตร์แอ็กชัน แต่ในความเป็นจริงแล้วมันคือการหายตัวไปอย่างปริศนาของคนดังที่ปากกล้าท้าชนอำนาจ
“ปากกล้า” นำภัย: คำวิจารณ์ที่ต้องจ่ายด้วยอิสรภาพ?
แม้จะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการถึงข้อกล่าวหา แต่เสียงกระซิบกระซาบในโลกโซเชียลมีเดียก็ดังกระหึ่มเป็นเรื่องเดียวกัน นั่นคือ การไลฟ์สดวิพากษ์วิจารณ์สมเด็จฮุนเซน ผู้นำที่กุมอำนาจมายาวนานของกัมพูชาอย่างตรงไปตรงมา "เจ๊วันมรณา" กล้าตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการเปิดเผยตัวเลขทหารที่เสียชีวิตในสงครามชายแดน ประเด็นที่เปรียบเหมือนกับระเบิดเวลาที่พร้อมจะปะทุขึ้นมาได้ทุกเมื่อ
การกระทำของเธอไม่ต่างกับการจุดไฟเผาตัวเอง และดูเหมือนว่าเปลวเพลิงนั้นกำลังจะเผาผลาญอิสรภาพของเธอในที่สุด หลายคนมองว่านี่ไม่ใช่แค่คดีอาชญากรรมธรรมดา แต่คือ การเชือดไก่ให้ลิงดู เป็นการส่งสัญญาณเตือนไปถึงประชาชนคนอื่น ๆ ว่าปากที่วิจารณ์ผู้นำ อาจเป็นปากที่ต้องถูกปิดไปตลอดกาล
เมื่อ “อินฟลูเอนเซอร์” กลายเป็น “ภัยคุกคาม”
เลิฟ ริยา ไม่ใช่แค่อินฟลูเอนเซอร์ทั่วไป เธอคือไอดอลที่สร้างอาณาจักรสกินแคร์จนประสบความสำเร็จอย่างสูง มีผู้ติดตามและลูกค้าจำนวนมหาศาล คำพูดของเธอมีอิทธิพลต่อผู้คนมากมาย และอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอจึงกลายเป็นภัยคุกคามที่ไม่อาจปล่อยผ่านได้
คำถามที่ดังที่สุดในขณะนี้คือ ภายใต้ระบอบการปกครองที่เข้มงวดนี้ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ยังคงเป็นสิทธิที่ประชาชนพึงมีอยู่จริงหรือไม่? และเบื้องหลังของการจับกุมครั้งนี้เป็นเพียงแค่การดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างที่เจ้าหน้าที่อ้าง หรือแท้จริงแล้วคือความพยายามที่จะ ปิดปาก ผู้ที่กล้าต่อต้านอำนาจรัฐ?
การหายตัวไปของ "เจ๊วันมรณา" เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่ซับซ้อนกว่านั้นมาก เรากำลังจะได้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่เปราะบางระหว่างอำนาจรัฐกับประชาชน ซึ่งเรื่องนี้อาจเป็นเพียงแค่คดีเล็ก ๆ แต่ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจสั่นสะเทือนสังคมกัมพูชาไปอีกนานแสนนาน
และนี่คือเรื่องราวที่เราทุกคนต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด.