เพราะผิวใต้วงแขนบอบบางเหมือนผิวหน้า #ซิสบอกต่อ ครั้งแรกของทรีทเม้นท์บำรุงผิวใต้วงแขน!
รู้มั้ยว่า "ผิวใต้วงแขน " เป็นอีกหนึ่งจุดที่สำคัญพอ ๆ กับผิวหน้า! ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตจากคนที่เคยมั่นใจ ให้กลายเป็นคนที่ไม่มั่นใจได้ แค่เพราะผิวใต้วงแขนดำ ผิวใต้วงแขนเหี่ยว ผิวใต้วงแขนไม่สวย หลายคนถึงขั้นเลือกที่จะปกปิดความเป็นตัวเอง หมดโอกาสที่จะเป็นตัวเอง ชุดสายเดี่ยวไม่กล้าใส่ ชุดว่ายน้ำก็ไม่กล้าโชว์ ยกแขนให้สุดก็ทำไม่ได้ ! วันนี้ใครที่กลุ้มใจปัญหานี้บอกเลยว่ามาถูกทางแล้ว ! เพราะซิสจะพาทุกคน ไปเจาะลึกทุกเรื่องของ "ผิวใต้วงแขน" ตั้งแต่สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา วิธีแก้ไขที่ถูกต้อง พร้อมเคล็ดไม่ลับดูแลผิวใต้วงแขนให้กลับมาเนียนใส กระชับ ไม่ว่าจะใส่ชุดไหน หรือทำกิจกรรมไหน ก็มั่นใจแบบสับ ๆ เปลี่ยนเรื่องผิวใต้วงแขนไม่ให้เป็นความลับอีกต่อไป ไปดูกันเลย!
4 Fun Facts ควรรู้ ก่อนกู้ผิวใต้วงแขน
ก่อนที่ซิสจะดูแลปัญหา ผิวใต้วงแขน เราต้องทำความรู้จักกับ"ธรรมชาติของผิวใต้วงแขน" กันก่อน ซิสรู้มั้ยว่า
ผิวใต้วงแขนของเรามีความบอบบางยิ่งกว่าผิวหน้า จากการศึกษาทางกายวิภาคศาสตร์พบว่าผิวบริเวณใต้วงแขนมีโครงสร้างที่บอบบาง มีชั้นหนังกำพร้าที่บางกว่าส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
ผิวใต้วงแขนมีต่อมไขมัน และต่อมเหงื่อหนาแน่น ผิวบริเวณนี้มีต่อมแอพโพไครน์ (Apocrine glands) และต่อมเอคไครน์ (Eccrine glands) ทำให้ผิวบริเวณนี้เกิดการอับชื้นและสามารถสะสมแบคทีเรียได้ง่าย
ผิวใต้วงแขนมีค่า pH ที่เปลี่ยนแปลงได้ง่าย ผิวใต้วงแขนมีค่า pH ธรรมชาติอยู่ที่ประมาณ 5.5-6.5 หากเหงื่อออกและเกิดการสะสมของแบคทีเรีย ค่า pH จะเกิดเปลี่ยนแปลง ก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย และเป็นสาเหตุของผิวคล้ำเสีย เหี่ยวย่น
เป็นบริเวณที่ถูกเสียดสีจากการเคลื่อนไหวได้มากที่สุด การเคลื่อนไหวของแขนทำให้ผิวบริเวณนี้สัมผัสกับเสื้อผ้า ทำให้เกิดการเสียดสีอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดริ้วรอย และนำไปสู่การอักเสบและการเปลี่ยนแปลงก็สีผิว
รู้ก่อนแก้ ! ผิวหนังไก่ คล้ำ เหี่ยวเพราะอะไร ?
การสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว (Dead Skin Cell Accumulation) โดยธรรมชาติ เซลล์ผิวที่ตายแล้วจะหลุดลอกออกไปในทุก ๆ 28-30 วัน แต่เมื่อกระบวนการนี้ชะลอตัว หรือมีการอุดตันของรูขุมขน เซลล์ผิวที่ตายแล้วจะสะสมเป็นชั้นหนา ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ รูขุมขนอักเสบ ทำให้เกิดผิวหนังไก่
การเสียดสีจากการใช้ชีวิตประจำวัน (Friction-Induced Hyperpigmentation) คือ การเสียดสีซ้ำ ๆ ระหว่างผิวหนังกับเสื้อผ้า หรือระหว่างผิวหนังกันเองโดยเฉพาะในคนที่มีน้ำหนักเกิน กระบวนการนี้จะกระตุ้น melanocytes ให้ผลิตเมลานินเพิ่มขึ้นทำให้เกิดผิวคล้ำเสีย หย่อนยาน และเป็นสาเหตุของการเกิดผิวหนังไก่
การเปลี่ยนแปลงของระบบฮอร์โมน (Hormonal Fluctuation) ฮอร์โมนเพศ estrogen และ progesterone มีผลต่อการทำงานของ melanocytes เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน จะส่งผลให้การผลิตเมลานินเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณที่มีความไวต่อฮอร์โมนสูง เช่น ใต้วงแขน มักเกิดในผู้หญิงช่วงวัยหมดประจำเดือน หรือผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือผู้ที่ป่วยเป็น โรค PCOS
การเกิดสีคล้ำหลังการอักเสบ (Post-Inflammatory Hyperpigmentation) หรือ กระบวนการผลิตเมลานินเกินปกติหลังผิว เกิดการอักเสบจากการกำจัดขน หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม เช่น การโกนขนด้วยใบมีดที่ไม่คม การแว็กซ์ขนบ่อยเกินไป การถอนขนเอง หรือการทำ laser หรือ IPL ที่ไม่ได้มาตรฐาน นอกจากนี้การกำจัดขนที่ผิดวิธียังเป็นสาเหตุหลัก ที่ทำให้รูขุมขนอักเสบ และเกิดการอุดตันของเคราติน ทำให้เกิดตุ่มหนังไก่
การระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์ (Product-Induced Irritation) หรือ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว อย่างเช่น
- Aluminum salts เกิน 20%
- Alcohol (Ethanol) เกิน 15% ทำให้ผิวแห้ง และระคายเคือง
- Parabens เช่น methylparaben, propylparaben
- Formaldehyde-releasing preservatives
การดูแลสุขอนามัยที่ไม่เพียงพอ (Poor Hygiene Practices) การรักษาความสะอาดที่ไม่เพียงพอ ก่อให้เกิดการสะสมของไข่มัน เซลล์ผิวที่ใต้แล้ว แท้งยังเกิดการสะสมของแบคทีเรียทำให้ผิวหมองคล้ำ และการอุดตันของรูขุมขน
เปลี่ยนผิวใต้วงแขนพัง ให้กลับมาปังด้วยเคล็ดลับกู้ผิวใต้วงแขนเร่งด่วน
1. เลือกขนาดเสื้อผ้าที่ไม่รัดแน่น เสื้อผ้ารัด ๆ ทำให้ผิวเสียดสีมากขึ้น และระบายอากาศได้ไม่ดี ทำให้เกิดความชื้นสะสม แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ง่าย แนะนำให้เลือกเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าสามารถดูดซับเหงื่อได้ดี ระบายอากาศได้ดี เลือกเนื้อผ้าให้เหมาะกับกิจกรรมในแต่ละวัน เผื่อขนาดเสื้อผ้าบริเวณแขน 1-2 นิ้ว และเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีหลังเหงื่อออกเยอะ
2. รักษาความสะอาดแบบถูกวิธี อาบน้ำทุกวันวันละ 2 ครั้ง เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและมี pH ที่ใกล้เคียงกับผิว หลีกเลี่ยงการขัดแรง ๆ บริเวณผิวใต้วงแขน หลีกเลี่ยงสบู่ที่มีสารเคมีรุนแรง และไม่ควรอาบน้ำที่มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ
3. เลือกวิธีการกำจัดขนที่เหมาะสม
- การโกนขน : แนะนำให้อาบน้ำอุ่น 5-10 นาทีก่อนโกน เพื่อทำให้ขนนิ่ม ระหว่างโกนขนให้ใช้เจลโกนหรือครีม และเลือกใบมีดที่คม โกนขนตามทิศทางขน ไม่โกนย้อนทวนแนวเส้นขน หลังการโกนแนะนำให้ล้างด้วยน้ำเย็น และใช้โลชั่นบำรุงผิวที่ไม่มีแอลกอฮอล์
- การถอนขน : ไม่แนะนำให้ถอนขนเอง หากต้องการถอนขนให้ถอนด้วยผู้เชี่ยวชาญ
- แว็กซ์ขน : ให้เลือกแว็กซ์ที่เหมาะกับสภาพผิวและขนต้องยาว 6-13 มม. (ประมาณ 2 สัปดาห์หลังโกน) หลังแว็กซ์ควรประคบเย็น และใช้ผลิตภัณฑ์ลดการอักเสบ หลีกเลี่ยงแสงแดด และน้ำร้อนเป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
- ครีมกำจัดขน : แนะนำให้ทดสอบที่ข้อมือก่อน 24 ชั่วโมง ทาให้หนาครอบคลุมขน รอตามเวลาที่แนะนำ ไม่ขัด หรือนวด และล้างออกด้วยน้ำเย็น
4.การเลเซอร์ : วิธีกำจัดขนยอดนิยม และมีประสิทธิภาพมากที่สุด การเลเซอร์คือการใช้แสงทำลายรากขน hair follicle โดยตรง มี 4 ประเภทหลัก:
- Alexandrite Laser: ใช้ความยาวคลื่น 755 นาโนเมตร เหมาะสำหรับการกำจัดขนบริเวณกว้าง เช่น แขน ขา แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีขนสีเข้มหรือผิวคล้ำ
- Nd:YAG Laser: ใช้ความยาวคลื่น 1,064 นาโนเมตร. เหมาะสำหรับทุกสีผิว โดยเฉพาะผิวคล้ำ สามารถเจาะลึกถึงรากขนได้ดี และเหมาะสำหรับบริเวณที่ต้องการความละเอียด เช่น หนวดเครา, ผิวใต้วงแขน, ขนบริเวณจุดซ่อนเร้น มีให้เลือกทั้งแบบทั่วไป และแบบที่มีระบบเป่าลมเย็นเพื่อลดความเจ็บ.
- Diode Laser: ใช้ความยาวคลื่น 800-810, 940, และ 1064-1350 นาโนเมตร. เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวขาวถึงผิวสองสีและขนสีเข้ม. สามารถกำจัดขนได้ในบริเวณกว้าง เช่น แขน ขา มีระบบทำความเย็นที่หัวยิงเพื่อลดความเจ็บ
5.ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวใต้วงแขนที่เหมาะสม : ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวใต้วงแขน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย (Deodorant) และ ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ (Antiperspirant)
- ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย จะเน้นไปที่การควบคุมกลิ่นตัวที่เกิดจากแบคทีเรีย เมื่อเหงื่อออก แบคทีเรียจะย่อยสลายเหงื่อ ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึ่งผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายจะช่วยลดปริมาณแบคทีเรียเหล่านี้ ทำให้กลิ่นตัวลดลง
- ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ จะเน้นไปที่การปิดกั้นรูขุมขนชั่วคราว ทำให้เหงื่อออกน้อยลง โดยใช้ส่วนผสมที่ทำปฏิกิริยากับเหงื่อและสร้างเป็นเจลเคลือบรูขุมขน
ปัจจุบันยังมีผลิตภัณฑ์ที่ผสาน 2 นวัตกรรมระงับกลิ่นกายและเหงื่อเข้าด้วยกัน เพื่อตอบโจทย์ทั้งการระงับกลิ่นและระงับเหงื่อ
ดังนั้นเราควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ปัญหาของเราที่ตรงจุด และควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว เพื่อให้ผิวใต้วงแขนเกิดการระคายเคือง เกิดการอักเสบ และเกิดการอุดตันรูขุมขนได้
เซฟผิวใต้วงแขน ด้วย NIVEA DERMA CONTROL (ครั้งแรก ! ของทรีทเม้นท์บำรุงผิวใต้วงแขน)
และอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยเซฟผิวใต้วงแขนที่พังให้กับมาปังได้อย่าง NIVEA DERMA CONTROL ไอเทมที่ไม่เพียงผสานนวัตกรรมระงับเหงื่อและกลิ่นกาย แต่ยังเพิ่มนวัตกรรมของการบำรุงผิวที่ช่วยตอบโจทย์ปัญหา ผิวใต้วงแขนคล้ำ เหี่ยว ไม่เรียบเนียน เป็นไอเทมที่ตอบโจทย์เพนพอยท์ ของการเลือกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายระงับเหงื่อได้ดีแต่อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาผิวใต้วงแขนได้ และเป็นไอเทมที่ให้ความสำคัญของความบอบบางของผิวใต้วงแขนซึ่งต้องได้รับการบำรุงพอ ๆ กับผิวหน้า ตัวนี้จึงออกแบบมาให้เป็นทรีทเม้นท์บำรุงผิวใต้วงแขนไปในตัว ด้วยคุณสมบัติ - ปกป้องยาวนาน 72 ชั่วโมง+
- บำรุงผิวด้วยไมโครไฮยาลูรอน และ วิตามิน
- ฟื้นบำรุงผิวใต้วงแขนดูสุขภาพดี แข็งแรง
- สูตร 0% แอลกอฮอล์ ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง *Ethyl alcohol
- มีทั้งหมด 3 สูตร ทั้งแบบ โรลออน และ สเปรย์
NIVEA DERMA CONTROL DEFEND ผิวดูกระชับ ดูกระจ่างใส
ช่วยให้ผิวดูกระชับ เฟิร์ม กระจ่างใสใน 5 วัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวใต้วงแขนไม่กระชับจากการถอน การโกน ต้องการให้ผิวใต้วงแขนกระชับ และดูกระจ่างใสขึ้นด้วยMICRO HYALURON : เติมความชุ่มชื้น และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวVITAMIN B5: ที่ช่วยบำรุงผิวใต้วงแขนให้แข็งแรง
วิธีใช้ หากเป็นโรลออน ให้คว่ำขวดโรลออนเพื่อให้เนื้อโรลออนสัมผัสกับลูกกลิ้ง แล้วทาให้ทั่ววงแขน หากเป็นสเปรย์ให้เขย่าก่อนใช้แล้วฉีดพ่นใต้วงแขน โดยให้ห่างจากใต้วงแขนประมาณ 15 ซม.
NIVEA DERMA CONTROL BRIGHT REPAIR ผิวกระจ่างใส มีออร่า
สูตรช่วยให้ผิวดูออร่า กระจ่างใส เหมาะกับผิวคล้ำเสียจากการถูกทำร้าย ทั้งจากการถอน การโกน
MICRO HYALURON : เติมความชุ่มชื้นและเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวVITAMIN C 100X : ที่ช่วยบำรุงผิวใต้วงแขนให้ดูกระจ่างใส มีออร่า
NIVEA DERMA CONTROL RESTORE ผิวเนียนนุ่ม อ่อนโยน
สูตรช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม เนียนใส อ่อนโยนเหมาะกับผิวบอบบาง แพ้และระคายเคืองง่ายมาก ต้องการบำรุงผิวให้ดูเรียบเนียน กระจ่างใส
MICRO HYALURON : เติมความชุ่มชื้น และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวVITAMIN E : ช่วยบำรุงผิวใต้วงแขนให้ดูเรียบเนียน
ผิวใต้วงแขนกระชับเนียนใส ไม่ใช่แค่ดีต่อใจ แต่เป็นกุญแจในการปลดล็อกความมั่นใจ พร้อมเปิดประตูความกล้าในการเป็นตัวเอง จะใส่ชุดไหนก็มั่นใจ ยกมือสูงแค่ไหนก็กล้า พร้อมสนุกกับทุกกิจกรรม และNIVEA DERMA CONTROL เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสร้างความมั่นใจดูแลเรื่องกลิ่นกาย พร้อมบำรุงผิวให้เรียบเนียน ตอบโจทย์ทุกปัญหาผิวใต้วงแขน
NIVEA DERMA CONTROL ทั้ง 3 สูตร โรลออน ขนาด 50 ml ราคา 109 บาทสเปรย์ ขนาด 150 ml ราคา 135 บาท
#NIVEADERMACONTROL #ฟื้นบำรุงผิวใต้วงแขนแข็งแรง
บทความแนะนำ