โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

SCB CIO ชี้จังหวะลงทุนหุ้น “สหรัฐ-ญี่ปุ่น-จีน” ฝ่าแรงกดดันเศรษฐกิจโลก

ข่าวหุ้นธุรกิจ

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์

นายศรชัย สุเนต์ตา, CFA รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Wealth & Investment Product ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่าจากมุมมองการลงทุนที่ SCB CIO แลกเปลี่ยนกับ BlackRock ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนระดับโลก พบว่า ภาพรวมเศรษฐกิจและการค้าโลก มีแนวโน้มเผชิญแรงกดดันจากการที่สหรัฐฯ ปรับขึ้น ภาษีนำเข้าตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับประเทศคู่ค้าต่างๆ ในอัตราตั้งแต่ 10-50% และมีแผนเก็บภาษีนำเข้าตามกลุ่มสินค้า (Section 232)

ส่งผลให้อัตราภาษีนำเข้าโดยเฉลี่ยของสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น สร้างแรงกดดันต่อเงินเฟ้อท่ามกลางตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ในเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้นเพียง 1.04 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาด เพิ่มความท้าทายต่อการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) โดยตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยมีโอกาสลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน ก.ย. นี้

ส่วนของ SCB CIO คาดว่า Fed มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1-2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ และอาจผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น หากตลาดแรงงานเริ่มส่งสัญญาณที่ชะลอลงชัดเจน แต่การปรับนโยบายอาจไม่รวดเร็วหรือยืดหยุ่นเท่าที่ควร โดยเฉพาะหากเงินเฟ้อยังสูง และยังมีแรงหนุนจากค่าแรงที่เติบโตต่อเนื่อง อีกทั้ง ยังมีปัจจัยความไม่แน่นอนด้านภาษีนำเข้าสหรัฐฯอยู่

ขณะที่ คาดว่าประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น มีแนวโน้มออกมาตรการกระตุ้นทางการคลัง และขาดดุลงบประมาณเพิ่มสูงขึ้น โดยในส่วนของสหรัฐฯ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในกฎหมาย One Big Beautiful Bill (OBBBA) ซึ่งมีสาระสำคัญ ได้แก่ การขยายการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมสำหรับประกันสังคม เพิ่มเพดานการหักลดหย่อนภาษีมลรัฐและท้องถิ่น (SALT) ให้สิทธิประโยชน์ภาษีสำหรับทิปและค่าล่วงเวลา

รวมไปถึงเพิ่มข้อกำหนดการใช้จ่ายด้าน Medicaid เป็นต้น ซึ่งสำนักงานงบประมาณรัฐสภา (CBO) คาดว่า OBBBA จะเพิ่มหนี้สาธารณะอีก 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. ใน 10 ปีข้างหน้า จากเดิมมีหนี้สะสม 36 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. ขณะที่ ภาระดอกเบี้ยจ่ายรายเดือนของรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ สรอ.ตั้งแต่ต้นปี ทั้งนี้ OBBBA ยังรวมถึงการเพิ่มเพดานหนี้อีก 5 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งอาจเพิ่มความสามารถในการก่อหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ไปอีกกว่า 2 ปี

ส่วนอีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ กรณีที่ ประธานาธิบดี ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้กฎหมาย GENIUS Act รับรองให้ stablecoin ใช้ชำระราคาได้ โดยมีเงื่อนไข คือ ผู้ออก stablecoin ต้องถือสินทรัพย์สำรอง 100% ในรูปสินทรัพย์สภาพคล่องดอลลาร์ สรอ. ที่คุณภาพสูง ซึ่งรวมถึง พันธบัตรสหรัฐฯ อายุไม่เกิน 93 วัน (T-bills) โดยคาดว่า หาก stablecoin ถูกใช้ในวงกว้าง จะหนุนการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ และอุปทานบน T-bill ซึ่งผลโดยสุทธิ คาดช่วยกดดัน UST yield ตัวสั้น และช่วยบรรเทาปัญหาขาดดุลงบประมาณในสหรัฐฯ แม้ว่า ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น อาจเพิ่มขึ้น ก็ตาม

ส่วนประเด็นการคลังในยุโรปนั้น คณะรัฐมนตรีเยอรมนีได้อนุมัติร่างงบประมาณปี 2569 ภายใต้กรอบการคลังถึงปี 2572 โดยตั้งเป้าการลงทุนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ควบคู่กับแผนกู้ยืมเพิ่มเป็น 3.8% ของ GDP เพื่อขับเคลื่อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน และเสริมศักยภาพกลาโหม วงเงินใช้จ่ายรวม 520.5 พันล้านยูโร โดยเพิ่มการลงทุน 10% จากปี 2568 และ 55% จากปี 2567 โดย SCB CIO คาดการใช้จ่ายการคลังของเยอรมนีที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรป แม้อาจทำให้อัตราผลตอบพันธบัตรเยอรมนีระยะยาวเพิ่มสูงขึ้นจากการขาดดุลการคลัง

สำหรับคำแนะนำการลงทุนในเดือน ส.ค. 2568 ในส่วนของตราสารหนี้นั้น SCB CIO แนะนำลงทุนบนพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชนคุณภาพดี ระยะสั้นถึงกลาง ของสหรัฐฯ ซึ่งยังมีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและช่วยลดความผันผวนของพอร์ตได้ แต่หลีกเลี่ยงพันธบัตรระยะยาว เนื่องจาก ส่วนชดเชยความเสี่ยงจากการลงทุนในพันธบัตรระยะยาว (Term premium) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตามปัญหาหนี้สาธารณะ และการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ ที่หนุนให้ UST Yield ตัวยาวเพิ่มขึ้น

ในส่วนของตลาดหุ้น แนะนำลงทุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในพอร์ตหลัก จากการที่คาดว่า กำไรต่อหุ้น (EPS) ของบริษัทจดทะเบียนบน S&P500 ในปี 2568-2569 มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น ตามการเติบโตของบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 7 แห่งในตลาด (Mag 7) การผ่อนคลายกฎระเบียบ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ หากรับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างสูง แนะนำลงทุนเพิ่มเติม ดัชนี Nasdaq 100 และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโลก ในพอร์ตเสริมระยะสั้น เนื่องจาก มีหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับ AI ที่ได้รับแรงสนับสนุนจากการที่สหรัฐฯ ออก AI Action Plan เน้นการลดข้อจำกัดทางกฎระเบียบเพื่อเร่งการพัฒนา AI ของสหรัฐฯ

ประกอบกับผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลรายใหญ่ในสหรัฐฯ (Hyperscalers) เช่น Meta, Microsoft, Alphabet และ Amazon ยังเพิ่มงบลงทุนบน AI อย่างต่อเนื่อง ส่วนผลประกอบการของบริษัทผู้ผลิตชิป เช่น TSMC และ SK Hynix ก็บ่งชี้ให้เห็นถึงการเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน AI อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ SCB CIO ยังแนะนำลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น จากอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่ลดลงจากก่อนหน้า นโยบายการคลังที่ผ่อนคลายขึ้น และการปฏิรูปบรรษัทภิบาลที่คืบหน้า ตลาดหุ้นจีน All-share จากความหวังข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นอินเดีย เนื่องจากได้รับผลกระทบต่อเศรษฐกิจจำกัดจากนโยบายภาษีนำเข้าสหรัฐฯ บนพอร์ตหลัก รวมทั้ง แนะนำลงทุนบนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เนื่องจากมูลค่าที่ไม่แพง และคาดว่า EPS มีโอกาสเติบโต 16.6% ในปีนี้ และบนตลาดหุ้นจีน H-share จากความคืบหน้าของกระแส AI ในจีน บนพอร์ตเสริม

ส่วนตลาดหุ้นไทย มองว่า ความน่าสนใจในการลงทุนน้อยกว่าตลาดหุ้นประเทศอื่น เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากผลกระทบด้านภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น ส่วนผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทย ยังมีแนวโน้มถูกปรับประมาณลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ แนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในปีนี้อีก 1 ครั้ง เป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกัน แนะนำให้ถือทองคำในพอร์ตหลัก เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ด้วย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ข่าวหุ้นธุรกิจ

สรุปกระดานรายใหญ่วันนี้ KBANK มูลค่าสูงสุด 668 ล้านบาท

51 นาทีที่แล้ว

บล.หยวนต้า แนะลงทุนหุ้น Defensive รอศาล รธน. ชี้ชะตาคลิปเสียงนายก 29 ส.ค.นี้

54 นาทีที่แล้ว

สรุป SET100 วันนี้ PTTGC บวกสูงสุด 14%

56 นาทีที่แล้ว

PTTGC-SCC ท็อปพิกกลุ่ม “ปิโตรเคมี-โรงกลั่น” ลุ้นธุรกิจฟื้นรับ “เกาหลีใต้” ลดกำลังผลิต

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

PANEL แรงจริงไม่จกตา! กำไรครึ่งแรกปี 68 พุ่ง 140.53%

Wealthy Thai

CMAN บุกตลาดเอเชียแปซิฟิกเต็มพิกัด!

Wealthy Thai

TPS เตรียมจ่ายปันผลระหว่างกาลอัตรา 0.08 บ./หุ้น ในวันที่ 11 ก.ย.นี้

Wealthy Thai

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดงาน Thailand Focus 2025: Beyond the Challenges ก้าวข้ามความท้าทาย สู่โอกาสการลงทุนใหม่ 27-29 ส.ค. นี้

Wealthy Thai

ลือปุ่ม "Camera Control" อาจไม่ได้ไปต่อ เพราะมีคนใช้งานน้อยเกินคาด?!

PPTV HD 36

ก.ล.ต. ขอให้พนักงานอัยการฟ้องผู้กระทำความผิด 13 ราย ต่อศาลแพ่ง กรณีสร้างราคาหลักทรัพย์ MAX EIC NEWS และ NEWS-W5

Wealthy Thai

‘เนสท์เล่’ ส่งแคมเปญชวนคนไทย ‘กินได้ กินดี’ ขับเคลื่อนการกินอยู่อย่างสมดุล

The Bangkok Insight

HKEX โชว์ผลงานครึ่งปีแรก กำไรพุ่งเกือบ 40% รับนลท.เข้าเทรดคึกคัก-ตลาด IPO ฟื้น

efinanceThai

ข่าวและบทความยอดนิยม

PTTGC-SCC ท็อปพิกกลุ่ม “ปิโตรเคมี-โรงกลั่น” ลุ้นธุรกิจฟื้นรับ “เกาหลีใต้” ลดกำลังผลิต

ข่าวหุ้นธุรกิจ

AI ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสัตว์เลี้ยง “จีน” โตแรง สู่ตลาดล้านล้านหยวนปี 71

ข่าวหุ้นธุรกิจ

จับตา 9 หุ้นวิ่ง! หลัง “อินเดีย” ลดภาษีรับมือเทรดวอร์ ชู IVL-GPSC-PTTGC เด่น

ข่าวหุ้นธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...