"แพทองธาร"ไม่รอด! หลุดเก้าอี้"นายกฯ"มติศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง"ครม."พ้นทั้งคณะ

วันที่ 29 ส.ค.2568 คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมเพื่อแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือและลงมติคำร้องที่ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จำนวน 36 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรี ของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 106 (4) และ (5) หรือไม่ เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีคลิปเสียงบทสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา

โดยเมื่อเวลา 15.00 น.ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำวินิจฉัย กรณีความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่า การกระทำของผู้ถูกร้องในการสนทนากับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา นั้นไม่ถือเป็นเทคนิคการเจรจา และมีลักษณะไม่พิทักษ์เกียรติภูมิของประเทศชาติ แม้ผู้ถูกร้องจะกล่าวอ้างว่าการเจรจานั้นเป็นไปเพื่อรักษาทรัพย์สินและชีวิตของทหารแต่ทำให้สาธารณชนเคลือบแคลงสงสัย ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือ ศรัทธาต่อนายกฯของประเทศไทย ยังเป็นการทำหน้าที่โดยไม่ยึดมั่นชอบธรรม

ดังนั้นการกระทำจึงเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจริยธรรม เมื่อพิจารณาประกอบความเสียหายที่เกิดขึ้นพบว่ามีควาาร้ายแรง ดังนั้นจึงถือว่าฝ่าฝืนฯ จึงขาดคุณบัติการเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง อาศัยเหตุผลข้างต้น จึงให้ความเป็นนายกฯสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนญ และครม.ต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ