ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของไทย เดือน ก.ค. ลดลง ร้อยละ 17.76
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ในเดือนก.ค. 68 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ได้ 72,439 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้ว 17.76% และลดลงจากเดือนก.ค. 67 ที่ร้อยละ 13.27 จากการเลิกผลิตรถยนต์นั่งใช้น้ำมันบางรุ่น
ขณะที่ รถยนต์นั่งและรถกระบะไฟฟ้า ยังส่งออกอีก ในเดือนนี้ 167 คัน ปีนี้เป็นปีประวัติศาสตร์ของไทยที่ส่งออกรถยนต์นั่งไฟฟ้าและรถกระบะไฟฟ้า ตามที่รัฐบาลและเอกชนร่วมมือกันให้ประเทศไทยเป็นฐานผลิตยานยนต์ใช้น้ำมันและยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าที่มีนโยบายและความพร้อมของโครงสร้างแตกต่างกัน นับว่า เรามาถูกทางแล้วที่ส่งเสริมให้มีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และกระตุ้นให้ใช้ในประเทศ เพราะทั่วโลกกำลังก้าวเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนและการเข้มงวดในเรื่องการติดตั้งอุปกรณ์ช่วยขับ เพื่อความปลอดภัยในรถยนต์และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพของรถยนต์ของประเทศคู่ค้า ทำให้การส่งออกรถยนต์เดือนนี้ ลดลงในตลาดเอเชีย ออสเตรเลียและโอเชียเนีย และอเมริกาเหนือ เครื่องยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถยนต์ยังคงส่งออกเพิ่มขึ้น
สำหรับมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนก.ค. 68 อยู่ที่ 46,853.19 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก.ค. 67 ที่ 16.92% แต่เครื่องยนต์และชิ้นส่วนส่งออกเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค. 68) ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 531,796 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกัน 11.74% มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 361,224.05 ล้านบาท ลดลงจากเดือนม.ค.-ก.ค. 67 ที่ 13.97%
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนก.ค. 68 มีทั้งสิ้น 110,616 คัน ลดลงจากเดือนมิ.ย. 68 ที่ 15.06% และลดลงจากเดือนก.ค. 67 ที่ 11.39% ผลิตลดลงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะรถยนต์นั่งที่ใช้น้ำมันซึ่งลดลง 31.80% จากการเลิกผลิตรถยนต์นั่งเพื่อส่งออกบางรุ่น รถกระบะยังคงผลิตลดลงทั้งผลิตขายในประเทศและผลิตส่งออกที่ลดลง 6.54% และ 8.61% ตามลำดับ ตามยอดขายในประเทศ และยอดส่งออกที่ลดลงจากความไม่แน่นอนในการค้าโลก
สำหรับจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนม.ค.-ก.ค. 68 มีจำนวนทั้งสิ้น 835,331 คัน ลดลงจากเดือนม.ค.-ก.ค. 67 ที่ 5.73%
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนก.ค. 68 มีจำนวนทั้งสิ้น 49,102 คัน ลดลงจากเดือนมิ.ย. 68 ที่ 1.95% แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนก.ค. 67 ที่ 5.84% เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 4 เดือน เพราะยอดขายรถยนต์นั่งโดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาเข้าถึงได้มากกว่ารถยนต์ใช้น้ำมัน รถกระบะยังคงขายลดลงต่อเนื่องมากว่า 30 เดือน เหลือแค่ 11,022 คัน ลดลง 16.3% (ปี 62 ก่อนโควิด-19 รถกระบะขายในประเทศเฉลี่ยเดือนละ 35,973 คัน เท่ากับ 35.70% ของยอดขายรวม 1,007,552 คัน)
เนื่องจากความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถกระบะ จากหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง และเศรษฐกิจในประเทศที่ยังขยายตัวในอัตราต่ำ 2.8% ในไตรมาส 2/68 การลงทุนของเอกชนเติบโตแค่ 4.1% สาขาอุตสาหกรรมเติบโตแค่ 1.7% นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนลดลงมาก ทำให้สาขาพักแรมและอาหารเติบโตเพียง 2.1% ดังนั้น ยังคงต้องติดตามการลงทุนของเอกชน การท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนต่อไป อย่างไรก็ดี คาดหวังว่างบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตมากขึ้นจากปัจจุบัน
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ มองว่า น่าจะเหมือนช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ไม่ทรุดไปมากกว่านี้ เนื่องจากบอร์ด BOI ก็ได้มีการเสนอเรื่องสิทธิประโยชน์การลงทุนต่าง ๆ ส่วนเรื่องอัตราภาษีสหรัฐฯ ของไทยที่อยู่ที่ 19% ก็ถือว่าพอสู้กับประเทศคู่แข่งได้ และคาดว่าน่าจะทำให้ส่งออกของไทยและประเทศคู่ค้าดีขึ้น รวมถึงรัฐบาลประกาศว่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปีนี้ด้วย
นอกจากนั้น ยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงเดือนก.ค. 68
- ประเภท BEV มีจดทะเบียนใหม่จำนวน 12,124 คัน เพิ่มขึ้น 45.51% จากเดือนก.ค. 67 ส่งผลให้ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้มีจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 81,179 คัน เพิ่มขึ้น 35.08% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และนับถึงวันที่ 31 ก.ค. 68 มียอดจดทะเบียนสะสมจำนวนทั้งสิ้น 307,428 คัน เพิ่มขึ้น 60.61% จากปีที่แล้ว
- ประเภท HEV มีจดทะเบียนใหม่จำนวน 11,815 คัน เพิ่มขึ้น 0.61% จากเดือนก.ค. 67 ส่งผลให้ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้มีจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 84,128 คัน เพิ่มขึ้น 0.40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และนับถึงวันที่ 31 ก.ค. 68 มียอดจดทะเบียนสะสมจำนวนทั้งสิ้น 552,469 คัน เพิ่มขึ้น 29.49% จากปีที่แล้ว
- ประเภท PHEV มีจดทะเบียนใหม่จำนวน 1,286 คัน เพิ่มขึ้น 55.69% จากเดือนก.ค.67 ส่งผลให้ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้มีจดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 12,632 คัน เพิ่มขึ้น 120.76% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และนับถึงวันที่ 31 ก.ค. 68 มียอดจดทะเบียนสะสมจำนวนทั้งสิ้น 75,693 คัน เพิ่มขึ้น 27.03% จากปีที่แล้ว
#ส่งออกรถยนต์ไทย
แฟ้มภาพ