‘กมธ.ทหาร’ เรียก ‘มทบ.18–กรมพลาธิการ’แจงปมน้ำมันหายพรุ่งนี้
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายเอกราช อุดมอำนวย สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะประธานกมธ. และนายเชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานกมธ. แถลงถึงปัญหาน้ำมันเชื้อเพลิงของหน่วยทหารในพื้นที่ จ.สระบุรี และ จ.นนทบุรี สูญหาย
นายเชตวัน กล่าวว่า สืบเนื่องจากช่วงปลายปี 66 ผอ.กองเชื้อเพลิงคนใหม่ เข้ามารับตำแหน่ง พบว่าน้ำมันจากกรมพลาธิการทหารบก จ.นนทบุรี หายไปจำนวน 1 หมื่นลิตร ทำให้ขณะนั้นไม่กล้าเซ็นรับ และไม่มีรายงานการสอบสวน มีการยื้อออกไปจนมีการสั่งซื้อน้ำมันจากเอกชนรายใหญ่ ลงวันที่ 9 พ.ย.66 จำนวน 9,000 ลิตร โดยให้นำมาส่งวันที่ 10 พ.ย.66 อ้างเหตุผลว่าจะมีการจัดประชุมสัมมนา ประเด็นสำคัญคือคนสั่งซื้อไม่ได้มีตำแหน่งที่มีอำนาจสั่งซื้อน้ำมัน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเป็นการสั่งซื้อเพื่อชดใช้น้ำมันที่หายไปหรือไม่ นอกจากนี้ เมื่อสั่งซื้อน้ำมันมาคืนแล้วเรื่องจบไป โดยที่ไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน กระทั่งเวลาผ่านไปเป็นปี กำลังพลที่เห็นว่าไม่เป็นธรรมจึงร้องเรียนต่อกองทัพบกเมื่อต้นเดือน ก.ค.68 ต่อมา วันที่ 28 ก.ค.68 กองทัพจึงสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ กรณีน้ำมันสูญหายเมื่อปี 66 ล่าสุด กมธ.ได้รับรายงานการสอบสวน ลงวันที่ 14 ก.ค.68 แต่จนถึงวันนี้ทางกองทัพยังไม่มีการแถลงเปิดเผยรายละเอียดผลสอบแต่อย่างใด
นายเชตวัน กล่าวว่า วันนี้ กมธ.จึงมาเปิดเผยผลสอบดังกล่าว ซึ่งในเอกสารระบุว่า ได้ดำเนินการสั่งซื้อน้ำมันโดยส่วนตัวมาลงที่สถานีจ่ายของกรมเชื้อเพลิง กรมพลาธิการทหารบก จำนวน 9,000 ลิตร เป็นการยอมรับว่าน้ำมันหายไปจริง และมีการใช้เงินส่วนตัวซื้อกลับมาคืน กรณีดังกล่าวจึงไม่เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ เชื่อว่า หลายคนคงตั้งคำถามต่อผลสอบดังกล่าว ว่าน้ำมันที่หายไปไม่รู้ว่าหายไปเมื่อไหร่ และหายไปอยู่ไหน แต่เมื่อมีคนซื้อมาคืนแบบนี้ถือว่าไม่ทุจริตใช่หรือไม่
“ตามระเบียบจะต้องมีการรายงานให้ทราบ และตั้งกรรมการสอบสวน เมื่อสรุปผลออกมาให้ชดใช้อย่างไรจะต้องรายงานให้ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ทราบ แต่สิ่งที่กองทัพบกดำเนินการเมื่อรู้ว่าน้ำมันสูญหายเมื่อปี 66 ไม่มีการรายงาน ไม่มีการสอบสวน แต่มีการซื้อมาชดใช้ 9,000 ลิตร ก่อนตั้งคณะกรรมการสอบสวนภายหลัง เพราะมีกำลังพลร้องเรียน แต่สุดท้ายผลการสอบออกมาว่าไม่มีการทุจริต มาตรฐานเดียวกับนาฬิกายืมเพื่อน คืนเสร็จแล้วไม่มีความผิดหรือไม่” นายเชตวัน ระบุ
นายเชตวัน ยังกล่าวถึงกรณีน้ำมันดีเซลที่หายไปจาก มทบ.18 จ.สระบุรี จำนวนกว่า 215,000 กว่าลิตรในปี 65 กมธ. เคยทำหนังสือทวงถามถึงรัฐมนตรีในขณะนั้น และผู้บัญชาการทหารบกถึง 3 ครั้ง แต่ได้รับการตอบกลับมาว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับหนังสือชี้แจงแต่อย่างใด กมธ.ไม่ได้รับความร่วมมือจากกองทัพตามหน้าที่ และอำนาจของกมธ. จึงได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ 2 หน่วยงานช่วยแสวงหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
ด้านนายเอกราช กล่าวว่า วันที่ 28 ส.ค.นี้ กมธ.การทหาร จะเชิญ มทบ.18 และกรมพลาธิการทหารบก เข้ามาชี้แจง โดยหวังว่าทั้งสองหน่วยงานจะให้ความร่วมมือ แม้ไม่ได้รับการตอบรับอย่างเป็นทางการ แต่เข้าใจว่าจะเข้ามาชี้แจง เพราะหากไม่มาชี้แจง คงจะต้องใช้ พ.ร.บ.อำนาจเรียกฯ.