สแกนแผนศึกษา “รฟท.”ปลุก “ 2 รถไฟทางคู่สายใหม่” 3.3 หมื่นล้าน
ปัจจุบัน “การรถไฟแห่งประเทศไทย” ได้เร่งรัดการพัฒนารถไฟทางคู่อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเตรียมผลักดันรถไฟทางคู่สายใหม่ ที่ช่วยเลี่ยงการจราจรติดขัดในพื้นที่กรุงเทพ ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการขนสินค้าข้ามภูมิภาค
นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.มีมติอนุมัติสั่งจ้างบริษัทที่ปรึกษา 2 กลุ่ม เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ 2 เส้นทาง ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายสุพรรณบุรี - นครหลวง – ชุมทางบ้านภาชี และโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงทับปุด – กระบี่ วงเงินรวม 33,660 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีทั้ง 2 โครงการ คาดว่าจะศึกษารายละเอียดโครงการฯแล้วเสร็จภายในปี 2569 จากนั้นจะเสนอต่อคณะกรรมการ รฟท.,สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) พิจารณา ก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในปี 2570
นายอนันต์ กล่าวต่อว่า จากนั้นทั้ง 2 โครงการจะเปิดประมูลหาผู้รับจ้างก่อสร้างในรูปแบบ E-Bidding เหมือนกับโครงการรถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ซึ่งจะลงนามสัญญาได้ภายใน 1 เดือน และดำเนินการก่อสร้างใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 ปี ก่อนเปิดให้บริการต่อไป
“สาเหตุที่รฟท.เร่งรัดโครงการรถไฟทั้ง 2 เส้นทาง เนื่องจากเป็นเส้นทางที่มีความสำคัญในการขนส่งสินค้าและแก้ปัญหาจราจรของรถไฟขนส่งสินค้า ซึ่งจะเชื่อมต่อกับทางรถไฟสายชุมทางหนองปลาดุก-สุพรรณบุรี ที่เปิดให้บริการในขณะนี้ จากปัจจุบันรถไฟจากสายใต้ที่จะไปเส้นทางเหนือ-อีสาน ต้องวิ่งผ่านกรุงเทพฯ เพื่อมาเปลี่ยนถ่ายขบวนที่ย่านสินค้าพหลโยธิน (สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์) หากโครงการแล้วเสร็จ จะเป็นแนวเส้นทางที่เชื่อมต่อกับรถไฟทางคู่สายใต้และรถไฟทางคู่สายอีสาน ทำให้การขนส่งสินค้าไม่ต้องย้อนเส้นทางกลับไปที่กรุงเทพฯอีก” นายอนันต์ กล่าว
สำหรับโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายสุพรรณบุรี - นครหลวง – ชุมทางบ้านภาชี วงเงินค่าก่อสร้าง 17,000 ล้านบาทเบื้องต้นรฟท.ได้กิจการค้าร่วม (CONSORTIUM) ในนามของกลุ่มบริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด มีผู้เข้าร่วมค้า 4 ราย ประกอบด้วย บริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด (LEAD FIRM) บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็มเอชพีเอ็ม จำกัด
และบริษัท ยูไนเต็ด แอนนาลิสต์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นผู้ให้บริการงานสำรวจ ออกแบบรายละเอียดและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายสุพรรณบุรี - นครหลวง – ชุมทางบ้านภาชี วงเงิน 54 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการเสร็จภายใน 360 วัน
โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายสุพรรณบุรี - นครหลวง – ชุมทางบ้านภา ประกอบด้วย การก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดกว้าง 1 เมตร ระยะทางประมาณ 68 กิโลเมตร ในพื้นทีจังหวัดสุพรรณบุรี และ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยแบ่งเป็นก่อสร้างทางคู่เส้นทางใหม่ 65.5 กิโลเมตร โดยจะเป็นโครงสร้างสะพานและสะพานยกระดับรวมความยาว 54.6 กิโลเมตร (กม.) และใช้เส้นทางรถไฟเดิม (ช่วงต้นและปลายโครงการ) ระยะทาง 8.3 กิโลเมตร (กม.) เพื่อเชื่อมต่อไปยังสถานีชุมทางบ้านภาชี
ทั้งนี้โครงการฯดังกล่าว มีจำนวนสถานีทั้งหมด 5 สถานี ได้แก่ สถานี สะแกย่างหมู สถานีสุพรรณบุรี (ใหม่) สถานีบ้านกุ่ม สถานีบางปะหัน และสถานีพระแก้ว โดยมีแนวเส้นทางบางช่วงจะใช้ร่วมกันกับแนวเส้นทาง ของ MR10 ผลการศึกษาความเหมาะสม ค่า EIRR 18.24% และ FIRR -3.28%
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการ รฟท.มีมติอนุมัติสั่งจ้างกิจการค้าร่วม (Consortium) ในนามของกลุ่ม บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด มีผู้เข้าร่วม 4 ราย ประกอบด้วย บริษัท เอเชี่ยนเอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด (Lead Firm)
บริษัท เอ็มเอชพีเอ็ม จำกัด บริษัท ยูไนเต็ด แอนนาลิสต์ แอนด์เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด เป็นผู้ให้บริการงานสำรวจ ออกแบบรายละเอียดและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงทับปุด – กระบี่ วงเงิน 54 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 360 วัน
ด้านโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ช่วงทับปุด - กระบี่ วงเงินค่าก่อสร้าง 16,660 ล้านบาท ประกอบด้วย ก่อสร้างรถไฟทางคู่ขนาดกว้าง 1 เมตร ระยะทางประมาณ 67.703 กิโลเมตร เป็นทางรถไฟระดับพื้น 43.851 กิโลเมตร ทางรถไฟยกระดับ 22.185 กิโลเมตร อุโมงค์ 1.667 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตามโครงการฯมีสถานี 5 แห่ง ประกอบด้วย สถานีอ่าวลึก สถานีคลองหิน สถานีเขาคราม สถานีกระบี่และสถานีท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ที่หยุดรถ 3 แห่ง ได้แก่ ที่หยุดรถนาเหนือเขาใหญ่ และบ้านกลาง ผลการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้น ค่า EIRR 12.45% และ FIRR -5.88%
เมกะโปรเจ็กต์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,126 วันที่ 28 - 30 สิงหาคม พ.ศ. 2568