ชัวร์ก่อนแชร์ : 9 คุณประโยชน์ของชาเขียว จริงหรือ ?
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 27 สิงหาคม 2568 เวลา 21.51 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทบทความนี้เรียบเรียงโดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(Artificial Intelligence : AI)โดยมีเนื้อหาหลักจากคลิปวิดีโอ
22 สิงหาคม 2568
ตามที่มีการแชร์บทความว่า 9 คุณประโยชน์ของชาเขียว ที่คนลดน้ำหนักไม่ควรพลาด เช่น ช่วยเพิ่มอุณหภูมิร่างกาย ช่วยลดน้ำหนัก ลดไขมันสะสม ชะลอความเสื่อม คุมน้ำตาล ต้านโรคหลอดเลือดหัวใจ นั้น
บทสรุป : จริง แชร์ต่อได้
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ อาจารย์ ดร.พิมพ์อร สุขแล้ว สาขาอาหาร โภชนาการ และการกำหนดอาหาร ภาควิชาคหกรรมศาสตร์ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
(สัมภาษณ์เมื่อ 15 กรกฎาคม 2568)
9 คุณประโยชน์ของชาเขียว เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ?
ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารถูกส่งต่อกันอย่างรวดเร็วในโลกโซเชียล เรื่องราวเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมักได้รับความสนใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ “ชาเขียว” ที่ถูกยกให้เป็นเครื่องดื่มมหัศจรรย์กับ 9 คุณประโยชน์ที่แชร์กันอย่างแพร่หลาย แต่ข้อมูลเหล่านั้นจะจริงเท็จมากน้อยเพียงใด บทความนี้จะพาไปเจาะลึกและตรวจสอบข้อเท็จจริงจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณได้บริโภคชาเขียวอย่างเข้าใจและได้รับประโยชน์สูงสุด
1. ด้านการลดน้ำหนักและการเผาผลาญ จริงหรือ ?
- เพิ่มอุณหภูมิร่างกายและเผาผลาญพลังงาน ผู้เชี่ยวชาญชี้แจงว่า ชาเขียวไม่ได้เพิ่มอุณหภูมิร่างกายโดยตรง แต่มีส่วนช่วย เพิ่มอัตราการเผาผลาญ (Metabolism) โดยกระตุ้นให้ร่างกายนำไขมันที่สะสมอยู่ออกมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยในเรื่องนี้ยังมีความหลากหลายและผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
- ลดการสะสมของไขมันและคอเลสเตอรอล ข้อนี้มีส่วนจริง ชาเขียวสามารถช่วยลดการสะสมของไขมันใต้ผิวหนังและไขมันในช่องท้องได้ นอกจากนี้ สารสำคัญอย่าง EGCG (Epigallocatechin gallate) ในชาเขียวยังมีฤทธิ์ช่วยลดระดับ “คอเลสเตอรอลชนิดเลว” (LDL) โดยการสนับสนุนการทำงานของเอนไซม์ในตับที่ทำหน้าที่ทำลายคอเลสเตอรอล แต่กลไกนี้ไม่ได้เชื่อมโยงโดยตรงกับการลดน้ำหนักโดยรวม
2. ด้านการต้านอนุมูลอิสระและชะลอวัย จริงหรือ ?
- ต่อต้านอนุมูลอิสระและชะลอความเสื่อมของเซลล์ ข้อนี้เป็นเรื่องจริง ชาเขียวอุดมไปด้วย “โพลีฟีนอล” (Polyphenols) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของความเสื่อมในร่างกายและลดความเสี่ยงในการเกิดกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และมะเร็ง
3. ด้านการควบคุมระดับน้ำตาลและสุขภาพหัวใจ จริงหรือ ?
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เป็นเรื่องจริง สารโพลีฟีนอลในชาเขียวสามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ “แอลฟา-อะไมเลส” (Alpha-amylase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ใช้ย่อยแป้ง ทำให้การดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดลดลงและช้าลง แต่ต้องย้ำว่าชาเขียวเป็นเพียง ตัวช่วยเสริม ไม่สามารถใช้ทดแทนยารักษาเบาหวานได้
- ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นเรื่องจริงเช่นกัน คุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระของชาเขียวช่วยลดการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของไขมันเลว (LDL Oxidation) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดคราบพลัคอุดตันในหลอดเลือด อันเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือด
4. ด้านการทำงานของสมองและความดันโลหิต จริงหรือ ?
- ควบคุมการทำงานของสมองและความดันโลหิต มีงานวิจัยสนับสนุนว่าการดื่มชาเขียวสามารถช่วยควบคุมความดันโลหิตในผู้ที่มีสุขภาพดีได้ นอกจากนี้ สาร “แอล-ธีอะนีน” (L-theanine) ที่พบในชาเขียวยังมีคุณสมบัติช่วยให้สมองรู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด และส่งเสริมการนอนหลับที่ดี โดยไม่มีฤทธิ์กระตุ้นประสาทรุนแรงเท่าคาเฟอีนในกาแฟ
- ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ มีงานวิจัยชี้ว่าการดื่มชาเขียวอาจช่วยส่งเสริม การทำงานของสมองในด้านการรับรู้ (Cognitive Function) ได้ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นการป้องกันโรคอัลไซเมอร์โดยตรง และไม่สามารถใช้ทดแทนการรักษาทางการแพทย์
5. ด้านสุขภาพช่องปากและกระดูก จริงหรือ ?
- ป้องกันฟันผุและโรคกระดูกพรุน ชาเขียวมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งและฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของฟันผุและคราบพลัคได้ ส่วนเรื่องโรคกระดูกพรุน แม้จะมีบางงานวิจัยที่เชื่อมโยงกับการเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก แต่ก็ต้องพิจารณาถึงปริมาณคาเฟอีนที่อาจส่งผลกระทบได้เช่นกัน
- ลดปัญหากลิ่นปาก ข้อนี้เป็นเรื่องจริง การดื่มชาเขียวช่วยลดแบคทีเรียในช่องปากซึ่งเป็นสาเหตุหลักของกลิ่นปากได้
ข้อแนะนำเพื่อการบริโภคชาเขียวให้ได้ประโยชน์สูงสุด จริงหรือ ?
แม้ว่าคุณประโยชน์ส่วนใหญ่ของชาเขียวจะเป็นเรื่องจริง แต่ผู้เชี่ยวชาญได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อให้การบริโภคเกิดประโยชน์สูงสุดและปลอดภัย
- ปริมาณที่เหมาะสม : แนะนำให้ดื่มวันละ 3-5 ถ้วย แต่เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากคาเฟอีนที่มากเกินไป การดื่ม 2-3 ถ้วยต่อวัน ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
- เลือกดื่มแบบไม่เติมน้ำตาล : เพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างเต็มที่ ควรดื่มชาเขียวที่ไม่เติมน้ำตาลหรือสารให้ความหวานใด ๆ
- เป็นเพียงส่วนเสริมของวิถีชีวิตสุขภาพดี : ชาเขียวควรถูกมองว่าเป็น “อาหารเสริม” ไม่ใช่ “ยารักษาโรค” การจะมีสุขภาพที่ดีได้ต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินโดยรวมและการออกกำลังกายควบคู่กันไป
- ปรึกษาแพทย์ก่อนดื่ม : สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวและต้องรับประทานยาต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน เพราะชาเขียวอาจทำปฏิกิริยากับยาบางชนิดและส่งผลต่อการดูดซึมได้
สรุป: ข้อมูลที่แชร์กันเกี่ยวกับ 9 คุณประโยชน์ของชาเขียวนั้น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องจริงและมีงานวิจัยรองรับ ชาเขียวเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง แต่การจะได้รับประโยชน์สูงสุดนั้น ต้องบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ เลือกดื่มในรูปแบบที่ไม่หวาน และที่สำคัญที่สุดคือต้องเข้าใจว่าชาเขียวเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพองค์รวมเท่านั้น
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์
ตรวจสอบบทความโดย : ชยานิษฐ์ ผ่องใส