หารือ RBC ไทย-กัมพูชาที่สระแก้วคืบหน้า แต่ยังไม่เปิดด่านจันทบุรี คุมเข้มแรงงานกลับประเทศต่อเนื่อง
เวลา 15.20 น. วันที่ 22 ส.ค. 68 บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ยังคงมีการเฝ้าระวังและจัดการอย่างเป็นระบบ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ได้เน้นย้ำถึงการปฏิบัติตามมาตรการและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
ขณะที่ในส่วนของการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ไทย-กัมพูชา ที่ จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 10.00 น. สายที่ผ่านมา แม้ผลสรุปการประชุมสิ้นสุดลงแล้ว โดยมีผลลัพธ์เป็นไปในทิศทางที่ดี และช่วยบรรเทาความตึงเครียดตามแนวชายแดนได้อย่างชัดเจน โดยสรุปสาระสำคัญของการประชุม ได้มีการการลงนามข้อตกลงร่วม 13 ข้อ
นอกจากนี้ยังได้มีการ หารือประเด็นสำคัญเพิ่มเติมนอกเหนือจากข้อตกลงหลัก ยังมีการหยิบยกประเด็นสำคัญที่ไทยต้องการให้กัมพูชาช่วยเหลือเพิ่มเติม ทั้งการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์, ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญในพื้นที่ชายแดน การเก็บกู้ทุ่นระเบิด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน การจัดสรรพื้นที่ชายแดน
ผลการประชุมครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดี ในการฟื้นฟูความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างไรก็ตาม ผลสรุปการประชุมครั้งนี้ ไม่ได้มีการหารือหรือข้อตกลงใดๆ ที่จะสื่อถึง การเปลี่ยนแปลงการเปิด-ปิดด่านในพื้นที่ จ.จันทบุรี ดังนั้น ด่านชายแดน
ด้าน จ.จันทบุรี ยังคงยึดตามกำหนดการเดิม คือ เปิดเวลา 09.00 น. และปิดเวลา 15.00 น. โดยแรงงานกัมพูชาที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศ จะต้องใช้ช่องทางและเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูทางเข้า-ออกทั้งสองช่องทางอย่างชัดเจนเมื่อถึงเวลาที่กำหนด
ส่วนสถานการณ์บริเวณจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลมตั้งแต่ เวลา 09.00 น. ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ประจำด่าน ประกอบด้วยทหาร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.จันทบุรี) และเจ้าหน้าที่ตลาดบ้านแหลม ได้ร่วมกันจัดระเบียบการเดินทางกลับประเทศของแรงงานชาวกัมพูชา ซึ่งในวันนี้มีจำนวนประมาณ 200 กว่าคน การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีเหตุการณ์ความตึงเครียด
ด้าน น.อ. สยาม เชิดชิด หัวหน้าหน่วยประสานงานและข่าวกรองด้านความมั่นคงพื้นที่ชายแดน (นปพท.จันทบุรี) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ให้การอำนวยความสะดวกแก่ญาติผู้เสียชีวิตชาวกัมพูชา ในการนำร่างของ นายหิน อายุ 15 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากโรคบาดทะยักที่โรงพยาบาลในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ประเทศกัมพูชา โดยมีญาติร่วมเดินทางมาด้วยรวม 6 คน การดำเนินการเป็นไปอย่างเรียบร้อยและรวดเร็ว