"รมว.อรรถกร" สั่งบูรณาการพาณิชย์-แรงงาน รับมือผลผลิตลำไยกระจุกตัวช่วง ก.ค.-ส.ค.นี้
“รมว.อรรถกร” ประชุมวางแผนเตรียมรับมือผลผลิตลำไยออกกระจุกตัวในช่วง ก.ค.-ส.ค.นี้ กำชับประสาน “พาณิชย์-แรงงาน” ร่วมบูรณาการมุ่งกระจายผลผลิตออกสู่ตลาด พร้อมเร่งแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน
วันที่ 8 ก.ค.68 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการบริหารจัดการผลผลิตลำไยคุณภาพ ครั้งที่ 1/2568 โดยมี นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 123 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผ่านระบบการประชุมทางไกล (Zoom Meeting) ว่า ในปี 2568 คาดว่าจะมีปริมาณผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดสูงกว่าปีที่ผ่านมา โดยผลผลิตจะออกกระจุกตัวในเดือนกรกฎาคม ถึงเดือนสิงหาคม 2568 อาจทำให้ผลผลิตลำไยล้นตลาด และราคาตกต่ำ ซึ่งหนึ่งในปัญหาที่สำคัญคือปัญหาขาดแคลนแรงงานในการเก็บเกี่ยวลำไยผลสดที่จะส่งผลกระทบต่อการเก็บเกี่ยว รวบรวม และกระจายผลผลิตออกจากแหล่งผลิต ซึ่งหากมีแนวทางการผ่อนปรน หรือมีมาตรการเป็นการเฉพาะให้เคลื่อนย้ายแรงงานจากภาคตะวันออกไปสู่ภาคเหนือให้มีความสะดวก โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย จะเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเก็บเกี่ยว รวบรวม และกระจายผลผลิต จึงจำต้องต้องประสานการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงแรงงาน
“จากปัญหาดังกล่าว จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงานร่วมกันตลอดห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ภาคการผลิต จนถึงการตลาด เพื่อเร่งกระจายผลผลิตออกจากแหล่งผลิตทั้งภายในและภายนอกประเทศ และใช้กลไกระบบสหกรณ์ในการสนับสนุนการกระจายผลไม้ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการผลิตลำไยคุณภาพ จะทำให้เกษตรกร มีรายได้เพิ่มขึ้น เกิดความมั่นคงในอาชีพเกษตรชาวสวนลำไยอย่างยั่งยืน“ รมว.อรรถกร กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ติดตามความก้าวหน้าโครงการนำร่องส่งเสริมการผลิตลำไยคุณภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ปี 2568 และรับฟังปัญหาจากสภาอาชีพเกษตรกร เพื่อนำข้อเสนอต่างๆ มาวางแผนบริหารจัดการลำไยในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ กำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันระหว่างภาครัฐ และเกษตรกร
สำหรับการคาดการณ์ผลผลิตลำไย ปี 2568 (ภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน พะเยา แพร่ ลำปาง และลำพูน) มีเนื้อที่ยืนต้น 1,243,784 ไร่ คาดการณ์ว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว โดยในปีนี้มีปริมาณผลผลิตลำไย 1,064,242 ตัน มากกว่าปี 2567 ที่มีปริมาณ 947,140 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 117,102 ตัน คิดเป็นร้อยละ 12.36 โดยเป็นลำไยในฤดู 740,639 ตัน มากกว่าปี 2567 ที่มีปริมาณ 598,528 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 142,111 ตัน คิดเป็นร้อยละ 23.74 เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการติดดอกออกผล และจะเริ่มออกกระจุกตัวในเดือนกรกฎาคม ปริมาณ 225,006.13 ตัน โดยออกกระจุกตัวสูงสุดในเดือนสิงหาคม 2568 ปริมาณ 442,386.42 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 30.38 และ 57.03 ตามลำดับ ผลผลิตเฉลี่ย ปี 2568 คือ 860 กิโลกรัมต่อไร่ สูงกว่าปี 2567 ที่มีผลผลิตเฉลี่ย 766 กิโลกรัมต่อไร่ เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นติดต่อกันเป็นเวลานานเอื้ออำนวยต่อการติดดอกออกผล