สส.กับ ‘หมาภูมะเขือ’
รัฐบาลและกองทัพ
จะตกลง “สัญญิง-สัญญา” อะไรกับเขมรละก็ ต้องรู้ไว้อย่าง
ว่าชาติกำเนิดเขมรมาจาก “ตัวลิ้น ๒ แฉก”
ที่เรียก “ตัวเหี้ย” หรือ “ตัวตะกวด” นั่นแหละ!
ฉะนั้น ไม่แปลก ทั้งที่ตกลงหยุดยิงกันแหม็บๆ แต่มันแม่งยิงใส่ไทยทั้งคืน
ยิงเสร็จ รุ่งขึ้นเช้า "พลโทหญิงมาลีสีฟักทอง" โฆษกกลาโหมขะแมร์ พลิ้วลิ้นตอแหล-ตอหลด-ตดใต้น้ำ แบบหน้าซื่อ-ตาใส ว่า
“ไทยละเมิดข้อตกลง ยิงใส่เขมร!?”
แค่นั้นไม่พอ เชิญทูตประเทศต่างๆ ในเขมรไปดู “อนุสาวรีย์ตาอม” ที่พวกเขารุกล้ำเข้ามาสร้างในเขตไทยตรงช่องอานม้า
แม้แต่ฟ้าดินยังเอือมระอา…..
เขมรยิงปืนถล่มทหารไทย กระสุนดันไพล่ไปถูกอนุสาวรีย์ตาอมพังราบ แล้วมันก็ตวัดลิ้น ๒ แฉก บอกกับคณะทูตว่า…นี่ เป็นฝีมือไทยถล่มใส่จนพัง!
ดูซี..ดูมันทำ สมกับที่เป็นตะกวดลวงโลก ควรตัดลิ้น ๒ แฉกมันมาทำ “สตูลิ้นเหี้ย” เลี้ยงเจ้าตูบที่ประจำอยู่ช่องอานม้าซะจริงๆ
“อนุสาวรีย์ตาอม” นี้ อมอะไรก็มิทราบ?
นายกฯ ฮุน มาเนต เป็นคนสร้างเอาเคล็ดข่มไทย โดยปั้นรูปทหารขี่ม้า ชูหอก-ชูทวน ชี้ใส่ประเทศไทย
เห็นข่าวว่า เมื่อพวกเขายิงใส่อนุสาวรีย์ที่เจ้านายตัวเองสร้างเป็นเคล็ดข่มไทยพัง ก็พากันใจเสีย บอกว่า…เป็นลางร้าย งานนี้ฉิบหายตายโหงทั้งเจ้านายและลูกน้องแน่!
ดูท่าจะเป็นจริงซะด้วย!?
เมื่อวาน (๓๐ ก.ค.๖๘) กองทัพบกไทย ออกแถลงการณ์
เรื่องกองทัพเขมร “ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง” ตอนหนึ่งว่า
“กองทัพบกขอยืนยันว่า…..
ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด โดยได้ระงับการใช้กำลังทุกรูปแบบ และลดกิจกรรมทางทหารในพื้นที่
เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งสันติภาพ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือที่สร้างสรรค์ระหว่างทั้งสองประเทศ
อย่างไรก็ตาม กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า ในวันที่ ๒๙ ถึง ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๘
'กองทัพกัมพูชา' ได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง ดังต่อไปนี้
๑.พื้นที่ช่องคานม้า จังหวัดศรีสะเกษ
ในวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๘ เวลา ๒๑.๓๐ น. กองทัพกัมพูชาใช้อาวุธปืนเล็กยิงเข้าใส่แนวกำลังฝ่ายไทย
เป็นเหตุให้เกิดการปะทะจนถึงเวลา ๒๒.๐๐ น.จึงยุติ
๒.พื้นที่เขาพระวิหาร บริเวณภูมะเขือและห้วยตามาเรีย จังหวัดศรีสะเกษ
ในวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ตั้งแต่เวลา ๒๒.๐๐ น.
กองทัพกัมพูชาใช้อาวุธปืนเล็กยิงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับใช้อาวุธยิงสนับสนุนประเภทเครื่องยิงลูกระเบิด
ฝ่ายไทยจึงจำเป็นต้องใช้สิทธิตามหลักสากลในการตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง การยิงจากฝ่ายกัมพูชายังคงเกิดขึ้นเป็นระยะจนถึงช่วงเช้า วันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๘
๓.พื้นที่ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ
ในวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๘ เวลา ๐๕.๑๗ น.ตรวจพบการยิงเครื่องยิงลูกระเบิดจากฝั่งกัมพูชา เข้ามาในเขตแดนประเทศไทยอย่างชัดเจน
การกระทำของกองทัพกัมพูชาในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง นับเป็นครั้งที่สองภายหลังจากที่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้
และสะท้อนถึงพฤติกรรมที่ไม่เคารพต่อพันธกรณีระหว่างประเทศ ตลอดจนเป็นการบ่อนทำลายความพยายามในการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี
อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความไว้วางใจที่ควรมีระหว่างสองประเทศ
'กองทัพบก' ขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบของกองทัพกัมพูชาอย่างถึงที่สุด
และขอแจ้งให้ทราบว่า ฝ่ายไทยจะยังคงดำรงตนอยู่บนหลักแห่งความอดกลั้น สันติภาพ และมนุษยธรรมอย่างสูงสุด
อย่างไรก็ดี หากมีการละเมิดต่อเนื่อง….
'กองทัพบก' จะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมและจำเป็นอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนไทยโดยไม่ละเว้น"
……………………………………….
ไหนๆ คุยกันเรื่องทหารของพระราชาและของประชาชนแล้ว ขอคุยถึงเรื่อง สส.ของพรรคประชาชนและของธนาธรซักหน่อย
เพราะมันเกินที่จะรับได้….
กับสิ่งที่ สส.ผู้นี้กระทำหยามเหยียดต่อ "กองทัพไทย" ซึ่งไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้
คือข้อความแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ “ไทย-เขมร” ที่ “นายสหัสวัต คุ้มคง” สส.ชลบุรี พรรคประชาชน โพสต์เฟซสองวันก่อนว่า
Sahassawat Kumkong
สิ่งแรกที่ถูกฆ่าในสงครามคือ ความจริง และทหารไทย แม่งทำแบบนี้มาตลอด ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา สถานการณ์แบบนี้ ไม่ใช่ว่ากองทัพส้นตีนนี่ จะไม่ใช้โอกาสนี้ สร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง อย่าเชื่อทุกอย่างที่ออกจากกองทัพ
…………………………………
นายสหัสวัต….
คุณเป็นสมาชิกรัฐสภา อันเป็น ๑ ใน ๓ ของสถาบันอำนาจหลักของประเทศ เป็นท่านผู้ทรงเกียรติ มีหน้าที่ออกกฎหมายใช้บังคับกับคนทั้งประเทศ
การที่คุณโพสต์ด้วยข้อความนั้น โดยเฉพาะคำว่า “กองทัพส้นตีน” นั้น เป็นทัศนคติส่วนตัว หรือเป็นทัศนคติตามนโยบายพรรคที่คุณสังกัด?
ถูกต้อง เหมาะสมมั้ย ที่คุณใช้คำนั้นกับ “กองทัพของชาติ” คุณต้องการอะไรจากทหารและคุณมีเป้าหมายเช่นใดต่อกองทัพ ที่พูดเช่นนั้น?
นายสหัสวัต คุณเป็นคนไทยแน่นะ?
“เจ้าจ๋า” หมาที่ภูมะเขือ “เจ้าตูบ” ที่ช่องอานม้า มันยังรักชาติ รักแผ่นดินและรักทหาร
“เจ้าจ๋า” โดดรับลูกปืนเขมรแทนทหาร จนตัวมันตาย
ทั้งที่วันๆ มันมีเพียงเศษอาหารและมือทหารเท่านั้นที่ลูบหัว
แต่แค่นั้น มันยังรู้จัก รักแผ่นดิน หวงแหนแผ่นดิน รักทหาร ร่วมรบกับทหาร ตายเพื่อชาติกับทหาร
แล้วนายสหัสวัตล่ะ….
เป็นท่านผู้ทรงเกียรติในแผ่นดิน ที่กองทัพ คือ ทหารของพระราชา พิทักษ์รักษาให้อยู่สุข มีเงินเดือนจากงบแผ่นดินเป็นแสนๆ ให้ใช้
มีข้าว มีน้ำ มีอาหาร จากเงินภาษีประชาชนเลี้ยงสำนึกอสัตย์มีงบให้พร่าผลาญ ในรูปแบบสวัสดิการอีกร้อยแปด
แต่…..นายสหัสวัต
ค่าความเป็น สส.ในตัวคุณ “ต่ำกว่า” หมาที่ภูมะเขือ ชนิดหน้ามือกับหลังตีน!
คุณเป็นสมาชิก “สถาบันนิติบัญญัติ” ฉะนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่รู้กฎหมาย ว่าด้วย “มาตรฐานทางจริยธรรม” ที่ใช้บังคับแก่ สส., สว.และคณะรัฐมนตรี
การที่คุณใช้คำว่า “กองทัพส้นตีน” ถือว่าผิดมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง ร้ายแรงชนิดที่ให้อภัยไม่ได้เลย!
ประเทศไทย คำว่า “สส.ของชาติ” ไม่มี
มีแต่คำว่า “กองทัพของชาติ” และ “ทหารของชาติ”
นั่นหมายถึงว่า ประเทศ “ไม่ต้องมี สส.” สังคมชาติก็อยู่กันได้ด้วยความสงบร่มเย็นและเป็นไทย
เผลอๆ แผ่นดินจะสูงขึ้นด้วยซ้ำ!
แต่ถ้าประเทศ “ไม่มีกองทัพ-ไม่มีทหาร” สังคมชาติจะอยู่กันไม่ได้ด้วยความสงบร่มเย็นและเป็นไทย
เพราะแผ่นดินบรรพบุรุษสร้าง อาจกลายเป็นก้อนเค้กที่ไอ้พวก “ต่ำสัตว์” ตัดแบ่งกัน!
เรื่องนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จงอย่าเห็นแก่หน้า เห็นแก่พวกหางด้วน แล้วยอมด้วนด้วยกัน แล้วพากันนิ่งเฉย
ควรยื่นเรื่องถึงประธานรัฐสภา เพื่อส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ว่า….
การที่นายสหัสวัตโพสต์ถึงกองทัพโดยใช้ถ้อยคำเช่นนั้นผิดมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่?
เอาละ ก็อยากสรุป “ปฏิทินคุก” ประจำเดือนสิงหา.-กันยา.ให้ทราบล่วงหน้ากันเล็กน้อย
-๑ สิงหา. “ศาลรัฐธรรมนูญ” นัดฟังคำวินิจฉัยคดี “นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” รองประธานสภาผู้แทน คนที่ ๑ พรรคเพื่อไทย
ว่าด้วยเรื่อง “นายพิเชษฐ์” เป็นผู้ให้ความเห็นชอบการจัดทำโครงการและให้มีการเสนองบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๓ โครงการ
ที่นายพิเชษฐ์มีส่วนโดยทางตรงและทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘
และกรณีที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีคำขอเสนอโครงการทั้ง ๓ โครงการดังกล่าวอีกครั้ง ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.๒๕๖๙
เป็นการเสนอของบฯ ด้วยโครงการมีรูปแบบเดียวกันและต่อเนื่องกับงบรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘
ที่นายพิเชษฐ์มีส่วนในการเสนอการแปรญัตติ หรือการกระทำใดๆ ที่มีส่วนไม่ว่าทางตรงและทางอ้อม เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๔๔ วรรคสอง
-๔ สิงหา.เป็นวันที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” กำหนดเส้นตายให้นายกฯ แพทองธาร ต้องยื่นคำชี้แจงกรณีคลิปเสียงสนทนากับอังเคิลฮุน หลังจากขอเลื่อนอีกเป็นครั้งที่ ๒
และศาลฯ อาจนัดวันฟังคำวินิจฉัย ว่าด้วยผิดตามมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่ ในวันนั้น?
-๙ กันยา. “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง” นัดฟังคำสั่งคดีบังคับโทษ กรณีทักษิณ “ป่วยทิพย์” ชั้น ๑๔
และศาลฯ สั่งให้ “นายทักษิณ” และ “ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ” มาฟังคำสั่งในวันนั้นด้วย
ครับ….
เบื้องบน-สวรรค์มีตา, ต่ำใต้-มีเตานรก
ทำกรรมใดไว้ ย่อมได้รับผลกรรมนั้น ทั้ง ๓ คดี คนเพื่อไทยทั้งสิ้น
“นายกฯ กับพ่อนายกฯ” ตกฟากกรรมเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ที่จะกำสรวลศัลย์ มันอยู่ตรงว่า
“ลูกจ๋า….พ่อขอลาไปท่องโลกอีกรอบก่อนนะ”!
-เปลว สีเงิน
๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๘
คนปลายซอย