โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"เอ็มเค" ท้าชน "สุกี้ตี๋น้อย" เปิดแบรนด์ใหม่ชิงส่วนแบ่งตลาด "แมส"

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว
“เอ็มเคสุกี้” เปิดศึกเดินหน้าท้าชน “สุกี้ตี๋น้อย” ส่ง ”BONUS SUKI” ประเดิมสาขาแรก ที่โรบินสันสระบุรี ท่ามกลางกระแสตอบรับท่วมท้น ส่วนแผนการลงทุนขยายสาขาของทั้ง 2 แบรนด์จะเป็นอย่างไร ผลประกอบการที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นหรือลดลงมากน้อยแค่ไหน ตามไปดูกันเลย

สงครามหม้อสุกี้แข่งเดือด หลังบริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M เดินหน้าท้าชนแบรนด์ “สุกี้ตี๋น้อย” ด้วยการจัดตั้ง “บริษัท คุ้มคุ้ม จำกัด” ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ล่าสุดเปิดตัว ”BONUS SUKI” สาขาแรก ที่โรบินสันสระบุรี เริ่ม 16 ก.ค.ที่ผ่านมา หวังรุกตลาดสุกี้บุฟเฟ่ต์ราคาต่ำ อย่างเต็มสูบด้วยการประเดิมแคมเปญ

-บุฟเฟต์สุกี้คุณภาพดี เพียง 219 บาทต่อคน (ไม่รวมเครื่องดื่มรีฟิล ราคา 39 บาทและ Vat 7%) ราคาสุทธิ 276 บาท

-ทานได้ไม่อั้นกว่า 60 เมนู จัดมาให้ครบ ทั้งหมูสันคอ เนื้อบริสเกตออสฯ กุ้งสด ลูกชิ้น ติ่มซำ ของทานเล่น เครื่องดื่มและสลัชชี

-เปิดเวลา 11.00 น. – 05.00 น.

ซึ่งกระแสตอบรับดีมีจำนวนผู้ติดตามในเพจเฟซบุ๊ก “BONUS SUKI” ทะลุ 15,000 คนแล้ว

นอกจากนี้ได้จัดแคมเปญ MK คุ้มคุ้ม อิ่มไม่อั้น 299 บาท ระยะเวลาโปรโมชั่นตั้งแต่วันนี้ - 31 กรกฎาคม 2568บริการทุกวัน โดยคิดค่าอาหารท่านละ 299 บาทสุทธิ ตลอดทั้งวัน
• สำหรับเด็กส่วนสูงระหว่าง 110 ซม. - 130 ซม. คิดค่าอาหารท่านละ 149 บาทสุทธิ ตลอดทั้งวัน
• เด็กส่วนสูง 131 ชม. ขึ้นไป คิดราคาผู้ใหญ่ (ราคาปกติ)
• ระยะเวลาในการรับประทาน 90 นาที ทานเกินเวลาทุกๆ 10 นาที คิดค่าบริการท่านละ 30 บาท [เศษของนาทีคิดเป็น 10 นาที]
• รับประทานไม่หมด คิดค่าอาหารส่วนที่เหลือตามราคาจำหน่ายในเมนู MK Restaurants
• ไม่สามารถเปลี่ยนรายการอาหารภายในชุดโปรโมชั่นได้
• ที่ MK Restaurants สาขาในศูนย์การค้าบิ๊กซี ศูนย์การค้าโลตัส และสาขาที่กำหนดเท่านั้น
• ราคาของเมนูอาจแตกต่างกันในแต่ละสาขา

หากย้อนไทมไลน์เอ็มเค สุกี้

เริ่มต้นในปี 2529 ได้เปิดสาขาแรกภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าวซึ่งในขณะนั้น ร้านอาหารรูปแบบสุกี้ยากี้ยังไม่แพร่หลาย แต่ภายหลังการเปิดสาขาแรก ร้านเอ็มเค สุกี้ ได้รับความนิยมและการตอบรับอย่างแพร่หลายจากลูกค้าจำนวนมาก ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ได้มีการนำการบริหารจัดการและการตลาดสมัยใหม่มาดำเนินกิจการและเริ่มมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง

- บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2532 มีทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 1,000,000 บาท เพื่อดำเนินธุรกิจหลักคือ ร้านอาหารประเภทสุกี้ยากี้ นอกจากการประกอบธุรกิจบริการอาหารประเภทสุกี้ยากี้แล้ว ยังดำเนินกิจการร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้ชื่อและเครื่องหมายการค้า “ยาโยอิ” ซึ่งเริ่มดำเนินการในปี 2549

- ร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้ชื่อและเครื่องหมายการค้า “ฮากาตะ” และ “มิยาซากิ” ซึ่งทั้ง 2 แบรนด์ดังกล่าว เริ่มดำเนินการในเดือนตุลาคม 2555 ร้านอาหารไทยภายใต้ชื่อ และเครื่องหมายการค้า “ณ สยาม” และ “เลอ สยาม” ร้านข้าวกล่อง “บิซซี่ บ็อกซ์” ร้านขนมหวาน “เอ็มเค ฮาร์เวสต์” และ ร้านกาแฟ/เบเกอรี่ ภายใต้ชื่อและเครื่องหมายการค้า “เลอ เพอทิท” รวมถึงการดำเนินธุรกิจสถาบันฝึกอบรมอาชีพเพื่อฝึกอบรมพนักงานในเครือบริษัทฯ ทั้งหมด

- โดยเมื่อวันที่ 5 - 7 สิงหาคม 2556 บริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชน ทั่วไปเป็นครั้งแรกจำ นวน 185,850,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาเสนอขาย หุ้นละ 49 บาท โดยบริษัทฯ ได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนที่ออกจำ หน่ายและชำระแล้ว จากจำนวน 720,000,000 บาท เป็นจำนวน 905,850,000 บาท กับกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2556 และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้รับหุ้นสามัญจำนวน 905,850,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและเริ่มทำการซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2556 ในการออกจำหน่ายหุ้น สามัญเพิ่มทุนดังกล่าว

ซึ่งหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ร้านอาหารเอ็มเค สุกี้ก็ได้ จัดตั้งบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจในการผลิตอาหารเพื่อจำหน่าย และเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2562 บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัท คาตาพัลท์ จำกัด เพื่อลงทุนในธุรกิจร้านอาหาร โดยมีทุนจดทะเบียน 2,070 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 207 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100 ในบริษัทย่อยแห่งใหม่

นอกจากนี้ในช่วงปลายปี 2562 บริษัทฯ ได้มีการเข้าลงทุนในบริษัท แหลมเจริญ ซีฟู้ด จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหาร “แหลมเจริญ ซีฟู้ด” โดยมีสัดส่วนการลงทุนร้อยละ 65% ในเดือนสิงหาคม 63 บริษัทฯ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “นม Memberry” ซึ่งเป็นนมยูเอชทีผสมสารสกัดจากเบอร์รี่

- เดือนมิถุนายน 2565 บริษัทฯ ขายเงินลงทุนทั้งจำนวนในบริษัท มาร์ค วัน อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด เป็นจำนวน เงิน 54.7 ล้านบาท ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 บริษัทฯ ร่วมกับคู่ค้าในประเทศมาเลเซียจัดตั้งบริษัท MT Restaurant Sdn. Bhd. ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้าเพื่อดำเนินธุรกิจร้านอาหารแหลมเจริญ ซีฟู้ด ในประเทศมาเลเซีย โดยได้เปิดร้านแหลมเจริญ ซีฟู้ด สาขาแรก ที่เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในเดือนมิถุนายน และได้เปิดสาขาสองและสาขาสามในเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม

- เดือนมิถุนายน 2566 บริษัทฯ ขายเงินลงทุนทั้งจำนวนในบริษัท พลีนัส แอนด์ เอ็มเค พีทีอี ลิมิเท็ด (Plenus & MK Pte. Ltd.) เป็นมูลค่า 1.17 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์

- วันที่ 24 ตุลาคม 2566 บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศเปลี่ยน โลโก้ (Corporate Logo) ของบริษัท เป็นดีไซน์ใหม่ จากโลโก้เดิมที่เป็นตัวอักษร MK สีแดง มาเป็นตัวอักษร M ตัวเดียวสีแดง โดยมีคำว่า MK Group อยู่ด้านล่าง

- เดือนธันวาคม 2566 บริษัทฯ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “น้ำจิ้มสุกี้เอ็มเคสูตรต้นตำรับ” แบบบรรจุขวด โดยเริ่มวางจำหน่ายที่ร้านเอ็มเคทุกสาขา

- เดือนตุลาคม 2567 บริษัทฯ ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “ฮิคินิคุ โตะ โคเมะ” (Hikiniku To Come)” ร้านแฮมเบิร์กชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น ภายใต้คอนเซปต์ “บดใหม่ ย่างใหม่ หุงใหม่ ทุกคำ” สาขาแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

ส่วนปี 2568 เอ็มเค กรุ๊ป ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจทุกมิติ โดยร้านอาหารจะมีการขยายสาขาในประเทศเพิ่ม 15 สาขา ได้แก่ แบรนด์ MK Restaurants 5 สาขา ยาโยอิ(Yayoi) 3 สาขา แหลมเจริญ 5 สาขา และ HIKINIKU TO COME 2 สาขา ร้านซึ่งเป็นแฮมเบิร์กเจ้าดังจากญี่ปุ่น แบรนด์น้องใหม่ล่าสุดในเครือ นอกจากนี้ ยังขยายแฟรนไชส์เจาะตลาดต่างประเทศกับแบรนด์เรือธง “แหลมเจริญ” จะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขาที่ประเทศมาเลเซีย

ขณะที่ปัจจุบันเอ็มเค กรุ๊ปมีร้านอาหารในเครือทั้งหมด 13 แบรนด์ รวม 723 สาขา ทั้งในประเทศและแฟรนไชส์ต่างประเทศเพื่อให้บริการลูกค้า ได้แก่ MK Restaurants, MK Live, MK Gold, YAYOI, แหลมเจริญ ซีฟู้ด, HIKINIKU TO COME, HAKATA Ramen, MIYAZAKI, เลอ สยาม, ณ สยาม, BIZZY BOX (Grab&go), LE PETIT, Multi Brand และสาขาแฟรนไชส์ MK Restaurants สาขาประเทศญี่ปุ่น เวียดนาม ลาว, สาขาแฟรนไชส์ แหลมเจริญ ซีฟู้ด สาขาประเทศมาเลเซีย และ MIYAZAKI สาขาประเทศลาว

นอกจากนี้บริษัทยังมองหาผู้ลงทุนรายใหม่เข้ามาร่วมทุน หรือมาสเตอร์ แฟรนไชส์ เพื่อช่วยขยายธุรกิจร้านอาหารให้มากขึ้น โดยเน้นตลาดอาเซียน พร้อมจัดสรรงบลงทุนปีนี้เบื้องต้น 1,500 ล้านบาท สำหรับการบริหารและดูแลธุรกิจในเครือ 1,000 ล้านบาท เน้นการบริหารจัดการอาคาร การปรับปรุงและบำรุงดูแลอาคาร ส่วนอีก 500 ล้านบาท ใช้สำหรับซื้อที่ดินที่มีศักยภาพในการทำเลต่างๆ รองรับการขยายธุรกิจในอนาคต

ทั้งนี้บริษัทยังวางแผน“ปรับโมเดลธุรกิจใหม่” ซึ่งจะปรับเปลี่ยนร้านหรือ Store Conversion จาก MK Restaurants สู่โมเดลรูปแบบ“บุฟเฟต์” (MK Buffet) และ แหลมเจริญ เตรียมปรับโมเดลให้ทันสมัยและเข้าถึงการทานอาหารทะเลได้ง่ายขึ้น เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายให้หลากหลาย

ด้านธุรกิจด้านโลจิสติกส์ที่ให้บริการคลังสินค้าและขนส่งสินค้าแช่เย็น แช่แข็ง ภายใต้ M-SENKO มีแผนการเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ โดยจะมีการเพิ่มศูนย์กระจายสินค้าตามหัวเมืองหลัก เพื่อช่วยประหยัดเวลาในการส่งสินค้าและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุนกับคู่แข่งอีกด้วย

สำหรับผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จขับเคลื่อนธุรกิจร้านอาหาร เอ็มเค กรุ๊ป มายาวนานตลอด 39 ปี ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ที่ 60% มาจนถึงทุกวันนี้คือ “ฤทธิ์ ธีระโกเมน” นักธุรกิจชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ซึ่งในปี 68 นิตยสารฟอร์บ จัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทย โดย “ฤทธิ์ ธีระโกเมน” และครอบครัว อยู่อันดับที่ 24 ด้วยทรัพย์สิน 1.21 พันล้านเหรียญ

อย่างไรก็ตาม “ฤทธิ์” ได้ประกาศวางมือจากอาณาจักรหมื่นล้านในอีก 2 ปีข้างหน้า หลังจากส่งไม้ต่อให้กับลูกสาว-ลูกชายคือ "ทานตะวัน ธีระโกเมน" และ "ธีร์ ธีระโกเมน" พร้อมแต่งตั้งให้เป็น กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) 2 คน เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตและยั่งยืนในอนาคต

บมจ. เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป หรือ M มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 30 ธ.ค. 67 อยู่ที่ 22,653.60 ล้านบาท ณ. 21 ก.ค.68 อยู่ที่ 18,693.80 ล้านบาท ราคาปิด 21 ก.ค. อยู่ที่ 20.30 บาท โดยคนในตระกูลและบริษัทในเครือถือครองหุ้นมูลค่ารวมกว่า 7,185.61 ล้านบาท

ผู้ถือหุ้น

ลำดับที่ 1 นางยุพิน ธีระโกเมน จำนวน 182,396,802 หุ้น สัดส่วน 19.81%

ลำดับที่ 3 นายฤทธิ์ ธีระโกเมน จำนวน 123,059,333 หุ้น สัดส่วน 13.36%

ลำดับที่ 7 มูลนิธิ ป้าทองคำ เอ็มเค จำนวน 31,265,983 หุ้น สัดส่วน 3.40%

ลำดับที่ 10 บมจ. เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำนวน 17,250,000 หุ้น สัดส่วน 1.87%

รายได้รวม

ปี 2564 อยู่ที่ 11,368.01 ล้านบาท

ปี 2565 อยู่ที่ 15,938.18 ล้านบาท

ปี 2566 อยู่ที่ 16,973.55 ล้านบาท

ปี 2567 อยู่ที่ 15,809.47 ล้านบาท

ไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 3,625.53 ล้านบาท

กำไรสุทธิ

ปี 2564 อยู่ที่ 130.98 ล้านบาท

ปี 2565 อยู่ที่ 1,438.81 ล้านบาท

ปี2566 อยู่ที่ 1,681.94 ล้านบาท

ปี 2567 อยู่ที่ 1,441.57 ล้านบาท

ไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 233.59 ล้านบาท

นอกจากนี้พบว่ฤทธิ์ ธีระโกเมน ยังถือหุ้นในบมจ. ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ หรือ TFM จำนวน 2,794,700 หุ้น สัดส่วน 0.56% ราคาปิด ณ 21 ก.ค.อยู่ที่ 5.05 บาท มูลค่าการถือครอง 14.11 ล้านบาท

ฝั่ง "สุกี้ตี๋น้อย" สู้ไม่ถอยล่าสุดจัดโปรโมชัน ลุ้นจับสลากไข่ทองคำ กินฟรี ยกโต๊ะ และ ส่วนลด 50 % ยกโต๊ะ สำหรับลูกค้าที่เปิดโต๊ะภายในเวลา 10.30-12.00 น. เพื่อดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น แต่เวลาปกติราคาบุฟเฟต์ยังอยู่ที่ 219 บาท ไม่รวมเครื่องดื่มรีฟิล และภาษี ถ้ารวมราคาจะอยู่ที่ 276 บาทต่อคน สามารถนั่งทานได้ 2 ชั่วโมง ราคาเด็ก ส่วนสูงไม่เกิน 90 ซม. ทานฟรี ส่วนสูงตั้งแต่ 90 - 120 ซม. ราคา 117 บาท ส่วนสูงตั้งแต่ 121 ซม. ขึ้นไปราคาผู้ใหญ่

จุดเริ่มต้นสุกี้ตี๋น้อย เป็นแบรนด์ร้านอาหารภายใต้บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) ก่อตั้ง โดย “นัทธมน พิศาลกิจวนิช” ซึ่งเดิมธุรกิจของครอบครัวทำร้านอาหารชื่อ เรือนปั้นหยา มีอยู่ 2 สาขา แต่ปัญหาคือพอมีสาขา การควบคุมมาตรฐาน รสชาติ และบริการ ให้เหมือนกันทุกสาขาเป็นเรื่องยาก เมื่อสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้จึงคิดจะเปิดเป็นร้านสุกี้ เพราะร้านสุกี้สามารถควบคุมมาตรฐานรสชาติให้เหมือนกันทุกสาขา อีกทั้งกระแสนิยมการกินบุฟเฟต์ก็มากขึ้นด้วย แต่ที่ใช้ชื่อร้านว่า “ตี๋น้อย” เพราะพ่อของนัทธมน เป็นลูกคนเล็ก คนในบ้านจะเรียกว่าตี๋น้อย จึงนำมาตั้งเป็นชื่อร้าน เพราะเห็นว่าเป็นชื่อที่เรียกง่ายและจดจำได้ง่าย

ซึ่งในปี 61 สาขาแรกที่บางเขน สาขาที่ 2 เลียบด่วนรามอินทรา ช่วงกลางปี เป็นร้านใหญ่กว่าร้านแรก ร้านนี้เองที่ทำให้คนรู้จักสุกี้ตี๋น้อย โดย่ราคาบุฟเฟ่ต์ 199 บาทปิดบริการตั้งแต่ 12.00 น. ถึง 05.00 น. ด้วยราคาที่ไม่แพงมากทำให้ผลตอบรับจากลูกค้าท่วมท้นต่อแถวรอคิวกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้รายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง

ปี 62 รายได้รวม 499 ล้านบาท กำไรสุทธิ 15 ล้านบาท

ปี 63 รายได้รวม 1,223 ล้านบาท กำไรสุทธิ 140 ล้านบาท

ปี 64 รายได้รวม 1,572 ล้านบาท กำไรสุทธิ 148 ล้านบาท

ปี 65 รายได้รวม 3,976 ล้านบาท กำไรสุทธิ 591 ล้านบาท

ปี 66 รายได้รวม 5,262 ล้านบาท กำไรสุทธิ 907 ล้านบาท

ปี 67 รายได้รวม 7,075 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,168 ล้านบาท

โดยในปี 2565 บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)หรือJMART เข้ามาถือหุ้นสัดส่วน 30% คิดเป็นเงินลงทุน 1,200 ล้านบาท ทำให้กิจการสุกี้ตี๋น้อย มีมูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถขยายสาขาเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่มีอยู่ที่ 43 สาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑล แต่ในปัจจุบัน สุกี้ตี๋น้อย มีสาขาทั้งหมด 86 สาขา และสุกี้ตี๋น้อย บาร์บีคิว มี 4 สาขา

ซึ่งปีนี้มีแผนขยายสาขาทั้งสิ้น 21 สาขา โดยครึ่งปีแรกขยายไปแล้ว 11 สาขา และจะขยายเพิ่มอีก 10 สาขาในครึ่งปีหลัง ทั้งแบรนด์สุกี้ตี๋น้อยชาบู และสุกี้ตี๋น้อย บาร์บีคิว ส่วนในปี 2569 จะขยายเพิ่มอีก 32 สาขา ซึ่งเป็นการขขยายสาขามากที่สุดนับตั้งแต่มีการก่อตั้งแบรนด์ พร้อมขยายฐานแฟรนไชส์และพันธมิตรธุรกิจทั่วประเทศ โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่กำลังซื้อมากขึ้น เช่น ชลบุรี เชียงใหม่ สุรินทร์ เชียงราย อุบลราชธานี ซึ่งบางสาขามียอดขายสูงกว่าสาขาในกรุงเทพฯ ส่วนแผนการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ต้องเลื่อนออกไปเป็นปี 69-70 จากเดิมวางแผนไว้ปี 68 เนื่องจากตลาดไม่เอื้ออำนวยต่อการระดมทุน

การเดินเกมรุกฆาตของMK GROUPครั้งนี้จะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน สุกี้ตี๋น้อยจะรักษาส่วนแบ่งตลาดครองตลาดลูกค้าแมสได้หรือไม่ท่ามกลางการแข่งขันสงครามราคาดุเดือด การตอบรับของผู้บริโภคจะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จได้ดีที่สุด ภายใต้เงื่อนไขสำคัญที่ว่า การห้ำหั่นด้วยราคาและโปรโมชั่นใดๆ ก็ตาม ต้องไม่ทำให้การให้บริการ และคุณภาพสินค้าลดลงไปกว่าเดิมเด็ดขาด……

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNN ช่อง16

ปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา เสียชีวิต 14 เจ็บ 60 ทั้งทหาร-พลเรือน

12 นาทีที่แล้ว

ปลายก.ค. ฝนลดลง คาดพายุใหม่ 3 ลูก ไม่เคลื่อนเข้าไทย

16 นาทีที่แล้ว

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า เหนือ อีสาน กลาง ใต้ ระวังฝนตกหนัก สัปดาห์สุดท้ายของก.ค.

20 นาทีที่แล้ว

เปิดตัวโครงการ “Skyfall” เฮลิคอปเตอร์ 6 ลำ สำรวจดาวอังคารจากฟากฟ้า

29 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

รัฐบาล พร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา

สำนักข่าวไทย Online

UNSC ประชุมฉุกเฉิน เรียกร้องไทย-กัมพูชาหยุดยิง พร้อมออกคำเตือนพลเมืองเลี่ยงพื้นที่ขัดแย้ง

JS100

ปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา เสียชีวิต 14 เจ็บ 60 ทั้งทหาร-พลเรือน

TNN ช่อง16

นายกฯ มาเลเซีย คุยผู้นำไทย-กัมพูชา กังวลสถานการณ์ขัดแย้ง เรียกร้องหยุดยิง-หันหน้าเจรจา

THE STANDARD

คลังออกมาตรการช่วยเหลือเหตุชายแดน

สำนักข่าวไทย Online

ปลายก.ค. ฝนลดลง คาดพายุใหม่ 3 ลูก ไม่เคลื่อนเข้าไทย

TNN ช่อง16

กองทัพภาคที่ 2 แถลงชัด! ปมการสู้รบ หลังถูกโจมตีต้องตอบโต้

สยามนิวส์

‘กองทัพภาคที่ 2’ แจ้งเตือนล่าสุด! เกิดเหตุปะทะตามแนวชายแดนหลายพื้นที่

The Bangkok Insight

ข่าวและบทความยอดนิยม

"สุกี้ตี๋น้อย" ลูกรัก "JMART" เลื่อนแผน IPO เป็นปี 69-70 หลังตลาดไม่เอื้อ l การตลาดเงินล้าน

TNN ช่อง16

สงครามราคา! หม้อไฟ "MK vs ตี๋น้อย" อัดโปรบุฟเฟ่ต์ l การตลาดเงินล้าน

TNN ช่อง16

สงครามหม้อไฟ “ตี๋น้อย vs MK” สมรภูมิเดือด “สุกี้” เมืองไทย

TNN ช่อง16
ดูเพิ่ม
Loading...