กมธ.พัฒนาการเมืองฯ สว. เชิญเจ้าของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้ข้อมูล

รัฐสภา 23 ก.ค.-กมธ.พัฒนาการเมืองฯ สว. เชิญเจ้าของร่าง “พ.ร.บ.นิรโทษกรรม” ให้ข้อมูล ชี้ ม.112 ควรดูที่เจตนา ขณะที่ตัวแทนแจง หากจงใจก่อความวุ่นวาย นิรโทษไม่ได้ ด้าน กมธ. เห็นด้วยนิรโทษกรรมเยาวชน ที่อาจทำไปด้วยความคึกคะนอง เชื่อ สร้างสังคมสงบสุขได้

นายพรชัย วิริยะเลิศ สว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา แถลงว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ประชุมได้มีการพิจารณาร่างเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม โดยได้เชิญเจ้าของร่างที่ยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎรมาให้ข้อมูล ทั้ง 4 ร่างจากพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคประชาชน และภาคประชาชน ขณะที่พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าชี้แจง ซึ่งขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมอยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญของสภาผู้แทนราษฎร จึงต้องการจะทราบว่าสามารถที่จะบรรลุความสงบสุขได้จริงๆหรือไม่ รวมถึงข้อครหาของสังคมที่เกิดขึ้น

นายพรชัย กล่าวว่า จากการชี้แจงทั้ง 4 ร่าง แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ 1.มีการระบุฐานความผิดไว้ว่าจะนิรโทษกรรมฐานความผิดใดบ้าง ซึ่งจะมีความรวมเร็ว เพราะเมื่อพ.ร.บ.นี้ผ่าน ผู้ที่มีความผิดภายใต้พ.ร.บ.นี้ก็จะได้รับการนิรโทษกรรมโดยอัตโนมัติ แต่อาจจะมีความไม่ครอบคลุม และหลายฝ่ายมองว่า มีความไม่เป็นธรรม เพราะอาจจะนิรโทษกรรมให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ และ 2.ไม่ระบุฐานความผิด แต่จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไต่สวน และพิจารณาว่าแต่ละคดีควรจะได้รับการนิรโทษกรรมหรือไม่ มีข้อดีคือสามารถพิจารณาได้อย่างครอบคลุมและเป็นรายกรณี แต่ข้อเสียอาจจะใช้เวลาการพิจารณามากเกินไป

นายพรชัย กล่าวต่อว่า ในส่วนที่ทางกรรมาธิการและประชาชนสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนิรโทษกรรมได้สัดส่วนกับความผิดหรือไม่ เพราะบางร่างมีการนิรโทษกรรมให้กับฐานความผิดคดีอาญาร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นก่อการร้าย การกบฏตามมาตรา 113 การสะสมอาวุธตามมาตรา 114 หรือการวางเพลิงก็ตาม แต่ขณะเดียวกันไม่พิจารณาให้นิรโทษกรรมให้ความผิดมาตรา 112 ที่มีฐานความผิดแค่ 3-15 ปีเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความผิดทางไซเบอร์แค่โพสต์เฟสบุ๊ก 25 โพสต์ หรือแชร์คลิปก็ติดคุก 20 กว่าปีก็มี จึงจำเป็นต้องพิจารณาว่า ฐานความผิดที่ได้รับการนิรโทษกรรม เหมาะสมกับความผิดหรือไม่

อย่างไรก็ตามในส่วนของความผิดตามมาตรา 112 ทางกรรมาธิการเห็นว่าหากดูแล้วเจตนาเพื่อการเมืองโดยเฉพาะก็ควรจะได้การนิรโทษ ซึ่งทางผู้ที่มาชี้แจงระบุว่า ความผิดตรงนี้เป็นความผิดคดีอาญา ถ้าจงใจมาก่อความวุ่นวาย คงไม่สามารถนิรโทษได้ ซึ่งทางกรรมาธิการเห็นว่าหากมีความผิดเช่นนี้ คงจะมีการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ เพราะทุกร่างมีการตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาเพื่อพิจารณาความผิดอยู่แล้ว แต่โครงสร้างจะแตกต่างกัน และควรที่จะครอบคลุมทุกฝ่ายในการมีส่วนร่วมไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือคนจากฝั่งรัฐบาลอย่างเดียว รวมถึงควรเร่งรัดกระบวนการในการพิจารณาในการบรรจุในร่างพ.ร.บ.

นายพรชัย กล่าวว่า ทางกรรมาธิการยังเห็นด้วยกับร่างของภาคประชาชนที่เห็นว่าเยาวชนที่โดยคดีอาจะทำไปด้วยคึกคะนอง ควรได้รับการนิรโทษกรรมโดยที่ไม่เกี่ยวว่าเขาได้โทษอะไรมา และควรให้อภัยเยาชนที่กระทำความผิดในรูปแบบเดียวกับการให้อภัยนักเคลื่อนไหวในเหตุการณ์ 6 ตุลา และ 14 ตุลา ก็จะสามารถสร้างสังคมสงบสุขได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ในร่างของพรรครวมไทยสร้างชาติที่ระบุว่าจะนิรโทษกรรมคดีเลือกตั้งให้สส.และสว.ซึ่งผู้ชี้แจงระบุว่าจะนิรโทษกรรมเฉพาะกรณีที่ไปปิดคูหาเลือกตั้ง โดยที่มีเจตนาทางการเมืองเท่านั้น จะไม่นิรโทษกรรมทุจริตเลือกตั้งทั้ง สส.และ สว.-315.-สำนักข่าวไทย