ทูต-สื่อเห็นกับตาจุดเขมรถล่ม ญาติเหยื่อร่ำไห้เล่านาทีชีวิต
ทูต-สื่อเห็นกับตาจุดเขมรถล่ม ญาติเหยื่อร่ำไห้เล่านาทีชีวิต
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ท่าอากาศยานกองบิน 6 (บน.6) ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก (ศปส.ทบ.) นำคณะผู้ช่วยทูตทหาร 23 ประเทศ และสื่อมวลชน สังเกตการณ์พื้นที่พลเรือน โรงพยาบาล และโรงเรียน ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชาสำหรับเอกอัครราชทูต 3 ประเทศ ได้แก่ บรูไน ญี่ปุ่น และเมียนมา ระดับอุปทูต 3 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สปป.ลาว และอินโดนีเซีย และผู้แทนทางการทูตระดับต่างๆ 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐ สิงคโปร์ จีน เวียดนาม และฟิลิปปินส์ รวม 11 ประเทศ
ขณะที่ทูตทหาร ได้แก่ 1.สวีเดน 2.สาธารณรัฐประชาชนจีน 3.มาเลเซีย 4.สหรัฐ 5.ปากีสถาน 6.รัสเซีย 7. สปป.ลาว 8.แคนาดา 9.ออสเตรเลีย 10.ฝรั่งเศส 11.ญี่ปุ่น 12.เวียดนาม 13.อิตาลี 14.เนเธอร์แลนด์ 15.สวิตเซอร์แลนด์ 16.บรูไน 17.อินโดนีเซีย 18.เยเมน 19.สิงคโปร์ 20.อินเดีย 21.เกาหลีใต้ 22.ฟิลิปปินส์ และ 23.ตุรกี ที่ จ.ศรีสะเกษ พล.ท.อานุภาพ ศิริมณฑล รองเสนาธิการทหารบก พล.อ.ท.ณรัฐ บุญประเสริฐ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ (จก.กร.ทอ.) นำคณะลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่จุดร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านผือ ต.หนองหญ้าลาด อ.กัทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ถูกทหารกัมพูชาใช้เครื่องยิงจรวดบี BM-21 ยิงตกใส่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บ 10 ราย ระหว่างที่คณะลงพื้นที่จุดเสียหายในปั๊ม ปตท.บริเวณร้านสะดวกซื้อ ญาติ และครอบครัวผู้เสียชีวิต ได้ถือกรอบรูปผู้เสียชีวิตมาเรียกร้องความยุติธรรมกับ กต.และหน่วยงานความมั่นคง
นางกมนรัตน์ พลเศรษฐเลิศ เจ้าของปั๊ม ปตท. กล่าวทั้งน้ำตาว่า ลูกระเบิดลงมาโดยไม่รู้ตัว เกิดไฟลุกจากร้านสะดวกซื้อที่หลังคา ตนรีบเข้าไปอุ้มลูกออกมา แล้วพยายามสั่งให้พนักงานหนี ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เห็นกับตาว่ามีแม่คนหนึ่งกอดลูกไว้ และยอมตายเพื่อปกป้องลูก ตนอยากให้โลกได้รู้ว่าไทยไม่ได้ยิงก่อน กัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากยิง ทำให้ประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ต้องบาดเจ็บ และตาย พร้อมส่งคลิปเหตุการณ์ให้สื่อมวลชนแล้วเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันความสูญเสียที่เกิดขึ้นจริง
ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิตหลายรายเปิดใจให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม และยืนยันว่าเหตุการณ์นี้เป็นการกระทำที่ละเมิดหลักมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง
จากนั้นคณะลงพื้นที่ รพ.สต.ซำเม็ง ได้รับความเสียหายจากกระสุนปืนใหญ่ทหารกัมพูชา ต้องสั่งอพยพแพทย์และผู้ป่วยไปที่ปลอดภัย โดย รพ.สต.ซำเม็งได้รับความเสียหายหนัก ปัจจุบันไม่สามารถเปิดให้บริการได้
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูต อุปทูต 11 ประเทศ และคณะทูตทหาร 23 ประเทศ 28 คน ได้ฟังการชี้แจงของสถานที่อพยพก่อนเดินสอบถามประชาชนที่มาอยู่ศูนย์อพยพถึงความเป็นอยู่ด้วยความสนใจ โดยเด็กๆ ได้มอบภาพวาดและสานนกมอบให้คณะทูต
พล.ต.วินธัยกล่าวว่า วันนี้ได้พาคณะมา 3 จุดโดยเฉพาะจุดปั๊มน้ำมัน ห่างจากแนวชายแดนไกลถึง 30 กิโลเมตร และ รพ.สต.ที่มีความสำคัญมาก ได้รับผลกระทบถูกทหารกัมพูชายิงทำลาย ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ดีที่ มท.ได้อพยพไปก่อนจะถูกกระสุนปืนใหญ่ ไม่เช่นนั้นจะมีคนบาดเจ็บเสียชีวิต ขณะที่จุดศูนย์อพยพเนื่องจากการใช้อาวุธของกัมพูชาทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างและเกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยเฉพาะใช้อาวุธเกินกว่าพื้นที่การรบเกินความจำเป็น
“วันนี้เราพาคณะทูตและสื่อต่างประเทศมาเห็นข้อเท็จจริง ไม่มีการบิดเบือนอะไรทั้งสิ้น นอกจากสื่อถึงสังคมไทยแล้ว ยังจะสื่อสารให้นานาประเทศได้ทราบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับไทยนั้นไทยเป็นผู้ถูกกระทำ” พล.ต.วินธัยกล่าว
ที่ศูนย์พักพิง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พ.อ.โจฮันเนส มอร์เคนส์ รวาห์คาน ทูตทหารเนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า วันนี้มีประโยชน์อย่างมาก ขอบคุณกองทัพไทยที่ได้พามาเห็นด้วยตัวเอง ต้องขอบคุณนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ที่ทำให้ 2 ฝ่ายมาคุยกันและเกิดการหยุดยิง หวังว่าจะมีการเจรจาเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ และทุกคนได้กลับบ้าน
ขณะที่ พล.จ.ซัมซุล ริซัล มูซา ทูตทหารมาเลเซีย กล่าวว่า การลงพื้นที่วันนี้ต้องขอบคุณกองทัพไทย ได้เห็นว่าอะไรเกิดขึ้น ได้เห็นคนไทยได้รับความทุกข์ยาก มีความเสียหายเกิดขึ้น ทั้งโรงพยาบาล พื้นที่เขตพลเรือน ทั้งนี้ ต้องขอบคุณนายกฯมาเลย์ที่จัดให้มีการพบกันระหว่างนายกฯไทยและกัมพูชา เพื่อให้แน่ใจว่าจะเกิดการหยุดยิงและคอยจับตาดูสถานการณ์ ความริเริ่ม เพื่อให้แน่ใจว่าจะเกิดการหยุดยิงและทำให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติเราหวังว่าทั้งคนไทยและกัมพูชาจะอยู่กันอย่างสันติ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ทูต-สื่อเห็นกับตาจุดเขมรถล่ม ญาติเหยื่อร่ำไห้เล่านาทีชีวิต
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th