โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ธนาธร ซัด เศรษฐกิจไทยติดหล่มการเมือง 20 ปี จี้ ผ่าตัดงบประมาณ

PostToday

อัพเดต 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภายในงาน“55 ปี NATION :ผ่าทางตันประเทศไทย กับ 3 ผู้นำทางความคิด : Chapter 2 3 บก. ถาม ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ ตอบ ณ ห้องพญาไท 4 ชั้น 6 โรงแรมอีสติน แกรนด์พญาไท

ดำเนินรายการโดย 3 บก.สมชาย มีเสน รองประธานกรรมการ บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน), บากบั่น บุญเลิศ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน), และประธานกรรมการ บริษัท ฐานเศรษฐกิจ มัลติมีเดีย จำกัด,วีระศักดิ์ พงศ์อักษร บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่น

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าและอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้แสดงทัศนะต่อสถานการณ์เศรษฐกิจและสังคมไทย โดยชี้ว่า

ปัญหาเศรษฐกิจที่ฝังรากลึกไม่สามารถแก้ไขได้ หากไม่แก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองและโครงสร้างอำนาจที่ฉุดรั้งประเทศมาตลอด 2 ทศวรรษ

พร้อมเสนอทางออกคือการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ผ่านประชามติ และการปฏิรูประบบงบประมาณครั้งใหญ่

การเมืองเป็นต้นตอ ฉุดรั้งเศรษฐกิจ

นายธนาธรเริ่มต้นด้วยการยืนยันว่าปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองเป็นเรื่องที่แยกจากกันไม่ได้ โดยตลอด 20 ปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่า การพยายามแก้ปัญหาปากท้องโดยไม่ปฏิรูปการเมืองเป็นสิ่งที่ "เป็นไปไม่ได้"

อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ชี้ว่า สภาวะที่สังคมไม่มีข้อตกลงในการอยู่ร่วมกัน ขาดกลไกตรวจสอบถ่วงดุล (Check and Balance) ที่มีประสิทธิภาพ และการใช้"นิติสงคราม" เป็นเครื่องมือทางการเมือง ทำให้ไม่มีใครสามารถบริหารประเทศได้อย่างมีเสถียรภาพ

"ปัญหาเก่าอย่างการทุจริตคอร์รัปชันของนักการเมืองก็แก้ไม่ได้ แถมยังเกิดปัญหาใหม่คือ 'นิติสงคราม'

ที่กลไกตรวจสอบซึ่งเคยถูกออกแบบมาในรัฐธรรมนูญปี 2540 เพื่อถ่วงดุลอำนาจ กลับถูกใช้เป็นเครื่องมือทำลายล้างทางการเมือง" นายธนาธรกล่าว พร้อมเสริมว่า

มี "คนกลุ่มหนึ่ง" ที่พยายาม "หยุดเวลา" ทางการเมืองไว้ เพื่อรักษาระเบียบสังคมและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการเมืองของตนเอง

ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยไม่สามารถปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกได้

ชำแหละเศรษฐกิจไทย: วิกฤตโตช้าลงเรื่อยๆ

นายธนาธรได้ฉายภาพวิกฤตเศรษฐกิจไทยผ่านข้อมูลการเติบโตของ GDP ตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงภาวะที่น่าเป็นห่วง

  • ทศวรรษ 2530: เศรษฐกิจไทยเติบโตเฉลี่ย 7% ต่อปี
  • ทศวรรษ 2540: ลดลงเหลือ 5.3% ต่อปี
  • ทศวรรษ 2550: ลดลงเหลือ 3.2% ต่อปี
  • ทศวรรษปัจจุบัน (2560s): เติบโตเฉลี่ยเพียง 2% ต่อปี

"นี่ไม่ใช่วิกฤตที่เกิดขึ้นแล้วฟื้นตัว แต่มันคือการที่เศรษฐกิจของเราค่อยๆ โตช้าลงเรื่อยๆ ตลอด 30-40 ปีที่ผ่านมา บ่งบอกอย่างชัดเจนว่า ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยลดน้อยลงเรื่อยๆ"

นายธนาธรย้ำว่า ไม่มีนโยบายระยะสั้น เช่น การอัดฉีดเงินเข้าระบบ ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างนี้ได้ การแก้ปัญหาต้องใช้เวลาเป็นสิบปีผ่านการสร้างขีดความสามารถของประเทศให้แข่งขันกับโลกได้จริง

เสนอทางออก: ผ่าตัดงบประมาณและแก้รัฐธรรมนูญ

นายธนาธรเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจใน 2 ระดับหลัก คือ

1. การปฏิรูปงบประมาณแผ่นดิน

ในฐานะอดีตกรรมาธิการงบประมาณ 2 ปี นายธนาธรวิจารณ์ว่า การจัดสรรงบประมาณในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใด (พล.อ.ประยุทธ์ หรือ นายเศรษฐา) ยังคงมีรูปแบบและเนื้อหาเหมือนเดิม ไม่ได้ตอบสนองต่อความท้าทายใหม่ๆ ของโลก เช่น AI, Climate Change หรือกฎระเบียบการค้าใหม่ๆ

โดยเสนอให้ปรับเปลี่ยนการจัดสรรงบประมาณโดยมีเป้าหมาย 2 ด้านควบคู่กัน:

  • สร้างความมั่นคงในชีวิตให้ประชาชน: ลดงบประมาณที่ไม่จำเป็นลง แล้วนำมาเพิ่มสวัสดิการ เพื่อให้คน "กล้าเสี่ยง" (Take Risk) กล้าคิด กล้าเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างนวัตกรรม

  • สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ: จัดสรรงบประมาณเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการแข่งขันในอนาคต

"วันนี้มันขาดเจตจำนงทางการเมือง (Political Will) ที่แน่วแน่ของฝ่ายบริหารที่จะผลักดันให้ทรัพยากรของประเทศไปในทิศทางที่ถูกต้อง"

2. เดินหน้ารณรงค์ประชามติแก้รัฐธรรมนูญ

นายธนาธรชี้ว่า ทางออกจากกับดักทางการเมืองคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎกติกาหลักของประเทศ ตนได้เห็น "ข่าวดีในข่าวร้าย" จากการที่ พ.ร.บ.ประชามติ ผ่านสภาฯ ไปแล้ว

และเสนอให้ทุกภาคส่วนในสังคมร่วมกันผลักดันให้เกิด การทำประชามติเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไปพร้อมกับการเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในปี 2569 หรือ 2570

"นี่จะเป็นการลดงบประมาณ และที่สำคัญคือจะเป็นการส่งเสริมกระบวนการถกเถียงแลกเปลี่ยนในสังคม ทำให้สุขภาพประชาธิปไตยไทยดีขึ้น" นายธนาธรกล่าวทิ้งท้าย

โดยหวังจะเห็นการตื่นตัวของสังคมเหมือนครั้งการรณรงค์รัฐธรรมนูญปี 2540 ที่มี "ธงเขียว" เป็นสัญลักษณ์ของการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก PostToday

"GULF" ออกหุ้นกู้ภายใต้บริษัทใหม่ เสริมแกร่งการลงทุน

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อย่าหลงเกม ‘เมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง’ เราต้องการ ’สันติ‘

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

CP-Uoriki ร้านซูชิแห่งแรกของ 7-Eleven นั่งทานในร้าน-ทำสด-เสิร์ฟแบบพรีเมียม

SMART SME

“รมว.อรรถกร” แจง กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้าลดต้นทุนอาหารสัตว์ เน้นใช้วัตถุดิบท้องถิ่นแทนการนำเข้า พร้อมยืนกราน จุดยืนปกป้องเกษตรกรไทย

สวพ.FM91

Broker ranking 18 Jul 2025

Manager Online

36% ของ Gen Z ใช้คริปโตทุกวัน - Gen X จัดหนักซื้อลงทุนอสังหาฯ

Manager Online

ร้านสะดวกซื้อ Lawson เปลี่ยนลานจอดรถเป็นที่พักค้างคืน สร้างรายได้จากพื้นที่ว่าง

SMART SME

“พิชัย” ปรามนักลงทุน อย่าเพิ่งลุย! บิทคอยน์ใกล้หมดแรง-หุ้นไทยยังไม่น่าเสี่ยง แนะถือเงินสด

Manager Online

ก.ล.ต. รื้อเกณฑ์ทดสอบนักลงทุน เตรียมยกเครื่องกฎ “รู้จริงก่อนจองโทเคน” ลดภาระ-ล้อมคอกก่อนเกิดปัญหา

Manager Online

อิเกีย ตอกย้ำความเป็น Pet-friendly ชวนคนรักสัตว์เลี้ยงเช็คอิน งาน “เติมเต็มบ้านด้วยความรักและหัวใจคนฟู” ณ เอ็ม ยาร์ด 18-28 ก.ค. นี้

Positioningmag

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...