ครั้งแรก ! อาหารไทยลุยภารกิจระดับโลกกับ NASA

BT พาส่องภารกิจส่งไก่ไทยไปอวกาศกับโครงการ Axiom-4 ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ (C.P. Group) มีส่วนสำคัญในการส่งอาหารขึ้นไปพร้อมกับภารกิจนี้ พร้อมพูดคุยแบบเอกซ์คลูซิฟกับผู้มีส่วนร่วมในภารกิจและโครงการนี้

Axiom-4 เกิดจากบริษัทเอกชนที่ทำงานร่วมกับ NASA Axiom ซึ่งตัวยานได้ใช้บริการ Space X ของ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) มีทั้งจรวด Falcon-9 ในการที่จะผลักดันขึ้นไป และมียานที่ชื่อว่า Dragon คือสามเหลี่ยมตรงปลายแหลมบนสุดที่จะลำเลียงมนุษย์ไป 4 คน เพื่อไปทำงานวิจัย

BT ได้บุกเข้าไปถึง VAB (Vehicle Assembly Building) ตึกประกอบจรวดอวกาศของ NASA ที่เราเคยเห็นได้จากภาพยนตร์อวกาศดังมากมาย

CPF เริ่มภารกิจส่งไก่ไทยไปห้วงอวกาศ

คุณประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร CPF มีความตั้งใจคืออยากจะยกระดับไก่ไทยด้วยการเข้าร่วมภารกิจนี้ “การที่จะส่งนักบิน 1 คน ขึ้นไปบนอวกาศได้ มันเป็นเรื่องใหญ่มาก และเราก็อยากจะทดลองด้วยว่าอาหารของเรา ไก่ไทยของเรา มีคุณสมบัติ (Qualify) รึเปล่า มีความปลอดภัยสูงสุดระดับที่ให้นักบินอวกาศทานได้ไหม”

นอกจากนี้คุณประสิทธิ์ยังได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ไก่ที่จะร่วมภารกิจนี้ได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบทั้งหมดจนถึงทุกวันนี้ที่เราสามารถจะส่งไก่ไทยให้กับนักบินนำไปทานบนยานอวกาศได้

ซึ่งสัตว์ทุกตัวใน CPF ทานโพรไบโอติกส์ทุกวัน ไม่ใช่โพรไบโอติกส์ในตลาด แต่เป็นโพรไบโอติกส์ที่ทาง CPF พัฒนาเฉพาะสำหรับสายพันธุ์ไก่ในแต่ละชนิด

มาตรฐานความปลอดภัยของ NASA ไม่ใช่เรื่องง่าย

สำหรับมาตรฐาน STD 3001 ของ NASA ที่ค่อนข้างเข้มงวดในเรื่องความปลอดภัยนั้น ทางคุณประสิทธิ์ไม่ได้กังวล พร้อมมั่นใจในทุกกระบวนการของไก่ไทย

“เป็นโปรเจกต์ที่เราเป็นรีเซิร์ชโปรเจกต์นะครับ NASA เขาก็อยากได้ความมั่นใจ เลยขอใช้เวลาในการตรวจตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ตั้งแต่ Feed Meal ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ต่าง ๆ ทั้งหมด รวมไปถึงโรงชำแหละ ทุกกระบวนการ ซึ่งใช้เวลาพอสมควร มันก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับทาง NASA เหมือนกัน แล้วก็เป็นรีเซิร์ชโปรเจกต์ขนาดใหญ่”

คนไทยได้อะไรจากภารกิจ ‘ไก่ไทย’ ครั้งนี้

การส่ง ไก่ไทยไปอวกาศ จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนไทยของเราทุกคนได้ อย่างน้อยที่สุดก็ในหมวดอาหารไทย ที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยได้เป็นที่รู้จัก ซึ่งการที่เราสามารถส่งไก่ไทยไปอวกาศได้ เหมือนการตอกย้ำความสามารถในการเป็นครัวของโลกได้เช่นกัน เพราะวันนี้เราได้เป็นครัวของอวกาศแล้ว และนี่ก็จะเป็นแรงบันดาลใจหรือใบเบิกทางให้กับคนไทย ว่าในอนาคตเราอาจจะมีโครงการอื่น ๆ ร่วมกับ NASA ได้เช่นกัน

ไมค์ มัซซิมิโน (Mike Massimino) อดีตนักบินอวกาศ Atlantis ในภารกิจของ NASA ให้ข้อมูลกับเราว่า “ในอวกาศ เราจะรักษาให้สะอาดและถูกสุขลักษณะอย่างมาก เป็นสภาพแวดล้อมที่ปลอดเชื้อ ดังนั้นอาหารจะเป็นที่มาของเชื้อโรคได้ ถ้ามันไม่ปลอดเชื้อ ถ้ามันไม่ปลอดภัยนั่นจะเป็นปัญหาใหญ่หลวงได้ ดังนั้น NASA และหน่วยงานรัฐบาลอื่น ๆ ทั่วโลกที่ส่งคนขึ้นไป จะกังวลเรื่องอาหารมากครับ อาหารเป็นสิ่งที่สำคัญ ดังนั้นมันต้องผ่านการทดสอบมากมาย”

โดยไมค์มองว่าตอนนี้เป็นก้าวสำคัญของอาหารไทยแล้ว นักบินอวกาศชอบอาหารเผ็ด เนื่องจากในอวกาศจะมีการเปลี่ยนแปลงของเหลวในร่างกาย เพราะมันไม่มีแรงโน้มถ่วงของเหลวในร่างกายของคุณ มันจะทำให้คุณคัดจมูกนิดหน่อย แต่การทานอาหารรสเผ็ดมันจะทำให้นักบินอวกาศรู้สึกดีขึ้น

ดร. ลูซี่ โล (Dr. Lucie Low) Chief Scientist – AxiomSpace กล่าวว่า “Axiom มุ่งมั่นอย่างมากที่จะเปิดการเข้าถึงวงโคจรระดับต่ำของโลกที่ไม่เคยทำได้มากก่อน เราตื่นเต้นอย่างมากที่จะเปิดโอกาสนั้นให้กับคนไทย ทั้งนักเรียน บริษัทต่าง ๆ และภาคอุตสาหกรรม เพื่อช่วยให้พวกเขาเห็นว่ามีอะไรให้นำไปใช้ประโยชน์ได้บ้าง จากสภาพแวดล้อมที่พิเศษและมีเอกลักษณ์บนวงโคจรระดับต่ำของโลกใบนี้ ดังนั้นเราจึงตั้งตารอที่จะได้พูดคุยกันอีกมากมายกับผู้คนจากทั่วประเทศไทย เมื่อพวกเขาได้เห็นโอกาสในการทำสิ่งต่าง ๆ ในอวกาศค่ะ”

มาตรฐานความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่ ดร. ลูซี่ ย้ำ “บนโลกของเราอาหารต้องผ่านกระบวนการที่มีมาตรฐานสูงมาก ต้องมีความปลอดภัย ต้องผ่านกระบวนการในสิ่งแวดล้อมที่จะไม่ทำให้เกิดการปนเปื้อนของจุลินทรีย์และเชื้อโรคใด ๆ แน่นอนว่าในอากาศก็ยังคงเป็นเช่นนั้น แต่ก็มีข้อกำหนดเพิ่มเติมที่อาหารจะต้องผ่านด้านความปลอดภัยและการรับรองอย่างที่ได้ว่ามา

ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของ NASA พวกเขาจะตรวจสอบทุกอย่างที่เราเสนอไป ว่าเราต้องการนำอะไรขึ้นไปบนภารกิจบ้าง ไม่ใช่เพียงแต่ปลอดภัยสำหรับการบริโภคเท่านั้น แต่ยังต้องปลอดภัยสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมของนักบินอวกาศด้วย มันจะต้องสามารถจัดเก็บได้อย่างมิดชิด และต้องมีอายุการเก็บที่ยาวนาน ดังนั้นอาหารที่ส่งขึ้นไปบนอวกาศโดยทั่วไปต้องมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนาน เพื่อที่จะไม่เน่าเสียตลอดภารกิจ”

เนื่องจากในอดีตอาหารที่ส่งไปอวกาศจะเป็นแบบฟรีซดราย เพื่อให้มีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานมาก NASA ตื่นเต้นกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นที่อาจไม่เพียงแต่ทำให้สามารถปลูกผักใบเขียว ผักกาด พริก และผักต่าง ๆ บนวงโคจรผ่านกระบวนการทางการเกษตรแบบต่าง ๆ ได้ แต่ยังมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่กำลังถูกพัฒนาทั่วโลกที่อาจจะก้าวไปสู่การแปรรูปและสร้างอาหารบนวงโคจรได้

รสชาติ ‘ไก่กะเพรา’ อาหารอวกาศกับวัตถุดิบที่ผ่านมาตรฐาน NASA

CP เสนอตัวเข้าร่วมภารกิจ และได้รับการยอมรับระดับสูง ซึ่งไก่ที่ทาง CP ได้ทำคือไก่ที่เป็นชิ้นเนื้อจริง ๆ แพ็กเกจจิงที่เห็นสามารถอยู่ได้ถึงหนึ่งปี ปราศจากสารกันบูด ทุกอย่างเป็นวัตถุดิบ (Raw mat) อยู่ได้ด้วยเทคนิค 2 อย่าง คือ

1. เนื้อไก่ผ่านการ Sterilize คือการทำลายเชื้อโรคในไก่ด้วยความร้อน เนื้อสัมผัสของผิวไก่จะแตกต่างจากไก่ใน 7-Eleven เพราะอันนั้นมันคือการนึ่ง แต่พอฆ่าเชื้อโรคไก่จนสะอาด กัดเข้าไปจะให้ความรู้สึกคล้ายกับการกินเนื้อปลา

2. แพ็กเกจจิงที่เป็น Seal เพื่อทำให้วัตถุดิบที่ไม่ได้ปนเปื้อนจะต้องอยู่ได้ 1 ปี โดยไม่ต้องแช่เย็น ซึ่งเป็นวิธีของเครือเจริญโภคภัณฑ์ หลักการนี้จึงเป็นหลักการที่น่าสนใจมากที่เอามาใช้กับอาหารที่คนไทยจะได้บริโภคตั้งแต่นี้ไป

หมุดหมายสำคัญ เบิกทางให้ ‘ไทย’ ร่วมงานกับ NASA

การที่อาหารไทยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ ถือเป็นจุดที่ทำให้ NASA ยอมรับคนไทย มาตรฐานอวกาศเป็นมาตรฐานที่สูงที่สุด และเราก็ทำได้ และเชื่อว่า CP มาครั้งนี้จะเป็นใบเบิกทางสำหรับบริษัทอื่น ๆ ในอนาคต แม้คุณเป็นคู่แข่งเขา คุณก็สามารถจะใช้ตั๋วเดียวกันที่ NASA เปิดใจรับไก่ไทยเป็นอาหาร อีกหน่อยก็อาจจะมีหมูไทย มีเนื้อไทย ผลไม้ไทย ขนมไทย หรืออาหารไทยอื่น ๆ อาจจะได้ขึ้นไปอีก

คนไทยเตรียมลิ้มรสอาหารแบบเดียวกับนักบินอวกาศ

คุณประสิทธิ์ อัปเดตว่าช่วงเดือนสิงหาคมนี้ คนไทยจะได้ลิ้มรสชาติอาหารแบบเดียวกันกับนักบินอวกาศในภารกิจนี้แน่นอน ซึ่งเป็นอาหารปลอดภัยจากกิจการอวกาศที่เรียกว่า Space Food Safety Standard STD 3001 โดย NASA ที่จะมาให้เราได้ลิ้มลองกัน เป็นกระบวนการที่ทำแล้วไม่ได้รื้อทิ้ง แต่กลายเป็นไลน์ผลิตที่ผลิตสินค้าสดใหม่ปลอดภัยต่อไปให้กับอุสาหกรรมอาหารของไทย