ชู 4 หมัดเด็ดวัฒนธรรมไทย ภายใต้ยุค "แพทองธาร" ดัน Soft Power สู่ระบบเศรษฐกิจชาติ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า ได้ประชุมวางแผนงานกระทรวงวัฒนธรรม: เร่งขับเคลื่อนภารกิจวัฒนธรรมไทยให้ชัดเจน สร้างการรับรู้ให้ถึงประชาชน ยกระดับผลงานรูปธรรมในช่วงปลายปีนี้
วาระของการประชุมวันนี้เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานในช่วงครึ่งปีหลัง และเร่งขับเคลื่อนวาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ ‘วัฒนธรรมไทย’ ในหลายมิติ ตั้งแต่งานเชิงนโยบายไปจนถึงการจัดกิจกรรมระดับนานาชาติ
เป้าหมายหลัก คือ การยกระดับวัฒนธรรมไทยให้มีพลังและเป็นที่ภาคภูมิใจ ทั้งในประเทศและบนเวทีโลก โดย 4 แนวทางหลักที่ทางกระทรวงกำลังเดินหน้าอย่างเต็มที่ ได้แก่:
1. การขับเคลื่อนกระบวนการขึ้นทะเบียนมรดกโลก เร่งรัดการจัดทำเอกสารเสนอชื่อวัฒนธรรมสำคัญของไทยในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) พร้อมทั้งวางแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ทั้งด้านการอนุรักษ์ การศึกษา การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน
2.การสนับสนุนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไทย เร่งจัดทำมาตรการจูงใจด้านภาษีสำหรับภาพยนตร์และอุตสาหกรรมวัฒนธรรม เพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ให้ Soft Power ไทยเติบโตในระดับสากล เตรียมความพร้อมเพื่อผลักดันให้สื่อสร้างสรรค์ของไทย เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ สินค้าและวัฒนธรรมไทยอย่างเป็นระบบ เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์เศรษฐกิจประเทศในปีหน้า
3.การจัดกิจกรรมวัฒนธรรมระดับนานาชาติปลายปีนี้ โดยเฉพาะ Thailand Biennale, Phuket 2025 ซึ่งจะเป็นเวทีสำคัญในการแสดงพลังของศิลปินไทย และสร้างการรับรู้ใหม่ต่อวัฒนธรรมไทยในบริบทโลกสมัยใหม่ คาดว่าจะเป็นอีกปีที่งานศิลปะจะเข้าถึงผู้คนมากขึ้น
4. การเสริมสร้างการรับรู้ถึงวัฒนธรรมไทย ประเพณีไทย ที่เป็นเอกลักษณ์ และสมบัติของชาติอย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของโบราณสถาน โบราณวัตถุ พยัญชนะไทย วรรณกรรมไทย ที่อาจจะมีการเข้าใจผิดในสังคม โดยได้เร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำสื่อองค์ความรู้ที่จะสามารถทำการเผยแพร่ให้มีความเข้าใจโดยง่าย เพื่อให้เห็นถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่เป็นความทรงจำของไทย และต่อสายตาชาวโลก พร้อมทั้งจัดกิจกรรมที่จะสร้างการมีส่วนร่วมของคนในสังคม
ดิฉัน และทีมงานตั้งใจจะทำให้การขับเคลื่อนวัฒนธรรมไทยให้มีความชัดเจน เข้ากับโลกยุคสมัยใหม่ เป็นระบบและต่อเนื่องมากขึ้น โดยเน้นย้ำอัตลักษณ์ไทย ที่สะท้อนให้คนไทยเห็นคุณค่า และทำให้ต่างชาติเห็นคุณค่านี้เช่นเดียวกัน
ในเร็วๆ นี้ ดิฉันเชื่อว่าหลายๆ โครงการน่าจะเริ่มเห็นความคืบหน้าเป็นรูปธรรม และจะกลายเป็นพลังใจสำคัญให้คนไทยภาคภูมิใจในความเป็นไทย