เดือด! “แอมมี่ กิตติยา” กางหลักฐานฟาด “ซ้อก้าด” ขอชี้แจงครั้งสุดท้าย
เดือด! “แอมมี่ กิตติยา” กางหลักฐานฟาด “ซ้อก้าด” ครั้งนี้ทำเกินขอบเขต ขอชี้แจงครั้งสุดท้าย ลั่น! ขอโทษก็ขอโทษให้มันจริงใจ
กลายเป็นประเด็นใหญ่โตจนได้เมื่อสาวอินฟลูเอนเซอร์ “แอมมี่ กิตตินยา” ได้โพสต์ระบายความในใจถึงแบรนด์เครื่องสำอางค์ดังแบรนด์หนึ่ง ซึ่ง “ซ้อก้าด” เจ้าของแบรนด์ Love Potion ก็รีบเข้ามาคอมเมนต์ชี้แจงทันทีและทางด้าน “แอมมี่” ก็ได้เข้ามาตอบกลับชี้แจงในมุมของตัวเองเช่นกัน
แต่ดูเหมือนว่าเรื่องจะยังไม่จบเมื่อ “ซ้อก้าด” ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงอีกครั้งโดยได้เปิดเผยถึงรายละเอียดแชทที่ทางแบรนด์ได้ติดต่อไป ซึ่งยังไม่ไดมีการส่งของไปให้เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนของการคุยตกลงเจรจา และได้แจ้งเงื่อนไขทุกครั้งก่อนส่งของ ใครที่ไม่สะดวกทางแบรนด์ยินดีมาก ๆ ไม่เป็นไรเลย และปกติจะแจกเทสเตอร์ให้กับลูกค้าทุกกลุ่มเพื่อนำสินค้าไปพัฒนาให้ดีขึ้น
ซึ่งหลังจากที่อีกฝ่ายได้มีการโพสต์ ตนก็เทคแอคชั่นและขอโทษทันที แต่พอดูรายละเอียดพบว่าข้อมูลไม่ตรงกับสิ่งที่โพสต์และทำให้หลายคนเข้าใจผิด ตนมองว่าปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าทั้งฝ่ายคุยกันว่าสบายใจแบบไหน แต่อีกฝ่ายเลือกที่จะโพสต์โดยยังไม่มีข้อสรุปและพยายามทำให้มีประเด็นและเลือกที่จะไม่ตอบกลับทุกช่องทาง ทั้งทีมงานและตนรวมถึงการโทร ซึ่งตนพร้อมที่จะแก้ปัญหาและเทคแอคชั่นให้ไวที่สุด ตนและแบรนด์ Love Potion ยืนยันว่าพร้อมรับฟังทุกความคิดเห็น พร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
ทางด้าน “แอมมี่” จึงได้เปิดเผยถึงรายละเอียดรวมถึงข้อมูลบทสนทนาว่า “นี่ค่ะ บรีฟขนาดนี้ ฉันตอบกลับ ส่งเรทการ์ดเลยเพราะให้ถ่ายรุป 7-14 วัน ขอฟีตแบคแล้ว 2 สินค้าค่ะ ส่งสินค้าให้ รีวิวให้ตลอด แต่รอบนี้เกินไปปปปป”
“ฉันตอบโคตรเคลียร์ แล้วจริงๆ การที่ทางแบรนด์ให้บรีฟ ให้ถ่ายรูป 7 ถึง 14 วัน แล้วต้องขอ Feedback ตามผล 2 สินค้าเราว่ารอบนี้เกินไปนะ ถ้าสินค้าเสร็จแล้ว ส่งมา แบบไม่บรีฟจะอีกเรื่องเลย แล้วจริงๆไม่ใช่แค่เราคนเดียวนะที่โดนเพราะ หลังจากโพสต์เรื่องนี้ไป ก็มีทั้งอินฟูตัวเล็กตัวใหญ่ทักมาหา ว่าให้โพสต์ฟรีตลอดแล้วยังแจ้งเรื่องไทม์หลายวันโพสต์ แต่พอเราออกมาพูดแบบตรงตรงคุณควรกลับไปพิจารณา การทำงานว่าการให้เกียรติ คนอื่น มันก็ดี  ขอโทษก็ขอโทษให้มันจริงใจ”
และล่าสุด “แอมมี่” ได้โพสต์คลิปชี้แจงในมุมของตนด้วยว่า “ขอชี้แจงถึงประเด็นที่เกิดขึ้น เพิ่งถึงจีนก็เลยมาช้า อย่างแรกทำไมถึงต้องโพสต์ทั้งที่สามารถปฏิเสธได้ คือโดยปกติแบรนด์จะส่งของมา ซึ่งตนโพสต์ให้ทังวิดีโอและรูปหลายครั้งมาก ๆ ใจดีมาตลอดเพราะอยากสนับสนุน แต่รอบนี้รู้สึกเกินขอบเขตตรงที่เป็นตัวเทสเตอร์สองย่างซึ่งขอฟีดแบคและให้ถ่ายรูป 7-14 วัน ปกติแบรนด์ใหญ่หรือแบรนด์ที่เคยร่วมงานเขาจะส่งของให้ลงในสิ่งที่ชอบ อะไรที่อยากบอกต่อก็ไม่ลงเป็นปกติ
อย่างที่สองทางแบรนด์ส่งของให้โดยไม่มีบัจเจดตนเข้าใจ แต่บอกว่ากรณีที่แพ้จะยินดีรับผิดชอบ ตนรู้สึกว่าไม่ค่อยแฟร์ ไม่อยากให้เกิดกรณีแบบนี้ ทั้งอินฟลูเอนเซอร์เล็กหรือใหญ่ ไม่มีบัจเจดตนเข้าใจส่งสินค้ามาถ้าชอบลงรีวิวให้แน่นอน
ประเด็นที่สามทำไมไม่ตอบทั้งที่ทางแบรนด์พยายามติดต่อ แจ้งก่อนว่าปกติตนอยู่ขอนแก่นต้องบินมากรุงเทพฯ ตอนที่เขาทักมาตนต่อขนตาอยู่ และด้วยความพาทีมงานมาเที่ยวที่จีน ตนเลยต้องแพ็คของของ ปิดยอดของบริษัทให้จบ ถ้าติดตามจะเห็นว่าตนไปตอบในเพจตอนเช้า ไม่ได้เบีย่งประเด็นหรือไม่ตอบ ทุกคนมีชีวิตส่วนตัว มีธุระที่ต้องทำปกติ
ประเด็นที่สี่ตอนนนี้คนโยงเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวมา ไม่อยากให้มีคอมเมนต์ด้านลบ ขอให้คุยแค่ในขอบเขต ประเด็นที่ห้าที่บอกว่าถ้าอินฟลูฯคนอื่นโดนก็กางหลักฐานมา หลังจากที่ตนโพสต์ไปแต่ไม่ได้บอกว่าแบรนด์อะไร มีอินฟลูฯหลายคนทักมาหาว่าโดนอะไรบ้าง ตนขอไม่หยิบคนอื่นมาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ จากใจที่เป็นบล็อกเกอ์มา 14 ปี หลาย ๆ แบรนด์น่ารักมาก ๆ เขาส่งของมาก็รีวิวให้ฟรีไม่ใช่ต้องจ่ายเงิน ไม่งั้นคงไม่โตถึงทุกวันนี้ แต่ครั้งนี้รู้สึกเกินขอบเขต ตนลงรูปสวอชลิปไปซึ่งไม่มีบัจเจดตนเข้าใจ โดยใส่เครดิตชัดเจนแต่ตัวแทนของแบรนด์หลายคนเอารูปไปช้แล้วลบเครดิตออก ตนไม่ได้แคปไว้แต่ส่งข้อความว่าถ้าจะใช้รูปรบกวนไม่ลบเครดิตออกแต่เขาไม่ทำไรเลย ตนจึงส่งซ้ำ ๆ เขาก็ลบรูปออก
อีกเรื่องคือถ้าแบรนด์อยากร่วมงานกับอินฟลูฯควรให้เกียรติกับอีกฝ่าย เพราะทุกคนมีต้นทุน และอยากให้ครั้งนี้เป็นคลิปสุดท้ายเพราะอยากให้แยกย้ายไปทำอย่างอื่น สุดท้ายถ้าตนตอบช้า หรือไม่ได้ตอบคอมเมนต์ต้องขอภัย ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาดูและขอให้เรื่องนี้จบ”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews