อังกฤษ ผลิตรถยนต์เดือน พ.ค.ทรุด 32.8% หนักสุดรอบ 70 ปี พิษภาษีทรัมป์
อังกฤษ ผลิตรถยนต์เดือน พ.ค.ทรุด 32.8% หนักสุดรอบ 70 ปี หลังสหรัฐเก็บภาษีนำเข้า 25% กดดันต้นทุน-ซัพพลายเชนป่วน ขณะส่งออกไปตลาดหลักทั้งสหรัฐและ EU ลดฮวบ
วันที่ 27 มิถุนายน 2568 เวลา 06.24 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตและผู้ค้ารถยนต์แห่งสหราชอาณาจักร (SMMT) เปิดเผยว่าการผลิตรถยนต์และยานพาหนะเชิงพาณิชย์ของสหราชอาณาจักรในเดือนพฤษภาคมลดลง 32.8% จากปีก่อน เหลือเพียง 49,810 คัน นับเป็นอัตราการลดลงรายเดือนที่เลวร้ายที่สุดสำหรับเดือนพฤษภาคมนับตั้งแต่ปี 1949 หากไม่นับปี 2563 ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19
SMMT ระบุว่าการส่งออกรถยนต์ไปยังสองตลาดหลักของสหราชอาณาจักร ได้แก่ สหภาพยุโรป (EU) และสหรัฐลดลง 22.5% และ 55.4% ตามลำดับ
ปัจจัยสำคัญที่กระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ของอังกฤษคือ มาตรการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนจากต่างประเทศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เริ่มบังคับใช้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยคิดอัตราภาษีสูงถึง 25% ซึ่งส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก เพิ่มต้นทุนให้กับผู้ผลิตหลายร้อยล้านดอลลาร์ ทำให้บางบริษัทต้องระงับการส่งออก และหลายค่าย โดยเฉพาะในยุโรป กำลังพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังสหรัฐฯ เพื่อลดผลกระทบจากภาษีดังกล่าว
นอกจากนั้นภาคการผลิตของอังกฤษโดยรวมยังหดตัวในเดือนพฤษภาคม โดยทั้งผลผลิต ยอดสั่งซื้อ และการจ้างงานต่างลดลง
อย่างไรก็ตาม ไมค์ ฮอว์ส ประธานบริหาร SMMT ระบุว่า ข้อตกลงทางการค้าของสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะกับสหรัฐและความสัมพันธ์ที่เป็นบวกมากขึ้นกับสหภาพยุโรป ถือเป็นปัจจัยที่สร้างความหวังให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์อังกฤษ
ทั้งนี้สหรัฐและอังกฤษยืนยันข้อตกลงการค้าทวิภาคีที่เคยตกลงกันไว้ในเวที G7 ที่แคนาดาเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว รถยนต์ผลิตในสหราชอาณาจักรจำนวนสูงสุด 100,000 คันต่อปี สามารถส่งออกไปยังสหรัฐ ได้โดยเสียภาษีเพียง 10% ซึ่งต่ำกว่าอัตราภาษี 25% ที่ประเทศอื่น ๆ ต้องเผชิญ
ขณะเดียวกันอังกฤษบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับอินเดียในเดือนพฤษภาคม เพื่อลดภาษีและกำหนดโควตาการนำเข้ารถยนต์ นอกจากนี้ยังมีความคืบหน้าในการเจรจากับสหภาพยุโรปในประเด็นความร่วมมือด้านกลาโหม พลังงาน และเกษตรกรรม
สำหรับการผลิตรถยนต์ (ไม่รวมยานพาหนะเชิงพาณิชย์) ในเดือนพฤษภาคม ลดลง 31.5% โดย SMMT ระบุว่าเป็นผลจากการเปลี่ยนโมเดลรถยนต์ การปรับโครงสร้างของอุตสาหกรรม และผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ
อ้างอิง : reuters.com