จับเจ้าหน้าที่รัฐ 6 นาย เอี่ยวออกเอกสารสิทธิรุกที่ป่า จ.สระบุรี
วันนี้ (8 ส.ค.2568) ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ นำหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤมิชอบ เข้าแสดงต่อหน้า นายช่างสำรวจชำนาญงาน นายหนึ่ง สังกัดสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี ก่อนจับกุม ตามความผิดในข้อหา ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานออกเอกสารอันเป็นเท็จฯ เกี่ยวข้องกับการรังวัดที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ผิดวัตถุประสงค์ กรณีออกเอกสารสิทธิไร่ภูนับดาว
นอกจากนี้ยังมีกำนัน ตำบลหนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. อีก 4 นาย ที่ถูกออกหมายจับในข้อหาเดียวกัน ซึ่งถูกควบคุมตัวทั้งหมดแล้ว
ขณะเดียวกัน ตำรวจ ปปป. ได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่า ส.ป.ก. จังหวัดสระบุรี 4 แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 500 ถึง 600 ไร่ ด้วย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กลุ่มขบวนการ ร่วมกันออกเอกสารสิทธิให้ผู้อื่นครอบครองพื้นที่ทำกิน ทั้งที่ไม่ใช่ผู้ที่มีสิทธิตามกฎหมาย ทั้งเอื้อให้เกิดการใช้ประโยชน์ ผิดวัตถุประสงค์ ของการจัดสรรที่ดินทำกิน
นายพัฒน์พงษ์ สมิตติพัฒน์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ อธิบายถึงผืนป่า ส.ป.ก.แห่งนี้ ว่า เดิมทีเป็นป่าสมบูรณ์ มีการปลูกไม้ประดู่ ไม้สัก ราว 6,000 ไร่ พื้นที่นี้จึงไม่อยู่ในเงื่อนไขในการดำเนินการปฏิรูปที่ดิน ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2520 กำหนดชัดเจน ว่า พื้นที่บริเวณนี้เป็นป่าสมบูรณ์ มีความลาดชันเกินร้อยละ 35 และเป็นพื้นที่ ที่เป็นภาระพูกพันให้กรมป่าไม้ดำเนินการดูแลรักษาพื้นที่ป่า พร้อมยอมรับว่า พฤติการณ์ของกลุ่มขบวนการที่เกิดขึ้นที่นี่นั้น เกิดขึ้นกับป่าทั่วประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า ที่นี้เป็นบริเวณใกล้เคียงกับที่ดินแปลงที่ เป็นคดีความ และได้ดำเนินคดีผู้ต้องหาไปแล้ว ซึ่งศาลได้ตัดสินจำคุกผู้กระทำผิดในคดี ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กำลังขยายผลถึงเส้นทางการเงิน และนายทุนที่อยู่เบื้องหลังในการบุกรุกป่า
อ่านข่าว : ร่วมใจเยียวยา "ประชาชน - ทหารกล้า" เหตุชายแดนไทย-กัมพูชา