สิ้นใจแล้ว “เจ้ากระทิง” สุนัขแสนรู้แห่งภูมะเขือ หลังรอดชีวิตสงครามไทย-กัมพูชา 2 รอบ
สิ้นใจแล้ว “เจ้ากระทิง” สุนัขแสนรู้แห่งภูมะเขือ หลังรอดชีวิตจากสงครามไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 รอบ ชาวเน็ตและคนในพื้นที่แห่คอมเมนต์แสดงความเสียใจ
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 มีรายงานการสูญเสียบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฟซบุ๊กSawat Lunphong ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กของนายสวัสดิ์ ลุนผง หัวหน้าฝ่ายจัดการทรัพยากรธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้โพสต์ภาพของสุนัขตัวหนึ่งกำลังนอนแน่นอนอยู่บนผ้า
สุนัขตัวนั้น คือ “เจ้ากระทิง” สุนัขแสนรู้แห่งภูมะเขือ ที่พยายามเอาชีวิตรอดจากสมรภูมิรบชายแดนไทย-กัมพูชา มาได้ถึง 2 รอบ ครั้งแรกเมื่อปี 2554 และในปีนี้ 2568 พร้อมระบุข้อความไว้อาลัยสุดซึ้ง ว่า
“กระทิงเป็นสุนัขลายเสือที่มากับทหารภูมะเขือ เขาตั้งชื่อให้หลังสู้รบในปี 2554 เพราะมันฉลาดหลบลูกปืนใหญ่ ฝ่ายทหารหน่วยหนึ่งได้นำเจ้ากระทิงมาที่ฐานปฏิบัติการเนินนับดาวติดผามออีแดง
ต่อมาทหารย้ายกลับ เจ้ากระทิงก็มาอยู่ผามออีแดงมันจะวิ่งต้อนรับนักท่องเที่ยวร้องเหมือนจะสอบถามหรือขอกินอาหาร วันหนึ่งมันมีแผลก้อนเนื้อโตและแตกเป็นแผลปวด
ผมให้ประสานคุณหมอสัตวแพทย์ผ่าตัดจนหายดีอยู่ประมาณ 1 ปีผมนำกระทิงมาเลี้ยงเพราะกลัวจะรบกวนนักท่องเที่ยว ร่างกายก็สมบูรณ์ดีและเขาก็มีตุ่มแตกเป็นแผล
วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เกิดการปะทะยิงกันขนาดหนักระหว่างไทย-กัมพูชา ผมและหัวหน้าอุทยานฯ จึงให้เจ้าหน้าที่เตรียมการอพยพ เจ้าหน้าอุทยานฯ เขาพระวิหารออกจากพื้นที่ เหลือผมกับน้อง 1 คนอยู่เพื่อรักษาทรัพย์สินของทางราชการ
จุดเราอยู่เป็นตำแหน่งปืนใหญ่ผ่านทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนเจ้ากระทิงก็หายไปจนผมอยู่ไม่ได้เนื่องจากยิงกันหนักมากเป็นประวัติการณ์มากกว่าปี 54 ที่ผมผ่านมา ผู้บัญชาจึงให้ผมออก 26 กรกฎาคม ผมขับรถยนต์ผ่านกระสุนปืนออกมาได้ กลับศรีสะเกษปลอดภัยได้สุนัขหลงมาอีกตัวชื่ออีลาบขึ้นรถ เจ้ากระทิงหาไม่เจอ เมื่อตัดสินใจออกมาก็เห็นจรวดตกตามหมู่บ้าน ชุมชนไม่มีใครอยู่ จนผมเองก็สงสารสุนัข
วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 จึงตัดสินใจเข้ามาหา สภาพไม่มีไฟฟ้าไม่มีสัญญานโทรศัพท์ ไม่พบสุนัขกระทิง มีแต่หน่วยทหารราบ ผมร้องตะโกนหลายครั้ง ไปที่ด่านฯ ก็ไม่เห็นคิดว่ากระทิงคงตกใจวิ่งหายไป สักบ่ายโมงของวันนั้นเจ้าหมากระทิงก็ออกมาหาผม ผมดีใจมาก มันร้องเหมือนคนวิ่งเข้ามาหาสภาพอ่อนเพลีย ผมรีบเอาอาหารสัตว์ น้ำดื่ม แล้วเอามือรูปหัวรูปหน้าสุนัขว่า “กระทิงเก่งจังเลยเจ้าปลอดภัยแล้วนะ” ขณะนั้นปืนเล็กยังยิงปะทะกันอยู่และระเบิดดังเป็นระยะ
ในวันที่ 20 สิงหาคม 2568 กระได้เดินไปหาผม ผมเองตั้งด่านป้องกันคนนอกเข้าอุทยานฯ ช่วยหน่วยความมั่งคง ก็มีคนบอกว่ากระทิงดูเหมือนจะขาดใจ ผมรีบวิ่งไปดู สุดท้ายเจ้ากระทิงสุนัขผ่านสงครามก็จากผมไป เพราะสงครามคงเป็นผลให้ตกใจ เขามีโรคเก่าอยู่แล้ว ให้เจ้าไปสู่ในทางที่ดี ๆ ขอแม่ธรณีรับเขาไปเลี้ยงแทนผมด้วยนะครับ!!!! หลับให้สบายนะกระทิงเจ้าคงไม่ลำบากแล้วพ่อเลี้ยงเจ้าได้แค่นี้”
อ้างอิงจาก : FB Sawat Lunphong