SOCIETY: วิจารณ์ยับ! หลังสารคดีดาวโป๊ ‘บอนนี บลู’ ฉายลงช่องเมนสตรีม ผู้ชมส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า “นี่มันหนังโป๊ชัดๆ” ซัดแรงช่องตกต่ำขนาดนี้แล้วหรือ?!
“เหมือนหนังโป๊ชัดๆ” นี่คือเสียงสะท้อนจากผู้ชมจำนวนไม่น้อย หลังจากช่องฟรีทีวีชื่อดังของอังกฤษอย่าง ‘Channel 4’ ออกอากาศสารคดีความยาวหนึ่งชั่วโมงในชื่อ ‘1,000 Men and Me: The Bonnie Blue Story’ เรื่องราวของนักแสดงหนังผู้ใหญ่วัย 26 ปี ที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายกว่า 1,000 คน ภายในเวลาเพียง 12 ชั่วโมง
บอนนี บลู (Bonnie Blue) หรือชื่อจริงว่า เทีย บิลลิงเกอร์ (Tia Billinger) กลายเป็นชื่อที่คนทั้งสหราชอาณาจักรต้องพูดถึงอีกครั้ง เมื่อเธอถูกนำเสนอในรายการสารคดีในฐานะ ‘ผู้หญิงผู้สร้างอาชีพจากเรือนร่างของตนเอง’ แต่ประเด็นที่ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนักหน่วง กลับไม่ใช่แค่จำนวนชายที่เธอร่วมรักด้วย หากแต่เป็นเนื้อหาของสารคดีที่ผู้ชมหลายคนมองว่าโจ่งแจ้งเกินรับได้
ภาพเปลือยเต็มตัว ฉากเพศสัมพันธ์กับชายหลากหลายคน และเบื้องหลังการเตรียมการของเหตุการณ์ที่หลายคนเรียกว่า ‘สุดโต่ง’ ตั้งแต่การซื้อถุงยาง 1,600 ชิ้น
ผ้าคลุมหน้า 50 ชิ้น และเจลหล่อลื่นที่ทำให้ชา ทุกอย่างถูกบันทึกไว้ในสารคดีนี้ทั้งหมด ซึ่ง Channel 4 ยืนยันว่าการนำเสนอภาพเหล่านี้ ‘มีเหตุผลด้านบรรณาธิการและสอดคล้องกับกฎการออกอากาศของ Ofcom’ โดยชี้ว่าเป็นการเล่าเรื่องของอาชีพ
และทำในช่วงเวลาที่ได้รับอนุญาต
พร้อมมีคำเตือนผู้ชมชัดเจน
แต่ถึงอย่างนั้น เสียงบนโลกออนไลน์กลับไม่คลี่คลาย หลายคนถามหาความเหมาะสมว่าเพราะเหตุใดพฤติกรรมเช่นนี้ถึงถูกนำมาเผยแพร่ผ่านสถานีสาธารณะ บางคนถึงกับกล่าวว่า “Channel 4 ตกต่ำถึงขีดสุด” ขณะที่อีกหลายคนตั้งคำถามถึงการที่สารคดีหยิบยกตัวตนของบอนนี่มานำเสนอในฐานะ ‘เฟมินิสต์’ ที่ปลดแอกทางเพศ ทั้งที่ภาพหลายฉากและการกระทำของเธอกลับดู ‘ลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์’ อย่างน่ากังวล
ดร.ชาร์ล็อตต์ พราวด์แมน (Dr. Charlotte Proudman) ทนายความผู้ทำคดีความรุนแรงในครอบครัว ออกมาแสดงความกังวลอย่างหนัก โดยระบุว่าภาษาที่บอนนีใช้ในสารคดี เช่น ถูกมัด ปิดปาก และรัดคอ สะท้อนภาพความรุนแรงทางเพศในชีวิตจริงที่เหยื่อจำนวนมากต้องเผชิญในห้องพิจารณาคดี
ในขณะเดียวกัน แอนนี ไนท์ (Annie Knight) เพื่อนสนิทคนดังชาวออสเตรเลียของบอนนี ซึ่งเคยร่วมถ่ายทำวิดีโอล่อแหลมด้วยกัน ก็ออกมาเปิดใจว่าเธอตัดขาดความสัมพันธ์กับบอนนีแล้ว หลังอีกฝ่ายถูกแบนจาก OnlyFans อีกทั้งบอนนี่เคยออกมาพูดพาดพิงถึงเธอในเชิงลบ รวมถึงใช้ปัญหาสุขภาพของเธอ อย่างการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่เป็นเครื่องมือโจมตีอย่างไม่น่าให้อภัย
ไนท์กล่าวว่าเธอรู้สึกว่าเส้นทางของบอนนีในวงการผู้ใหญ่นั้นเริ่ม ‘ข้ามเส้น’ไปในทางที่อันตราย โดยเฉพาะแนวคิด ‘Petting Zoo’ ที่บอนนีเคยประกาศจัดอีเวนต์ให้ตัวเองถูกมัดไว้ในกล่องแก้วราวกับสัตว์ในสวนสัตว์ เพื่อให้ใครก็ตามที่อายุถึงเกณฑ์สามารถมาสัมผัสเธอได้ แน่นอนว่าแนวคิดนี้ถูกตีกลับอย่างรุนแรง ทั้งจากผู้ชมทั่วไปและ OnlyFans เอง ซึ่งระบุว่าเนื้อหาท้าทายสุดโต่งเช่นนี้ ‘ละเมิดนโยบายการใช้งาน’ ของแพลตฟอร์ม และนำไปสู่การปิดบัญชีของเธอในทันที
แม้ผู้สร้างสารคดีจะตั้งคำถามไว้ชัดเจนว่าบอนนี บลู คือนักล่าทางเพศที่ยิ่งตอกย้ำภาพฝันของชายเป็นใหญ่ หรือเป็นหญิงแกร่งผู้กล้าใช้ร่างกายตัวเองเป็นธุรกิจอย่างมีอำนาจ แต่สำหรับผู้ชมจำนวนมาก คำถามนั้นดูเหมือนไม่เคยได้รับคำตอบเลยจริงๆ
เรื่องราวของบอนนี บลู ไม่เพียงแต่ท้าทายเส้นแบ่งของศีลธรรมและการเซ็นเซอร์ในสื่อกระแสหลัก แต่ยังสะท้อนรอยร้าวที่ชัดเจนในสังคมปัจจุบัน ที่ยังไม่มีข้อสรุปว่าพรมแดนของ ‘สิทธิในร่างกาย’ กับ ‘ความเหมาะสมในที่สาธารณะ’ ควรอยู่ตรงไหนกันแน่