น้ำท่วมย่านการค้า อ.หล่มสัก ลดลงต่อเนื่อง สัญจรได้แล้ว
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 3 กันยายน 2568 เวลา 4.23 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท2 ก.ย. – น้ำท่วมย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลงต่อเนื่อง ถนนหลายสายรถสัญจรได้แล้ว ขณะที่ จ.พิษณุโลก น้ำทะลักกัดเซาะถนนขาด ไหลท่วมบ้านเรือน ส่วน จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าหลาก-ดินโคลนถล่ม เสียชีวิต 1 ราย
ระดับน้ำที่ท่วมบ้านเรือน ร้านค้าตามชุมชน และย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลง จากที่เคยท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ลดเหลือ 20-30 เซนติเมตร รวมทั้งบริเวณแยกหอนาฬิกา ซึ่งน้ำท่วมลดลงแต่ยังมีน้ำไหลผ่านอยู่บ้าง และมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ถนนหลายสายรถยนต์สามารถสัญจรไปมาได้แล้ว แต่ถนนบางสายยังปิดการจราจร ป้องกันรถที่วิ่งผ่านทำให้น้ำทะลักเข้าร้านค้า
เจ้าของร้านค้าบางส่วนเริ่มสำรวจความเสียหายของข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งสินค้าต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วม หลังแม่น้ำป่าสักที่ไหลผ่าน อ.หล่มสัก ลดลงต่ำกว่าพนังกั้นน้ำราวครึ่งเมตรแล้ว หากไม่มีฝนตกหรือมวลน้ำทางตอนเหนือเติมลงมา คาดว่าน้ำที่ท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก รวมทั้งบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรใน ต.ตาลเดี่ยว ที่อยู่ทางตอนใต้ จะลดลงเรื่อยๆ และเข้าสู่ภาวะปกติในเร็วๆ นี้
น้ำทะลักตัดถนนขาด ไหลท่วมบ้านเรือน
ที่ จ.พิษณุโลก น้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่หลากลงคลองเนินกุ่ม กัดเซาะถนนบ้านเหนือ ต.เนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม กว้างกว่า 10 เมตร ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนหลายสิบหลัง บ้านบางหลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนเสาเอนใกล้ล้ม กระแสน้ำไหลแรงจนไม่สามารถเข้าไปกันน้ำได้ ชาวบ้านทำได้แค่ยืนดูน้ำที่ไหลทะลักท่วมบ้าน
ขณะที่น้ำในแม่น้ำน่านที่ไหลผ่านตัวเมืองพิษณุโลก เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 14 ปี นับตั้งแต่น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 54 ด้วยระดับน้ำสูงกว่า 9 เมตร หลังเขื่อนสิริกิตติ์เพิ่มการระบายน้ำ ทำให้เรือน แพริมน้ำ บริเวณสะพานสุพรรณกัลยา ลอยสูงขึ้นเกือบถึงถนน และต้องผูกโยงแพไว้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่น้ำที่เพิ่มสูงขึ้นยังต่ำกว่าจุดวิกฤติราว 1 เมตร ทางเทศบาลได้เตรียมเครื่องสูบน้ำไว้หากน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนกระทบกับเมือง
ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงค้นหาผู้สูญหายจากดินถล่มบ้านปางอุ๋ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ที่เหลืออีก 2 ราย หลังเกิดเหตุครบ 1 สัปดาห์ โดยมีผู้เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บ 15 ราย บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 33 หลัง และเสียหายบางส่วนอีกกว่า 120 หลัง หลายหน่วยงานยังคงเร่งฟื้นฟูความเสียหายและสำรวจเพื่อหาพื้นที่ปลอดภัยสร้างบ้านใหม่ให้ผู้ประสบภัย
น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม เสียชีวิต 1 ราย
ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะ 4 หมู่บ้านของ ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง โดยนายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำชุดธารน้ำใจจากสภากาชาดไทยไปมอบให้ผู้ประสบภัยกว่า 200 คน ใน 4 หมู่บ้าน ที่บ้านห้วยหมาก-ลาง นอกจากนี้ยังมอบเงินช่วยเหลือและให้กำลังใจครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตจากน้ำป่า ดินถล่ม จำนวน 1 รายด้วย
ระดับน้ำลดลงบางพื้นที่ แต่ยังต้องเฝ้าระวัง
ส่วนที่ จ.เลย ระดับน้ำใน อ.ภูหลวง ภูกระดึง วังสะพุง ซึ่งก่อนหน้านี้ระดับน้ำมีความสูงถึง 1-3 เมตร ล่าสุดช่วงบ่ายที่ผ่านมา (2 ก.ย.) ปริมาณน้ำในบางพื้นที่เริ่มลดลงแล้ว แต่ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังต้องเฝ้าระวัง โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงเร่งเข้าช่วยเหลือชาวบ้านออกมายังพื้นที่ปลอดภัย
นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งนำกระสอบทรายใช้ก่อพนังกั้นน้ำแม่น้ำเลยไม่ให้ล้นทะลักเข้าสู่บ้านเรือนประชาชนและพื้นที่เศรษฐกิจ
เบื้องต้นสถานการณ์น้ำบริเวณสถานีภูหลวง ลดลง 8 เซนติเมตร, สถานีวังสะพุง ระดับน้ำลดลง 13 เซนติเมตร, สถานีเลย ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 1 เซนติเมตร และสถานีวัดน้ำ หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองเลย ระดับน้ำลดลง 8 เซนติเมตร.-สำนักข่าวไทย