“ธนาคารกลางจีน” อัดฉีดเงินระยะสั้น 1.3 ล้านล้านหยวน สูงสุดในรอบ 6 เดือน
ธนาคารกลางจีน เติมเงินเข้าสู่ระบบการเงินผ่านสัญญา reverse repo สูงถึง 1.3 ล้านล้านหยวนในสัปดาห์นี้ รับมือแรงดูดเงินจากการเก็บภาษีรอบใหญ่และการออกพันธบัตรรัฐบาลจำนวนมาก
วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.33 น. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) เพิ่มการอัดฉีดสภาพคล่องระยะสั้นเข้าสู่ระบบการเงินในสัปดาห์นี้สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม เพื่อชดเชยเงินทุนที่ถูกดูดออกจากระบบจากการชำระภาษีและการออกพันธบัตรรัฐบาลในปริมาณมาก
จากการคำนวณของ Bloomberg ระบุว่า PBOC ได้เติมเงินสุทธิ 1.3 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 1.81 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านสัญญากู้ยืมคืนระยะเวลา 7 วัน (reverse repo) ตลอดทั้งสัปดาห์
การดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่อัตราดอกเบี้ยซื้อคืนข้ามคืน (Overnight Repo Rate) และ อัตราดอกเบี้ยซื้อคืนระยะ 7 วัน (7-day Repo Rate) พุ่งสูงกว่าดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางในเดือนนี้ ซึ่งสะท้อนถึงภาวะสภาพคล่องที่ตึงตัวมากขึ้น โดยการอัดฉีดครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณว่าทางการจีนต้องการรักษาสภาพคล่องในระบบให้อยู่ในระดับเพียงพอเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ซึ่งยังคงเผชิญความเปราะบางจากการส่งออกที่ชะลอตัวและความเชื่อมั่นผู้บริโภคในประเทศที่ยังอ่อนแอ
เจ้าเผิง ซิง นักกลยุทธ์อาวุโสจากธนาคาร ANZ กล่าวว่า การอัดฉีดเงินของ PBOC ในสัปดาห์นี้มีขึ้นเพื่อลดแรงกดดันด้านสภาพคล่องที่เกิดจากการออกพันธบัตรของรัฐบาลและการชำระภาษีรอบใหญ่ในเดือนกรกฎาคม
ทั้งนี้เดือนกรกฎาคมถือเป็นเดือนสำคัญของการชำระภาษีในจีน โดยนอกจากภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้ที่ชำระเป็นรายเดือนแล้ว ยังรวมถึงภาษีรายไตรมาส เช่น ภาษีอากรแสตมป์ และภาษีสิ่งแวดล้อม ซึ่งครบกำหนดกลางเดือนกรกฎาคม
นอกจากนี้การออกพันธบัตรรัฐบาลจำนวนมากยังเป็นปัจจัยที่ดูดเงินออกจากระบบการเงิน โดยบริษัทหลักทรัพย์ Huachuang คาดว่าการออกพันธบัตรสุทธิของรัฐบาลในเดือนนี้จะอยู่ที่ราว 1.6 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้นเกือบ 1 ล้านล้านหยวนเมื่อเทียบกับปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ซิงจาก ANZ คาดว่า PBOC ไม่น่าจะยังคงอัดฉีดเงินต่อเนื่องหลังจากผ่านพ้นวันที่ 15 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันครบกำหนดชำระภาษีส่วนใหญ่
ทั้งนี้การอัดฉีดเงินของ PBOC ในวันศุกร์ลดลงเหลือสุทธิ 1.028 แสนล้านหยวน จากระดับสูงสุด 4.446 แสนล้านหยวนในวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่อัตรา repo ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 สะท้อนว่าแนวทางของธนาคารกลางเริ่มเห็นผลในการคลี่คลายความตึงตัวด้านสภาพคล่อง
อ้างอิง : www.bloomberg.com