‘ตัดหัวทหารกัมพูชา’ บิดเบือน-ปลุกปั่น อย่าแชร์! 10 ข่าวเท็จยอดฮิต ส่อกระทบมั่นคง
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพและข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ กล่าวหาทหารไทยว่ากระทำการโหดร้ายกับทหารกัมพูชา โดยเฉพาะการอ้างว่ามีการ ตัดศีรษะ และเหยียบย่ำศพนั้น ขอยืนยันว่าเป็น “ข่าวปลอม” ที่ไม่มีมูลความจริง และเป็นความพยายามบิดเบือนข้อมูลเพื่อปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชัง สร้างความตึงเครียดระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลไทยขอชี้แจงว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารไทยเป็นไปตามหลักมนุษยธรรม กฎหมายระหว่างประเทศ และระเบียบข้อบังคับของกองทัพอย่างเคร่งครัด ทหารกัมพูชาที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะบริเวณชายแดน ได้รับการดูแลรักษาพยาบาลจากฝ่ายไทยอย่างเหมาะสม ก่อนส่งตัวกลับประเทศผ่านจุดผ่านแดนช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ ด้วยกระบวนการที่เปิดเผย โปร่งใส และให้เกียรติ
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้เผยแพร่รายชื่อ 10 อันดับข่าวปลอมที่ถูกแชร์มากที่สุดในรอบสัปดาห์ ซึ่งล้วนเป็นข่าวบิดเบือนที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ได้แก่ 1.ข่าวทหารไทยตัดศีรษะทหารกัมพูชา 2.ข่าวทหารไทยเสียชีวิต 140 นาย 3.ข่าวทหารไทยเสียชีวิต 40 นาย ถูกจับ 30 นาย 4.ข่าวนอรเวย์บริจาคเครื่องบิน F-16 ให้ไทย
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวอีกว่า 5.ข่าวผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติสงคราม 6.ข่าวทหารไทยยึดคืนปราสาทพระวิหาร 7.ข่าวไทยใช้อาวุธชีวภาพโจมตีกัมพูชา8.ข่าวเครื่องบินปล่อยสารพิษใส่พลเรือนกัมพูชา 9.ข่าวกองทัพภาค 2 ระดมทุนช่วยแนวหน้า 10.ข่าวปลัดกระทรวงกลาโหมสั่งงดช่วยผู้ป่วยกัมพูชา ทั้งนี้ข่าวปลอมทั้งหมดนี้ ถูกตรวจสอบแล้วว่าเป็นการบิดเบือนข้อมูล โดยใช้ภาพเก่าหรือภาพจากต่างประเทศมาใส่คำบรรยายเท็จ เพื่อปลุกปั่นให้เกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง ซึ่งอาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
”รัฐบาลขอความร่วมมือประชาชนทุกคนร่วมกันหยุดวงจรข่าวปลอม อย่าแชร์ต่อหากไม่แน่ใจ ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากแหล่งข้อมูลทางการเท่านั้น หากพบข้อมูลน่าสงสัยหรืออาจเป็นข่าวปลอม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1111 หรือ Line ID: @antifakenewscenter และเว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com เพื่อร่วมกันปกป้องสังคมไทยจากความสับสนและความแตกแยก“ น.ส.ศศิกานต์ กล่าว