“ทรัมป์” จ่อรีดภาษีนำเข้าเพิ่ม 15-20% มุ่งเป้า “ประเทศไร้ดีล” การค้าสหรัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ 28 ก.ค.68 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ระบุว่า กำลังเตรียมบังคับใช้ภาษีศุลกากร (Tariffs) แบบครอบคลุมในอัตรา 15% ถึง 20% สำหรับสินค้านำเข้าจากประเทศที่ไม่มีข้อตกลงการค้าพิเศษกับสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นจากอัตรา 10% ที่ประกาศไว้ก่อนหน้าเมื่อเดือนเมษายน
ทรัมป์กล่าว ถ้อยแถลงนี้ที่ เมืองเทิร์นเบอร์รี สก็อตแลนด์ โดยระบุ มาตรการดังกล่าวจะมุ่งหมายให้ใช้กับประเทศที่ไม่มีข้อตกลงการค้าเจรจาไว้ล่วงหน้าแทนที่จะเข้าเจรจาเป็นรายประเทศ ทั้งนี้ ทรัมป์ชี้แจงว่าการออกนโยบายตั้งภาษีแบบกว้าง ๆ มีเป้าหมายเพื่อความเรียบง่ายและสามารถบังคับใช้ได้จริง เนื่องจากสหรัฐฯ ยังไม่มีข้อตกลงการค้ากับประเทศอีกเป็นจำนวนมาก การประกาศดังกล่าวมีขึ้นก่อนเส้นตายที่ทรัมป์ตั้งไว้เองคือ 1 สิงหาคม สำหรับการเริ่มใช้นโยบายตั้งกรอบภาษีนี้
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่การค้าระดับสูงจากสหรัฐฯ และจีนได้หารือกันที่ กรุงสต็อกโฮล์ม ในวันจันทร์ เพื่อถกประเด็นข้อขัดแย้งที่ลากยาวและเป็นสาเหตุของสงครามการค้าที่ยังดำเนินอยู่ ผู้เจรจาพยายามตกลงรายละเอียดเกี่ยวกับดีลการค้า
ขณะที่จีนมีเส้นตายวันที่ 12 สิงหาคมในการสรุปข้อตกลงการค้าระยะยาวกับวอชิงตัน หากตกลงกันไม่ได้ ก็เสี่ยงที่จะเกิดการตั้งภาษีรอบใหม่ โดยบางรายการอาจโดนเก็บภาษีเกิน 100% ทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะเป็นภัยต่อเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานโลกอีกครั้ง