ขัดแย้ง 'จีน-ทิเบต' ทำไมมังกรอยากเลือก ‘ทะไลลามะ’ องค์ต่อไปด้วยตัวเอง
“ทะไลลามะ” ผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบตองค์ปัจจุบัน จะมีพระชนมายุ 90 พรรษา ในวันอาทิตย์ที่ 6 ก.ค. นี้ ซึ่งนี้ไม่ใช่แค่วันคล้ายวันประสูติของพระองค์เท่านั้น แต่เป็นวันแห่งโอกาสในการเปิดเผยผู้สืบทอดตำแหน่งของพระองค์ด้วย
จีน มีความมุ่งมั่นที่จะควบคุมการสืบทอดตำแหน่งองค์ทะไลลามะ เพื่อป้องกันการกัดเซาะยึดครองทิเบต ที่จีนผนวกเข้าเป็นดินแดนเดียวกันในช่วงทศวรรษ 1950 ซึ่งช่วงนั้นทะไลลามะองค์ปัจจุบัน ถูกบีบบังคับให้หลบหนี โดยพระองค์ต้องปลอมตัวเป็นทหารจีนและเดินเท้าหลบหนีไปพร้อมกับครอบครัวและรัฐมนตรีของตนไปยังอินเดีย จากนั้นพระองค์ก็ก่อตั้งรัฐบาลในต่างแดนในเมืองดารัมศาลาทางตอนเหนือของอินเดีย
หัวใจสำคัญของการต่อสู้ครั้งนี้คือพรรคคอมมิวนิสต์จีนปราถนาที่จะควบคุมทุกอย่าง และปักกิ่งยืนกรานว่าจะเป็นฝ่ายอนุมัติผู้นำทางศาสนาคนต่อไป ซึ่งชาวทิเบตจำนวนมากมองว่าเป็นการบ่อนทำลายศรัทธาของพวกเขาเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง
ชาวพุทธทิเบตเชื่อว่านี่เป็นเรื่องของจิตวิญญาณ และเชื่อว่าองค์ทะไลลามะ หรือพระพุทธเจ้าที่ยังมีพระชนม์ชีพ จะกลับชาติมาเกิดใหม่
ทะไลลามะ เคยเคลื่อนไหวในเชิงกลยุทธ์ว่า ผู้สืบทอดนั้นจะสิ้นสุดที่พระองค์ แต่ก็เคยเผยถึงแนวคิดว่า ทะไลลามะองค์ต่อไปจะประสูตินอกทิเบต เหนือขอบเขตของทางการจีน เพื่อป้องกันไม่ให้คอมมิวนิสต์จีนแต่งตั้งหุ่นเชิด
ทั้งนี้ ทิเบตมีความสำคัญต่อจีน เนื่องจากตั้งอยู่ในชายแดนยุทธศาสตร์ติดกับอินเดีย เนปาล และภูฏาน หรือที่เรียกว่าพื้นที่หลังคาโลก และยังตั้งอยู่บนที่สูงตามแนวเทือกเขาหิมาลัย
พื้นที่ดังกล่าวมีชาวทิเบตอาศัยอยู่ราว 90% มีการใช้ภาษาที่แตกต่างจากภาษาจีนโดยสิ้นเชิง คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธและหลายคนยังคงมองว่าทะไลลามะผู้ลี้ภัย เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของพวกเขา แม้พระองค์ไม่ใช่ผู้นำทางการเมือง และได้สละอำนาจอย่างเป็นทางการไปแล้วในปี 2011 ก็ตาม
ปักกิ่งจึงต้องการลดบทบาทของทะไลลามะลงเนื่องจากบทบาทนั้นยังคงมีความสำคัญมาก
เอียน จอห์นสัน อดีตนักวิจัยอาวุโสเกี่ยวกับจีน จากสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กล่าวว่า “แม้ภูมิภาคนี้ไม่มีเทวาธิปไตยแล้ว แต่ทะไลลามะยังทรงมีคุณค่าเชิงสัญลักษณ์อย่างมาก พระองค์เป็นที่เคารพนับถืออย่างกว้างขวางมาก ซึ่งพรรค (คอมมิวนิสต์) ก็ไม่ได้พยายามห้ามแสดงรูปถ่ายของพระองค์ในบ้านของคนทั่วไปด้วยซ้ำ เพราะพวกเขารู้ดีว่ามันจะทำให้ผู้คนไม่พอใจอย่างมาก”
จอห์นสันกล่าวว่า แม้รัฐเผด็จการที่มีการปกครองอย่างเข้มงวดอย่างจีน ก็ยังพบว่าการใช้กำลังอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้นมีค่าใช้จ่ายสูง พรรคคอมมิวนิสต์จึงต้องการเอาชนะใจชาวทิเบตและความภักดีทางการเมืองของพวกเขา นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมการเลือกทะไลลามะองค์ต่อไปมีความสำคัญมาก
"ผู้สืบทอดตำแหน่ง" เป็นเรื่องที่สร้างความขัดแย้งระหว่างทะไลลามะและรัฐบาลปักกิ่งมาอย่างยาวนาน ทั้งสองฝ่ายเคยแต่งตั้งเด็กผู้ชายคนละคนเพื่อดำรงตำแหน่งผู้นำทางจิตวิญญาณที่สำคัญอีกตำแหน่งคือ "ปันเชนลามะ" ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญอันดับสองในพุทธศาสนาแบบทิเบต
เกดหุน โชคยี นยีมา (Gedhun Choekyi Nyima) เด็กชายวัย 6 ขวบที่ทะไลลามะเลือกให้เป็นปันเชนลามะองค์ที่ 11 ถูกเจ้าหน้าที่จีนควบคุมตัวเมื่อปี 1995 และไม่มีใครพบเห็นอีกเลยนับตั้งแต่นั้นมา
ขณะเดียวกัน ปันเชนลามะ ที่ได้รับการคัดเลือกจากปักกิ่งก็ให้คำมั่นว่าจะภักดีต่อพรรค (คอมมิวนิสต์) ระหว่างการพบปะแบบตัวต่อตัวกับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อเดือนมกราคม
ทะไลลามะเตือนว่า จีนอาจพยายามทำแบบเดียวกันกับผู้สืบทอดตำแหน่งของพระองค์หลังจากพระองค์สิ้นพระชนม์ รวมถึงเสริมความแข็งแกร่งเหนือทิเบตและลดความสำคัญของรัฐบาลเงาในอินเดียลง
ภัยคุกคามใดๆ ที่เกิดขึ้นต่ออำนาจของปักกิ่งในภูมิภาคมักถูกปราบปรามเรื่อยมา ความพยายามเหล่านั้นก็รุนแรงมากขึ้นนับตั้งแต่ การประท้วงต่อต้านรัฐบาลจีน ปี 2008
กลุ่มสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ปักกิ่งพยายามปราบปรามวัฒนธรรมท้องถิ่น ทำลายวัดวาอาราม สำนักชีและโบราณวัตถุทางวัฒนธรรม รวมถึงการปราบปรามการปฏิบัติตามหลักพุทธศาสนานิกายทิเบต
ทั้งนี้ ปักกิ่งมีความสามารถในการควบคุมพื้นที่ที่เกิดความไม่สงบมาก่อน ส่วนใหญ่อยู่ในซินเจียง โดยทางการได้ดำเนินการกักขังหมู่และปลูกฝังความคิดทางการเมืองต่อชาวอุยกูร์ที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม รวมทั้งสมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์และกลุ่มศาสนาส่วนน้อยอื่นๆ ด้วย แม้จีนปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ แต่ต่อมาได้ออกมาปกป้องการดำเนินงานดังกล่าว โดยบอกว่าต้องใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อต่อต้านการก่อการร้าย ขณะเดียวกันก็อ้างว่าสถานที่กักขังหลายแห่งปิดไปแล้ว
จีนยังได้ยกย่องการบริหารด้านเศรษฐกิจในซินเจียง ว่าเป็นตัวอย่างของความสำเร็จของนโยบายตนเอง แต่ความจริงนั่นเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่รัฐบาลใช้ควบคุม
ในทิเบต รัฐบาลจีนก็ดำเนินการแบบเดียวกัน และมีแผนก่อสร้างโครงการพลังงานน้ำที่เป็นที่ถกเถียงริมแม่น้ำสายหลักสายหนึ่งของภูมิภาค ซึ่งคาดว่าอาจเป็นการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่
ความพยายามนี้ไม่เคยช่วยเหลือท้องถิ่น รายงานในปี 2024 ของ Jamestown Foundation สถาบันคลังสมองในวอชิงตันระบุว่า มาตรการของรัฐบาลจีนในการกระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาสภาพแวดล้อมธุรกิจของทิเบต จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อชาวจีนที่นั่น ขณะที่ชาวทิเบตเผชิญกับการถูกละเลยทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี ทิเบตได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐชุดก่อน รวมถึงรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในสมัยแรก ซึ่ง ณ ตอนนั้น สภาคองเกรสได้ผ่านร่างกฎหมายสำคัญที่มุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่จีนที่ต้องการแทรกแซงการสืบทอดอำนาจ โดยกำหนดโทษเจ้าหน้าที่เป็นการคว่ำบาตร แต่ตั้งแต่นั้นมา วอชิงตันได้ตัดความช่วยเหลือ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพในอนาคตของสถาบันทิเบตอย่างมาก
ขณะที่รัฐบาลนิวเดลีได้ให้การสนับสนุนชาวทิเบตอย่างเต็มที่ พร้อมกับรักษาสมดุลความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านจีนอย่างระมัดระวัง แต่การตอบสนองของนิวเดลีต่อการสืบทอดตำแหน่งทะไลลามะจะถูกจีนติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากทั้งสองฝ่ายเพิ่งได้เริ่มต้นสานสัมพันธ์อย่างค่อยเป็นค่อยไป เห็นได้จากผู้แสวงบุญชาวอินเดียที่เดินทางกลับไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของทิเบตอีกครั้งเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี
ทั้งนี้ องค์ทะไลลามะในอุดมคติของปักกิ่งคือผู้ต้องอยู่ภายใต้อำนาจของพรรค ไม่ใช่ประชาชนชาวทิเบต แต่นั่นคงเป็นโศกนาฏกรรมสำหรับชาวทิเบตที่กำลังดิ้นรนเพื่อรักษาเอกลักษณ์ของตนเอาไว้
บทความนี้แปลมาจากบทความของ คาริชมา วาสวานี ผู้เขียนคอลัมน์ให้กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
อ้างอิง: Bloomberg